“อนุทิน” ร่อนแถลงการณ์ดับข่าวชิงยุบสภาฯ หนีซักฟอก ปัดจับแก้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แจงยิบ ยึดเอ็มโอเอยุบสภาฯใน 120 วัน เดินหน้าผลักดันแก้รัฐธรรมนูญ พลิ้วญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงกับประชาชนลั่นหากมีการยื่นอภิปรายเพื่อหาทางออกประเทศพร้อมชี้แจง โบ้ยปัญหาสแกมเมอร์มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน “จุลพันธ์” โวยใช้เกมแก้ รธน.สกัดการตรวจสอบ เฉ่งวง กมธ. เดินอืดเตะถ่วง องค์ประชุม กมธ.แก้ รธน.ล่ม “เอกพร” อ้าง กมธ.บางคนติดภารกิจต่างประเทศ-ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วม “ไผ่” รับส่งทีมงาน ยื่น กกต.ยุบค่ายสีส้ม เซ่นตั้งเด็ก ม.4 เป็นผู้ช่วย สส.และใช้เงินเดือนผู้ช่วย สส.จ่ายให้สมัครสมาชิก ฟันผิดกฎหมาย ปปง.พ่วงจริยธรรมร้ายแรง “เพชร”หยันยื่นยุบพรรคถอนแค้นถูก “ไอซ์” ปั่นจนหัวหมุน ยันผู้ช่วย สส.จบมัธยมปลายแล้วจากกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย ออกมาระบุหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจยุบสภาไม่ยอมถูกด่าฟรี ทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นทางการเมือง ล่าสุดระหว่างการเยือนประเทศสิงคโปร์ นายกฯได้ออกแถลงการณ์ยืนยันยึดเอ็มโอเอที่ทำไว้กับพรรคประชาชน (ปชน.) ตามเดิม พร้อมปฏิเสธไม่มีการหยิบเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกัน“อนุทิน” ไปสิงคโปร์ฉลองสัมพันธ์ 60 ปีเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 7 พ.ย.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย พร้อมนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขาธิการนายกฯ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนาย ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯสิงคโปร์ เพื่อกระชับความ สัมพันธ์และผลักดันความร่วมมือสาขาต่างๆในโอกาสครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์ ไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติชางงี เวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมง) มีนายตัน ซี เหล่ง รมว.แรงงาน รัฐมนตรีเกียรติยศ และ น.ส.หว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอรีน เอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทยรอต้อนรับ จากนั้นไปที่สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ ร่วมพิธีตั้งชื่อกล้วยไม้ (VIP Orchid Naming) โดยรัฐบาลสิงคโปร์ตั้งชื่อกล้วยไม้สายพันธุ์ใหม่ว่า “Vanchoanthe Anutin Thananon Charnvi rakul” เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯและภริยาขอจับมือปราบอาชญากรรมออนไลน์ต่อมาเวลา 11.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ นายอนุทินร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการและตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ โดยนายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯสิงคโปร์ ต้อนรับอบอุ่น จากนั้นร่วมหารือทวิภาคีกันที่ห้อง Heritage ชั้น 2 กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ โดยนายอนุทิน แสดงความซาบซึ้งที่นายลี เซียน ลุง อดีตนายกฯสิงคโปร์ เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง นายลอว์เรนซ์ได้แสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่านายกฯทั้งสองเห็นพ้องจะผลักดันความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจสีเขียว ดิจิทัล และความมั่นคงทางพลังงาน จะช่วยยกระดับศักยภาพอาเซียนโดยรวม การต่อต้านอาชญกรรมข้ามชาติ นายอนุทินขอรับความร่วมมือทำงานร่วมกับสิงคโปร์อย่างใกล้ชิดต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับนานาชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาการหลอกลวงออนไลน์ ขอให้สิงคโปร์เป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งกับไทยแก้ไขปัญหานี้ ขยายเครือข่ายข่าวกรอง การฝึกอบรม และปฏิบัติการร่วมกันสิงคโปร์หยอดไทยผู้นำข้าวคุณภาพจากนั้นเวลา 12.05 น. นายอนุทินและนาย ลอว์เรนซ์ หว่อง ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความร่วมมือด้านการค้าข้าว และบันทึกความร่วมมือด้านการพัฒนาศักยภาพผู้นำด้านสาธารณสุขเพื่อการดูแลผู้สูงอายุในเมือง จากนั้นเวลา 12.00 น.ที่ห้อง Windsor Ballroom โรงแรม Goodwood Park สาธารณรัฐสิงคโปร์ นายอนุทินพร้อมภริยาและคณะ ร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันที่นายกฯ สิงคโปร์เป็นเจ้าภาพ ต่อมาเวลา 14.30 น.นายอนุทินและคณะไปที่ทำเนียบประธานาธิบดีสาธารณรัฐสิงคโปร์ เข้าเยี่ยมคารวะนายทาร์มัน ชันมูการัตนัม ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยนายทาร์มันแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง พร้อมระบุสิงคโปร์เห็นพ้องจะผลักดันความร่วมมือต่อเนื่อง โดยเฉพาะความมั่นคงทางอาหาร การวิจัยและพัฒนาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าว รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความมั่นคงทางพลังงาน ชื่นชมข้าวหอมมะลิไทย เห็นว่าไทยมีความพร้อมการเป็นผู้นำการผลิตข้าวคุณภาพฟุ้งการเมือง-ศก.ของไทยชัดเจนมั่นคงต่อมาเวลา 15.30 น. ที่โรงแรม Inter Continental Singapore นายอนุทินเข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน SET Government Roadshow 2025 จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ Bank of America ภายใต้หัวข้อ “Confidence in Thailand’s Path Forward” นำเสนอศักยภาพทางเศรษฐกิจไทย มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 118 คนจากกลุ่มผู้จัดการกองทุน และบริษัทชั้นนำระดับโลก มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่าไทยยังคงเป็นประเทศแห่งโอกาส วันนี้มีความมั่นคง มีทิศทางชัดเจนทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ ด้านการเมือง ไทยได้ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความมั่นคงทางการเมืองและคาดการณ์ได้ รัฐบาลวางแนวทางที่ชัดเจนจะยุบสภาภายในเดือน ม.ค.69 และจัดเลือกตั้ง มี.ค.69 และทำประชามติให้การปฏิรูปรัฐธรรมนูญเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ช่วงเวลานี้รัฐบาลจะคงความมั่นคงและความต่อเนื่องทางนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้า และนักลงทุนวางแผนล่วงหน้าได้ด้วยความมั่นใจ ด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ แก้ไขปัญหาผ่านนโยบาย “Quick Big Win”ร่อนแถลงการณ์ยึดเอ็มโอเอตามเดิมกระทั่งเวลา 16.45 น. นายอนุทินออกแถลงการณ์ถึงประเด็นการชิงยุบสภา หากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 8 ข้อ เนื้อหาสรุปว่า 1.ขอยืนยันในฐานะนายกฯที่มาจากข้อตกลงกับพรรค ปชน.ว่าจะยุบสภา ภายใน 120 วัน จะครบกำหนดวันที่ 31 ม.ค.69 2.ข้อตกลงที่ทำกับพรรค ปชน.คือแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จัดให้มีการทำประชามติในวันเลือกตั้งยุบสภาภายใน 120 วันนับตั้งแต่วันแถลงนโยบาย โดยพรรค ปชน.เป็นพรรคฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบให้คำแนะนำ การทำงานของรัฐบาล ยอมรับบทบาทและการตรวจสอบของพรรค ปชน. และยินดีชี้แจง 3.ห้วงเวลา 120 วันมีภารกิจสำคัญ 3 ประการคือแก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดทำประชามติและยุบสภาเราจะทำให้ครบ โดยไม่เกินเวลา 120 วัน ตามที่ตกลงกันไว้ 4.เมื่อมาเป็นรัฐบาลแล้ว ในฐานะนายกฯ ตนต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของประชาชนของประเทศ 4 เรื่อง คือปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติและปัญหาภัยสังคม ยาเสพติด ฉ้อโกง หลอกลวงประชาชน เกิดขึ้นมาก่อนที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาด้วยข้อจำกัดด้านเวลา 4 เดือน ขอย้ำว่ารัฐบาลนี้มาแก้ปัญหาที่สะสมต่อเนื่องกันมายาวนาน ปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา ปัญหาสแกมเมอร์ มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อนหน้านี้รัฐบาลไม่ได้สร้างปัญหา แต่มาแก้ปัญหาไม่คิดเอารัฐธรรมนูญเป็นตัวประกันแถลงการณ์กล่าวด้วยว่า 5.ตนรู้ตัวตลอดเวลาว่าเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ดังนั้นหากมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ เพื่อประโยชน์ทางการเมือง รัฐบาลย่อมไม่มีทางที่จะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า รัฐบาลต้องคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงกับพรรค ปชน. แต่ถ้าเป็นการยื่นญัตติเปิดอภิปรายเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาของประเทศร่วมกัน ตนพร้อมจะให้ความร่วมมือ ไม่จำเป็นต้องเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้น จัดเวทีประชุมหรือมาพูดคุยหารือกัน ลักษณะแบบนี้ได้ทั้งนั้น 6.หากมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อมาเป็นรัฐบาลต้องพร้อมชี้แจง แม้ว่าจะมีในข้อตกลงหรือไม่มีก็ตาม ย้ำว่ารัฐบาลพร้อมชี้แจง และไม่เคยคิดที่จะจับรัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน แต่เราจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จเร็วที่สุด ตามกรอบเวลาที่กำหนด จากนั้นจะยุบสภา 7.ที่ผ่านมาตนเชิญนายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรค ปชน. มาหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูล หาแนวทางแก้ปัญหาสแกมเมอร์ แต่ยังไม่ได้พบกัน เพราะเวลาไม่ตรงกัน วันที่ 14 หน่วยงานมาแถลงข่าวร่วมกัน ก็เชิญท่านมาพูดคุยกันก่อนด้วย แต่ท่านมีภารกิจจึงไม่ได้มา แต่น่าจะมีเวลาตรงกันและมาทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและ 8.ขอให้พรรค ปชน. ที่สนับสนุนให้มีรัฐบาลนี้ และประชาชนที่กำลังรอการเลือกตั้งใหม่ เชื่อมั่นได้ว่า ในฐานะนายกฯจะปฏิบัติตามข้อตกลงกับพรรค ปชน. ทุกประการ ตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้แล้ว“เฮ้ง” มั่นใจ “หนู” ลูกผู้ชาย 4 เดือนยุบที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกฯและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายกฯระบุว่าอาจยุบสภาฯก่อน 1 เดือน หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายกฯพูดด้วยความเป็นลูกผู้ชาย สิ่งที่รับปากไว้แล้ว การตกลงมันไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ครั้งสองครั้งรู้กันหมดแล้ว และเป็นอำนาจนายกฯ นายกฯไม่เคยเปรยๆกับพรรคร่วมรัฐบาลจะยุบสภาก่อน 1 เดือน ต่างคนเป็นผู้ทรงเกียรติพูดกันครั้งเดียวจบ สถานการณ์วันนี้ไม่ควรนำเกมการเมืองมาเล่น ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ได้คุยกันไว้ ใครให้สัญญาประชาคมอะไรไว้ต้องปฏิบัติ มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนพลิกไปพลิกมา ต่อไปประชาชนจะไม่เชื่อถือ ควรปล่อยให้นายกฯ ทำงานเต็มที่ ต้องให้กำลังใจ เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน กรณีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. เรียกร้องให้นายกฯปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ รัฐมนตรีทำดีหรือไม่ดี ใกล้เลือกตั้งแล้วปล่อยให้เขาทำงานไป ให้ประชาชน เห็นว่าดีหรือไม่ดี สุดท้ายตัดสินกันตอนใช้สิทธิ ประชาธิปไตยเลือกตั้ง“มาร์ค” แนะ “หนู” เป็นแบบอย่างที่ดีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า จากที่ฟังนายกฯพูดว่าจะยุบสภา เพราะไม่อยากถูกด่าฟรี อยากให้ท่านเป็นแบบอย่างของนายกฯในระบบรัฐสภา อย่ามองว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการมาด่ากันหรือถูกด่าฟรี นั่นคือความสง่างามของผู้นำในระบอบประชาธิปไตย ที่รับการตรวจสอบจากคนตัวแทนของประชาชน ถ้ามั่นใจในสิ่งที่ทำสิ่งที่เป็น ไม่มีเหตุผลที่จะไปสร้างประเพณีการยุบสภาเพราะไม่ยอมรับกระบวนการไม่ไว้วางใจ“ไผ่” ฉะโกงชาติ เบียดบังพ่วงจริยธรรมนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะเลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวยื่นยุบพรรค ปชน.ว่า ทีมงานตนได้เดินทางไปยื่น กกต.จริง เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรค ปชน. จากกรณีการตั้งเด็กอายุเพียงมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นผู้ช่วย สส. และการใช้เงินเดือนของผู้ช่วย สส.ไปจ่ายเป็นค่าสมัครสมาชิกพรรค ทุกอย่างเราได้รับข้อมูลมาสักพักแล้ว และเราได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูล ทั้งหมดอยากบอกว่าเราทำงานต้องมีพยานบุคคล หลักฐานและความผิดทางด้านกฎหมาย เรามั่นใจอันนี้ผิดแน่นนอน การโกงชาติ เบียดบังชาติไม่ว่าจะน้อยหรือมากก็ผิดเหมือนกัน มาดูกันว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร และอาจจะมีเรื่องของจริยธรรมเข้ามาด้วยให้รอชม จะออกมาเรื่อยๆผิด ก.ม.ชัด“ได้มอบหมายให้นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร นักวิชาการอิสระ หนึ่งในทีมงานไปยื่นคำร้องถึง ป.ป.ช.และ กกต. ขอให้ตรวจสอบอายัดบัญชีพรรคประชาชน และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีการตั้งเด็ก ม.4 เป็นผู้ช่วย สส.และการใช้เงินเดือนผู้ช่วย สส.ไปจ่ายเป็นค่าสมัครให้แก่ประชาชนที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค กระทำผิดตามมูลฐานกฎหมาย ปปง.และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาฯและกรรมาธิการ พ.ศ.2563 ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค.68 แล้ว การดำเนินการหลังจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายของ ป.ป.ช.และ กกต. ขอให้รอชมครับ ไม่ได้มีเท่านี้แน่นอน จะออกมาเรื่อยๆ ทุกอย่างมีพยานหลักฐานและผิดกฎหมายชัดเจน” นายไผ่กล่าว“เพชร” เย้ย “ไผ่” ถอนแค้นยื่นยุบ ปชน.วันเดียวกัน นายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน.โพสต์เฟซบุ๊กกรณีกระแสข่าวนายไผ่ ลิกค์ ได้ยื่น กกต.ยุบพรรค ปชน.ว่า การตั้งผู้ช่วย สส.มีระเบียบกำหนดชัดเจน แม้ สส.เซ็นรับรอง แต่หากคุณสมบัติไม่ครบ สภาฯจะตีตกให้สส.หาคนใหม่มาแทน ผู้ช่วยคนนี้จบมัธยมปลายมาแล้ว เป็นคนสนใจการเมืองทำกิจกรรมมาตั้งแต่เด็ก ขณะที่คนวัยเดียวกันยังเที่ยวเล่น แต่น้องกลับเลือกช่วยงานเล็กๆน้อยๆ ที่ได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่ทำงานการเมือง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เมื่อถึงวันที่พร้อมจะได้เป็นอีกหนึ่งแรงที่จะเติบใหญ่ขึ้นมาเป็นนักการเมืองคุณภาพของประเทศนี้ หวังว่านักการเมืองอาชีพที่อยู่มานานแบบคุณไผ่ จะมีข้อมูลเด็ดมาหักล้างเอกสารและหลักฐานที่น้องใช้ยื่นกับสภาฯไม่ใช่ปั้นข่าวขึ้นมา เพราะแค้นที่ถูกคุณไอซ์ปั่นจนหัวหมุนมาหลายครั้งช่วงสัปดาห์นี้“จุลพันธ์” โวมั่นใจเป็นแกนนำตั้ง รบ.เมื่อเวลา 10.30 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผอ.เลือกตั้งพรรค พท. ร่วมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส. พรรค พท.ครั้งที่ 3 นายจุลพันธ์กล่าวว่า พรรค พท.เตรียมพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้งนำทุกพรรค เปิดตัวไปแล้ว 3 รอบ รวมทั้งหมด 265 เขตเลือกตั้ง นี่คือความพร้อมของพวกเรา วันนี้เราพร้อมก้าวเดินไปด้วยกัน เพื่อนำนโยบายที่ดี นำทางออกแสงสว่างให้ประชาชน เวลาที่เหลือเพียง 3-4 เดือนข้างหน้า ก่อนเลือกตั้งใหญ่ ขอให้ลงพื้นที่หาประชาชน นำนโยบายไปมอบให้ เชื่อว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดี เราคาดหวังว่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไป เมื่อประสบความสำเร็จจะเดินหน้านโยบายส่งมอบให้ประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนต่อไปลูกชาย “เก่ง การุณ” ลงชิง สส.พท.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.พรรค พท.มีทั้งสิ้น 31 คน ที่น่าสนใจ อาทิ นายวิชัย ไชยมงคล อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่าที่ผู้สมัคร สส.พะเยา เขต 1 เขตเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ นายวัชรพล เชื้อคง ว่าที่ผู้สมัคร สส.อุบลราชธานี บุตรชาย นายสมคิด เชื้อคง น.ส.ณัฐณิชา บุรณศิริ ว่าที่ผู้สมัครสส.พระนครศรีอยุธยา นายษรกฤต ผลลูกอินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร สส.ชลบุรี นายรัฐกิจ เฮงตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร สส.ชลบุรี นายชาญยุทธ เองตระกูล ว่าที่ผู้สมัคร สส.ชลบุรี อีก 9 คน เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.กทม. อาทิ นายญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ น.ส.บุณยกร ดำรงรัตน์ นายสหัสวรรษ วีระมงคลกุล นายพุฒิพงศ์ อินทรสุวรรณ นายภูมิพัฒน์ โหสกุล บุตรชายของนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. พรรค พท. นายสุไพรพล ช่วยชู คู่สมรสนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯและอดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯอ้อมแอ้ม “คุณปลื้ม” ไม่ชัวร์อยู่ต่อนายจุลพันธ์ให้สัมภาษณ์ถึงเป้าหมาย สส.อย่างน้อย 200 เขตว่า พรรค พท.ไม่ใช่พรรคขนาดเล็ก มีเกียรติประวัติยาวนาน มีผลงาน นโยบายหลายอย่างยังติดตราตรึงใจ กระแสภาพรวมของพรรคบางคนบอกเพลี่ยงพล้ำ ไม่ปฏิเสธ แต่กระแสความนิยมพรรคแต่ละภูมิภาคไม่ได้ตกลงอย่างมีนัย ยังอยู่ระดับ 20% คนยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกพรรคใดมีอีก 30-35% โอกาสยังมีอยู่ กรณีลูกชายนายการุณมาเปิดตัว นายภูมิพัฒน์มีความพร้อมมากที่สุด ครอบครัวเดียวกันอุดมการณ์แนวคิดต่างกันเป็นปกติ เมื่อถามว่าพื้นที่ชลบุรีไม่มีตระกูล “คุณปลื้ม” มาเปิดตัว ยืนยันได้หรือไม่ยังอยู่กับพรรค พท. นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขอไม่ตอบเป็นรายคน เป็นเรื่องของคณะกรรมการคัดสรรโวยใช้เกมแก้ รธน.