วิกฤติน้ำกรมชลฯ สั่งหน่วงน้ำเหนือลงเขื่อนภูมิพลบรรเทาทุกข์พื้นที่ท้ายเขื่อน สุโขทัย นครสวรรค์อ่วมชาวบ้านติดเกาะเดือดร้อนกว่า 1,000 ครัวเรือน ชัยนาทน้ำหนุนต่อเนื่องท่วมขยายวงกว้าง สิงห์บุรีเสริมแนวกั้นน้ำเพิ่มหลังกระสอบทรายพังน้ำเจ้าพระยาทะลัก อยุธยาอ่วม 10 อำเภอ ขณะที่ สนทช.เสนอแผนการสร้างเขื่อนเก็บน้ำอีกแห่งเหนือเขื่อนเจ้าพระยาใช้งบร่วม 4 หมื่นล้านบาทวิกฤติน้ำเหนือหลากไหลเข้าเขื่อนภูมิพลเต็มความจุ กรมชลประทานเร่งระบายน้ำลงพื้นที่ท้ายเขื่อนส่งผลกระทบหลายจังหวัด ชาวบ้านอยู่อย่างทุกข์ระทมบ้านจมน้ำกว่า 3 เดือนวอนภาครัฐเยียวยา ความคืบหน้าช่วงสายวันที่ 13 พ.ย. นายเกื้อกูล มานะสัมพันธ์สกุล ผอ.โครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มีปริมาณน้ำเต็มความจุ 13,397 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) น้ำไหลเข้าเขื่อนวันนี้ 88 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 53 ล้าน ลบ.ม. ประกอบกับกรมชลประทานมีนโยบายให้หน่วงน้ำไว้ในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำปิง เพื่อบรรเทาน้ำหลากในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทางโครงการชลประทานเชียงใหม่ดำเนินการยกฝายพับที่อาคารระบายน้ำล้นอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง เพื่อหน่วงน้ำให้อยู่ในอ่างเก็บน้ำแม่จอกหลวง ขณะเดียวกันที่ประตูระบายน้ำท่าวังตาล อ.เมืองเชียงใหม่ ประตูน้ำฝายดอยน้อย ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ และประตูระบายน้ำแม่สอย เป็นประตูระบายน้ำตัวสุดท้ายในแม่น้ำปิงลดการระบายน้ำในแม่น้ำปิงที่จะไหลลงสู่ทะเลสาบดอยเต่า และเขื่อนภูมิพล จ.ตาก เช่นเดียวกันสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ที่วัดกำแพงงามระดับน้ำท่วมสูงถึงหน้าอก พระสงฆ์ไม่ได้ออกบิณฑบาตเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลบ่ามาทางด้านหลังวัดออกทางประตูหน้าวัดแรงและเชี่ยว ขณะที่ชาวบ้านใน ต.บ้านกล้วย เดือดร้อนน้ำไหลท่วมบ้านข้าวของเสียหาย ส่วนที่หน้าโรงพยาบาลสุโขทัยถึงแม้ว่าน้ำจะลดลงเล็กน้อย ทหารนำรถบรรทุกขนาดใหญ่พาชาวบ้านมารักษาตัวที่ รพ. เนื่องจากรถเล็กยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ที่ จ.นครสวรรค์ แม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่หมู่ 1-7 ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี น้ำท่วมถนนหลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากเส้นทางสัญจร ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะเพื่อเดินทางเข้าออก ระดับน้ำสูงเทียบพื้นชั้นสองของบ้าน ชาวบ้านอพยพไปอยู่ที่พักพิงชั่วคราว บ้านเรือนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 1,000 หลังคาเรือนส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อัตราระบายน้ำตรึงไว้อยู่ที่ 2,900 ลบ.ม./วินาที ส่งผลกระทบทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่ อ.สรรพยา ได้รับผลกระทบขยายวงกว้างจากเดิม 4 ตำบลขยายเป็น 6 ตำบล 35 หมู่บ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยเหลือชาวบ้านใน ต.โพนางดำออก และ ต.หาดอาษา เคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงนำส่ง รพ.สรรพยา เพื่อความปลอดภัย เพราะระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหตุแนวกระสอบทรายกั้นน้ำในพื้นที่หมู่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี พังลงทำให้มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมตลาดฝั่งตะวันตกของ อ.อินทร์บุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่ อบต.อินทร์บุรี ตั้งแนวรับน้ำใหม่ใช้หินคลุกตั้งแนวที่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาห่างจากจุดแนวกั้นเดิมระยะทางยาวประมาณ 1 กม.เพื่อกั้นน้ำที่ไหลขยายวงกว้างออกไป ต่อมากระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้แนวกั้นพังน้ำไหลเข้าท่วมโรงเรียนอินทร์บุรี และไหลล้อมอยู่ที่ รพ.อินทร์บุรี ด้านบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน ต. โรงช้าง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี แจกถุงยังชีพจำนวน 250 ครัวเรือน และเงินครัวเรือนละ 1,000 บาทด้านนายสมบัติ ไตรศักดิ์ ผวจ.สิงห์บุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชัยรพ จุณณวัตต์ ผบก.ภ.จ.สิงห์บุรี พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาส รอง ผบก. พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผกก.สภ.เมืองสิงห์บุรี นายศุภวัฒน์ เทียนถาวร นายก อบจ.สิงห์บุรี และนายณรงค์ศักดิ์ วิงวอน นายกเทศมนตรีเมืองสิงห์บุรี ลงพื้นที่ตรวจเส้นทางที่แยกหลักเมือง อ.เมือง จ.สิงห์บุรี นำหินคลุกมากั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าตัวเมืองจ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมได้รับผลกระทบ 11 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เสนา อ.ผักไห่ อ.บางบาล อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน อ.บางปะหัน อ.บางซ้าย อ.บ้านแพรก อ.ลาดบัวหลวง และ อ.มหาราช โดยเฉพาะที่ อ.บางบาล เร่งระบายน้ำลงทุ่งบางบาล และประตูระบายน้ำต่างๆในพื้นที่ เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยมีปริมาณมาก น้ำท่วมถนนทางหลวง 3445 หรือถนนสายเสนา-ผักไห่ น้ำท่วมขยายวงกว้าง เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงกั้นคันดินเพื่อระบายน้ำออกจากถนนขณะที่นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ว่า สทนช.เสนอแผนการสร้างเขื่อนเก็บน้ำอีกแห่งหนึ่งบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จะเสนอเข้าแผนงานภายในปีงบประมาณ พ.ศ.2570 เขื่อนที่จะสร้างใหม่คาดว่าจะใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 3-4 หมื่นล้านบาท ใช้งบประมาณจากรายจ่ายประจำปี หรือการกู้เงินจากแหล่งเงินต่างประเทศ เช่น ธนาคารโลก (World Bank) หรือธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ก็ได้เช่นกัน คาดว่าโครงการนี้จะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 7 ปี หากเริ่มก่อสร้างเร็วประชาชนจะได้ประโยชน์ทั้งเรื่องของการบรรเทาอุทกภัย และแก้ปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้เขื่อนแห่งใหม่หากก่อสร้างเสร็จจะช่วยลดปริมาณน้ำก่อนเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ก่อนที่จะไหลต่อเนื่องมาสู่ระบบระบายน้ำบริเวณตอนล่างของแม่น้ำเจ้าพระยา จะกักเก็บน้ำเอาไว้และทยอยปล่อยออกมาในปริมาณ 400-800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที นอกจากนี้ เขื่อนดังกล่าวยังสามารถใช้เป็นที่เก็บน้ำสำหรับฤดูแล้งได้ราว 50 ล้านลูกบาศก์เมตรนายดนุชากล่าวว่า ตอนนี้เครื่องมือเดิมคือคลองระบายน้ำมีไม่เพียงพอ รวมทั้งเขื่อนเจ้าพระยาบางสถานการณ์ทำหน้าที่เป็นเพียงเขื่อนทดน้ำไม่ใช่เขื่อนเก็บน้ำ หากเขื่อนแห่งใหม่สร้างเสร็จจะส่งผลให้มวลน้ำที่ไหลตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณลดลง และจะลดโอกาสที่จะเกิดอุทกภัย ประกอบกับการใช้ประโยชน์จากคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จะช่วยให้สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แผนงานที่ดำเนินการอยู่ในเวลานี้ได้แก่ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา จากปัญหาขาดคันกั้นน้ำ โครงการที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว ได้แก่ โครงการระบบระบายน้ำฝั่งตะวันออกที่จะใช้เงินกู้จากธนาคารโลก (World Bank) ราว 9 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาเครือข่ายระบบคลองระบายน้ำดังกล่าวตามแผนงานต่อไปสำหรับแนวคิดเรื่องการสร้างเขื่อนบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตามที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ นายดนุชาให้ความเห็นว่าการพัฒนาระบบป้องกันน้ำให้ดีนั้นอย่างไรก็จะเป็นประโยชน์ เพราะเราไม่รู้ว่าในปีนั้นๆปริมาณน้ำจะมามากหรือน้อยอย่างไร หากบริเวณตอนล่างมีระบบป้องกันน้ำที่มีประสิทธิภาพจะสามารถช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาปริมาณน้ำมากเกินความสามารถ หรือปัญหาน้ำทะเลหนุนในอนาคตกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ในขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียสมีรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 13 พ.ย. พ.ต.ท.มนเทียน ภูเขา สว. (สอบสวน) สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอินทร์บุรีมีผู้เสียชีวิตถูกไฟช็อต ไปตรวจสอบพบศพนายกฤชธนภาษณ์ ทองใบ อายุ 30 ปี นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติการ สาธารณสุขอินทร์บุรี สอบถามเพื่อนผู้ตายทราบว่า ช่วงเช้าเกิดน้ำท่วมทะลักเข้าที่บ้านพักเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินทร์บุรี หมู่ 3 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ต่างฝ่ายต่างรีบไปเก็บของหนีน้ำ มาพบอีกครั้ง เห็นเพื่อนถูกไฟช็อตหมดสติที่ชั้น 1 รีบนำส่ง รพ. แต่สุดยื้อเสียชีวิตอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่