พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก โหมรุมเร้าผู้นำ “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เพิ่งโดนพายุอารมณ์ประชาชนเหวี่ยงใส่ล้มเหลวบริหารจัดการปัญหาอุทกภัยภาคใต้ทุกมิติ สำลักคิวน้ำท่วมหาดใหญ่ ทำภูมิคุ้มกันบกพร่องหนักล่าสุดภูมิคุ้มกันยังถดถอยเพิ่ม มีภาพหลุดอยู่ในวงรูปหมู่ร่วมเฟรม “เบน สมิท” หัวโจกใหญ่กลุ่มทุนสีเทาอาชญากรรมออนไลน์ไทย-กัมพูชา ที่เพิ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดทรัพย์กระแทกความเชื่อมั่นติดลบเพิ่มขึ้นต้องรีบชี้แจงเคลียร์ข้อกังขาพัลวัน เป็นภาพเก่า 10 ปีที่แล้ว ตอนเจอกันครั้งแรก เพราะเป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อน แต่ไม่สนิทสนม แม้จะเจอกัน 5-6 ครั้งเร่งสกัดไฟก่อนลุกลาม แก้เกมความพยายามของคนที่โยงภาพคุ้นเคยเจ้าพ่อสแกมเมอร์ เพิ่มน้ำหนักชวนสงสัย เหตุใดการปราบปรามทุนเทาป้อแป้หัวเชื้อปัญหาเดิมๆ แต่มาเจาะจงเลือกปล่อยภาพในจังหวะแต้มบุญ “นายกฯหนู” ลดฮวบ หวังผลทางการเมือง ทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาลต่อเนื่องรัวๆล่อทั้งนายกรัฐมนตรี และหันไปเตะตัดขาเล่นงานว่าที่แคนดิเดตนายกฯ เบอร์สอง พรรคภูมิใจไทย เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ที่พลอยติดร่างแห มีภาพถ่ายคู่นายเบน สมิท ในอีกเวอร์ชันกระตุ้นความรู้สึกประชาชนให้คล้อยตาม ไม่เชื่อมั่นการทำงานหัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ลาก 2 อ. “อนุทิน-เอกนิติ” เป็นจำเลยสังคม เหมือนที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เคยมีภาพหลุดคู่ “เบน สมิท” ก่อนหน้านี้ ร่วมเปื้อนโคลนตามไปด้วยกันรูปเก่าในอดีตเกินทศวรรษ แต่มาสร้างปัญหาในปัจจุบัน ถูกนำมาเพิ่มแรงกระแทก ต่อให้ “นายกฯหนู” จะรัดเข็มขัดแน่นแค่ไหน ก็ย่อมได้รับความกระทบกระเทือนยังไม่รู้จะมีภาพถ่ายเวอร์ชันอื่นๆหลุดตามมาหลังจากนี้ ทำลายความเชื่อมั่นรัฐบาลเพิ่มอีกหรือไม่ภูมิต้านทานรัฐบาลสีน้ำเงินแปรปรวน ผลสืบเนื่องจากความล้มเหลวแก้ปัญหาวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้ ผสมโรงไปกับการขยายผลความล่าช้าปราบโจรสแกมเมอร์ข้ามชาติ ฉุดคะแนนพรรคภูมิใจไทยร่วงส่อกระทบเป้าหมายกวาด 30 สส.ภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทย จาก 54 ที่นั่ง เจอเส้นทางวิบากมากขึ้นแต้มต่อในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญหล่นระเนระนาด เปิดช่องให้คู่แข่งเร่งตีตลาดด้ามขวานคึกคักพรรคประชาชนส่ง สส.ลุยน้ำท่วม หวังแชร์ส่วนแบ่งที่นั่ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ “หัวหน้ามาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ฮึดสู้ หวังทวงความเป็นเจ้าสนามภาคใต้กลับคืนมา“ประชาชน-ประชาธิปัตย์” รุกหนักหายใจรดต้นคอภูมิใจไทยแต้มบุญพรรคภูมิใจไทยที่สะสมไว้จากการปั่นกระแสชาตินิยม ประชานิยมในโครงการคนละครึ่งพลัส ถูกน้ำพัดไปกับภัยธรรมชาติ พร่องหน้าตัก ต้นทุนคะแนนนิยมที่สั่งสมมา อาจสูญเปล่าเสียงขู่ยุบสภา วันที่ 12 ธ.ค.ของ “นายกฯหนู” แผ่วไปดื้อๆ เพราะต้องเร่งกู้แต้ม อัดแคมเปญคนละครึ่งเฟสสอง ที่จะเริ่มต้นในเดือน ม.ค.2569 ทวงเรตติ้งคืนมาก่อนสถานการณ์บังคับต้องยื้อแผนยุบสภาเร็ว หันไปกุลีกุจอเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ วันที่ 10-11 ธ.ค. เร่งเครื่องผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 เดินตามเอ็มโอเอที่ผูกมัดกับพรรคประชาชนตามสัญญาณที่ 2 พรรคฝ่ายค้านหลัก “ประชาชน-เพื่อไทย”ขอพักรบ เบรกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไว้ชั่วคราว ในช่วงการเปิดประชุมสภาฯรอบใหม่ วันที่ 12 ธ.ค. รอให้การแก้รัฐธรรมนูญผ่านวาระ 3 ปลายเดือน ธ.ค.แล้วค่อยชักธงรบใหม่รัฐบาลได้ทอดเวลาเดินต่อ ไปเตรียมอัดแคมเปญประชานิยมเพิ่ม พร้อมจัดโผแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดให้ลงล็อก รับการเลือกตั้งรอบใหม่โค้งสุดท้าย “นายกฯหนู” เร่งปรับทัพหลีกภัย เพื่อทวงแต้มวางองคาพยพเลือกตั้งให้เสร็จ ก่อนโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ในปลายเดือน ธ.ค. หรือต้นเดือน ม.ค.2569ช่วงเวลาหมดตัวประกัน “แก้รัฐธรรมนูญ” มาใช้ต่อรองฝ่ายค้าน ถึงเวลาที่พรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ เพื่อทำแต้มทิ้งทวนก่อนเลือกตั้งโหวตผ่านรัฐธรรมนูญวาระ 3 เมื่อใด ได้เวลายุบสภา ไม่รอให้ใครมาด่าฟรี!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม