สีสันของผ้าใบป้ายร้านค้าหลากสี เสียงแม่ค้าร้องเชิญชวนให้ชาวบ้านแวะซื้อแวะชิมอาหาร เป็นภาพที่เห็นได้ประจำทุกเช้าตามตลาดทั่วมุมเมือง “ตลาดสี่แยกทศกัณฑ์” ริมถนนพุทธมณฑลสาย 2 มีพ่อค้าแม่ขายออกมาตั้งร้านทำมาหากินตั้งแต่เช้ามืด ผู้คนเดินเลือกซื้อหาของกินของใช้กันขวักไขว่ ยิ่งรัฐแจกสิทธิ์คนละครึ่งพลัสรอบใหม่ตลาดยิ่งคึกคักขึ้นผิดหูผิดตา “คุณชายตะลอนชิม” สัปดาห์นี้ “คุณชายแป๊ะ” ขอแนะนำร้าน “หมูติดปีก” ของ “เบลล์ วลัญช์สิริ จำนงค์ฤทธิ์” อายุ 39 ปี ที่กำลังง่วนอยู่หน้าแผงขายของขนาด 2 เมตร คูณ 2 เมตร สังเกตเห็นเธอใช้ทัพพีตักข้าวเหนียวร้อนๆใส่กระดาษห่อพูนใหญ่ ก่อนท็อปหน้าด้วยสารพัดเมนูยอดฮิตทั้ง หมูเจียงฮาย, หมูกระเทียม, ไก่กระเทียม, ไก่เผ็ด และปีกบนทอด ห่อกระดาษถูกรวบมุมเข้าหากันแทบปิดไม่มิดต้องใช้หนังยางรัดให้แน่นหนา ด้วยปริมาณที่เห็นคาดคะเนว่าสามารถแบ่งรับประทานได้มากกว่า 1 มื้อแน่นอน“เลือกผสมกันก็ได้นะคะ” คุณเบลล์ออกปากเชิญชวนในเมื่อทุกถาดมันดูน่ากินไปหมดทำเอาผมเลือกไม่ถูก “เอาหมูเจียงฮายกับไก่เผ็ดรวมกันห่อนึงครับ” ในใจคิดว่าจะสั่ง 1 ห่อ กับของทอด 3 อย่างก็เกรงใจแม่ค้า ถึงแม้เธอจะเสนอว่าสั่งกี่อย่างก็ได้ แต่ผมเลือกเอามาชิมก่อนแค่ 2 อย่างเท่านั้น ข้าวเหนียวที่ให้มาน่าจะกินได้หลายคน ข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆหอมนุ่มเหลือเกิน “หมูเจียงฮาย” หมักเครื่องเข้าเนื้อ เคี้ยวแล้วกรุบกรอบ ทอดรีดน้ำมันจนแห้ง มีแป้งทอดกรอบเคลือบบางๆ บอกเลยว่าอร่อยคุ้มค่าเกินราคา ในขณะที่ “ไก่เผ็ด” หอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย ได้ความเผ็ดร้อนของพริกแห้งทอด กินแล้วแซ่บลิ้นดีแท้ ช่วงสายของวันผ่านไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับของในถาดทยอยขายจนใกล้หมด แถวเริ่มสั้นลงแล้ว ผมจึงเข้าคิวอีกรอบเพื่อสั่งของทอดที่เหลือทั้งหมดมาชิม ทุกอย่างกรอบอร่อย รสชาติการหมักเข้าเนื้อเมื่อกินคู่กับข้าวเหนียวร้อนๆเข้ากันที่สุด นอกจากนี้ยังมี “ปลาร้าบอง” สำหรับเพิ่มรสชาติความแซ่บ ขายกระปุกเล็ก 20 บาท รสชาติเด็ดขาด “เอกลักษณ์ของเราอยู่ที่คุณภาพและราคา คุณภาพอาหารของเราอร่อยรสชาติดี ข้าวเหนียวนุ่มอยู่ได้ทั้งวัน เพราะใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู แช่น้ำข้ามคืนก่อนนึ่ง ทำให้ข้าวเหนียวนุ่ม เก็บถึงเย็นก็ยังนุ่มอยู่” คุณเบลล์ชูความโดดเด่นของร้าน ที่ทำให้หลายๆคนเป็นลูกค้าขาประจำ พร้อมอธิบายการทำเครื่องแต่ละชนิด เริ่มจาก “หมูเจียงฮาย” ใช้มันแข็งนำไปหมักด้วยซอสปรุงรส รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด ทำให้มีความหอมมากกว่าพริกไทยป่นหมักไว้ข้ามคืนแล้วนำไปทอดรีดน้ำมันจนแห้งกรอบ “หมูกระเทียม” ใช้เนื้อสะโพกหมูมาหั่น เป็นส่วนที่ไม่ค่อยมีมัน เมื่อหมักแล้วได้ความนุ่ม ได้กลิ่นหอมกระเทียมพริกไทยมาเต็ม เพิ่มรสชาติด้วยซีอิ๊วขาว และมีส่วนผสมของแป้งที่หมักผสมไว้ด้วยกัน เมื่อทอดออกมาจะกรอบนอกนุ่มใน “ไก่กระเทียม” ใช้เนื้อไก่ทั้งส่วนเนื้อหน้าอกและสะโพก เน้นส่วนเนื้อและติดหนังเล็กน้อย หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ร้านนี้สั่งเนื้อไก่สดจากเจ้าประจำ ทำให้ได้ขนาดตามความต้องการ“ไก่เผ็ด” คล้ายไก่กระเทียม แต่จะใส่พริกแห้งเพื่อให้มีกลิ่นหอมและมีความเผ็ดขึ้นเล็กน้อย เหมาะสำหรับคนที่ชอบความจัดจ้านรสแซ่บๆ กินกับข้าวเหนียวก็จะทำให้ได้อรรถรส“ปีกบนทอด” ใช้ปีกส่วนบนมาหมักตามสูตรเฉพาะของร้านแล้วนำไปทอด เป็นเมนูโปรดของเด็กนักเรียนที่ซื้อไปกินตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน คุณเบลล์เล่าว่า “จุดเด่นของร้านเราคือ ขายราคาถูก และอาหารอร่อยมีคุณภาพ ห่อหนึ่งเบลล์ใส่ให้เยอะมาก บางคนกินได้ 2–3 มื้อ เผื่อไปถึงเย็นข้าวเหนียวก็ยังนุ่ม ลูกค้าบางคนซื้อไปแบ่งกิน 2 คนก็มี โดยหมูกับไก่จะหมักข้ามคืนและได้รสชาติเข้าเนื้อ หอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย ถึงจะขายได้กำไรน้อย แต่เราได้จำนวนขายที่มันเยอะต่อวัน ทำให้มีกำไรพออยู่ได้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ก็อยากให้ลูกค้าได้กินอะไรที่อิ่มอร่อยด้วยเงินราคาห่อละ 30 บาท อย่างเด็กนักเรียนได้เงินไปโรงเรียนวันละไม่กี่บาทก็สามารถซื้อของเรากินได้ เหมือนเราได้ช่วยกันแม้จะกำไรไม่มาก พอใจที่จะอยู่ค้าขายกันไปนานๆ ดีกว่า ไม่ใช่ขายกะเอารวย”“หมูติดปีกเกิดขึ้นได้ยังไงครับ” ผมย้อนถามไปถึงจุดเริ่มต้นร้าน คุณเบลล์ตอบแบบแทบไม่ต้องนึกเหมือนเวลาเพิ่งผ่านมาไม่นาน “ก่อนหน้านี้เบลล์เป็นผู้จัดการฝ่ายขายรถยนต์ยุโรปแบรนด์หรู รายได้หลักแสนต่อเดือน แต่ต้องแบกรับความกดดันตามมา ทั้งยอดขาย ทั้งปัญหาจิปาถะ เลยคิดว่าเงินแสนก็ไม่ได้ทำให้มีความสุข ตอนนั้นพี่ชาย (เบิร์ด–วีร์วิชญ์) ขายข้าวเหนียวไก่ทอดอยู่ที่จังหวัดลพบุรี จึงตัดสินใจออกจากงานประจำกลับไปเรียนรู้สูตรการหุงข้าวเหนียวและหมูทอดกับพี่ชาย ก่อนกลับมากรุงเทพฯเปิดร้านหมูติดปีกได้นาน 6 เดือนแล้ว การเป็นนายตัวเองมีความสบายใจกว่า แม้รายได้จะไม่สูงเหมือนแต่ก่อน และมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่มันมีความสุขใจที่ได้ออกมาทำอะไรเอง” “ชีวิตการทำงานของเบลล์เริ่มตั้งแต่สิบโมง เตรียมหมักหมู หมักไก่ แช่ในตู้เย็น เข้านอนตั้งแต่หกโมงเย็น ตื่นเที่ยงคืนเพื่อนึ่งข้าวเหนียวมาจากบ้าน พอถึงเวลาตีสี่เดินทางมาที่ตลาด เพื่อตั้งกระทะทอดของที่หมักไว้ให้พร้อมขายตอนตีห้า ขายหมดประมาณเก้าโมงครึ่งเก็บของกลับบ้าน ชีวิตวนลูปเป็นรูทีนแบบนี้ทุกวัน ช่วงแรกที่ออกจากงานประจำมานั่งหุงข้าวเหนียวตอนเที่ยงคืน เบลล์ถามตัวเองว่า เรามาทำอะไรอยู่ตรงนี้ จาก ที่เคยตื่นสายๆเข้าไปทำงานโชว์รูม แต่พอผ่านช่วงที่ท้อแท้ไปได้กลับพบว่า แม้จะเหนื่อยแต่มีความสบายใจมาก ไม่ว่าจะทำงานอะไรมันก็มีปัญหาทั้งนั้น แต่งานขายของเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆที่เราสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง มันเหนื่อยกายแต่สบายใจ เบลล์อยากให้ทุกคนมาลองชิม “ข้าวเหนียวหมูติดปีก” กันนะคะ ข้าวเหนียวกับเครื่องทุกห่อราคาเดียว 30 บาท รับรองว่าได้ทานอาหารดีมีคุณภาพ” คุณเบลล์กล่าวเชิญชวนทิ้งท้าย สนนราคาหมูเจียงฮายขีดละ 45 บาท ห่อข้าวเหนียว 30 บาท, หมูกระเทียมขีดละ 40 บาท ห่อข้าวเหนียว 30 บาท, ไก่กระเทียมขีดละ 35 บาท ห่อข้าวเหนียว 30 บาท, ไก่เผ็ด ขีดละ 35 บาท ห่อข้าวเหนียว 30 บาท และปีกบนทอด 3 ชิ้น 25 บาท ห่อข้าวเหนียว 30 บาท ร้าน “หมูติดปีก” ขายทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 น.ถึง 09.30 น. สั่งดีลิเวอรีใน Grab, LINE MAN และ Shopee Food ค้นหาร้าน “หมูติดปีกสี่แยกทศกัณฑ์” โทรศัพท์ 08–4293–5494 ร้านนี้รับสิทธิ์คนละครึ่งพลัส.คุณชายแป๊ะคลิกอ่านคอลัมน์ “คุณชายตะลอนชิม” เพิ่มเติม