เป็นตัวประกันนายจุลพันธ์กล่าวต่อว่า กรณีนายกฯระบุหากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ อาจยุบสภาฯไม่ยอมถูกด่าฟรีว่า ช่วงนี้นายกฯอาจอารมณ์ร้อน การยื่นอภิปรายตามมาตรา 151 ตรวจสอบรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องด่าหรือไม่ด่า หากประพฤติถูกต้อง ไม่มีทุจริตคอร์รัปชัน ปัดเป่าทั้งคดีฮั้ว สว. เขากระโดง ถ้าไม่ได้ทำไม่ต้องห่วง เป็นโอกาสรัฐบาลจะชี้แจงทำความเข้าใจ เรื่องการปราบสแกมเมอร์ ยังไม่เห็นความจริงจังจากรัฐบาล จะติดตามตรวจสอบใกล้ชิดและเร่งรัดให้รัฐบาลไปแก้ไขไม่ได้พุ่งเป้าไปพรรคใด ข้อเรียกร้องของพรรค ปชน.ให้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรี มองว่าต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ เพราะการทำงานของนายกฯที่ผ่านมาไม่สามารถตอบโจทย์เรื่องนี้ แต่จะอภิปรายฯต้องมองหลายอย่าง ข้อมูลกระทำความผิดสมบูรณ์สำเร็จหรือยัง รัฐบาลดำเนินการผิดพลาดจริงหรือไม่ และต้องมองการแก้ไขรัฐธรรมนูญประกอบด้วย คณะกมธ.แก้ไขรัฐธรรมเดินหน้าไปช้าๆ อยู่ในคณะ กมธ.โอกาสสำเร็จเป็นไปได้น้อย บรรยากาศในที่ประชุมอ่านกันออก ติดตามบันทึกการประชุมจะรู้ว่าใครพยายามผลักดัน ติดขัดอะไร ชั้น กมธ.บางฝ่ายยังไม่เร่งรัดอย่างที่เราต้องการ พวกตนพยายามเร่งรัด ดูจะเชื่องช้านิดหนึ่ง สุดท้ายไม่อยากให้รัฐบาลเอาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเป็นตัวประกัน“ขัตติยา” ซัดแผนเตะถ่วงแก้ รธน.วันเดียวกัน น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า การข่มขู่จากฝ่ายรัฐบาลพยายามให้การแก้รัฐธรรมนูญกลายเป็นหมัน มีคำถามในหัวว่า ฝ่ายรัฐบาลและวุฒิสภาส่วนใหญ่จริงใจด้วยหรือไม่ เพราะฝ่ายบริหารเอาเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน ข่มขู่ยุบสภา สกัดกระบวนการหากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใน กมธ. สส. รัฐบาลและ สว.ส่วนใหญ่เล่นเกมไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมการประชุมล่าสุด หลังถกเถียงประเด็นสำคัญเสร็จสิ้น เมื่อจะลงมติกลับเหลือ กมธ. 20 คน ในห้องประชุม ส่วนใหญ่เป็นสส.ฝ่ายค้านและ สว.อีก 2 คน ที่เหลือไม่ร่วมประชุม บางคนเข้าร่วมแต่เดินออกก่อนลงมติ ทั้งที่ต้องการเพียง 22 คน เพื่อลงมติ สะท้อนให้เกิดคำถาม รัฐบาลพรรค ภท.และวุฒิสภาส่วนใหญ่ไม่ตั้งใจจริงให้กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญเดินหน้าหรือไม่ เลือกใช้เกมการเมืองถ่วงเวลา ให้ความหวังประชาชนต่อรัฐธรรมนูญใหม่ อยู่บนความไม่แน่นอน จะเดินถึงปลายทางหรือไม่“วันนอร์” หวังแก้ รธน.จบใน พ.ย.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯกล่าวถึงสัญญาณขอเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญว่า ยังไม่ได้รับสัญญาณจากรัฐบาลเป็นทางการ มีคุยกับคณะ กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญว่าอาจต้องขอให้สภาฯเปิดประชุมวิสามัญก่อนเปิดประชุมสามัญวันที่ 12 ธ.ค.นำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพิจารณาวาระ 2 ก่อน เพราะต้องเว้นระยะไว้ 15 วันก่อนลงมติวาระ 3 สภาฯพร้อมบรรจุระเบียบวาระขึ้นอยู่กับ กมธ.จะประชุมเสร็จเมื่อใด อยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงอยากให้ กมธ.ทุกคน เข้าประชุม ประนีประนอมในข้อคิดเห็นต่างๆ เพื่อจะประชุมวาระที่ 2 ให้เสร็จเรียบร้อย และผ่านวาระ 3 เพื่อไปทำประชามติตามที่รัฐบาล คณะ กมธ.แก้ไขใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ควรเสร็จสิ้นภายในเดือน พ.ย.ต้นเดือน ธ.ค. ก่อนประชุมสามัญควรจะขอให้เปิดวิสามัญได้แล้วรอคนมาร้องพร้อมสอบปมผู้ช่วย สส.นายวันมูหะมัดนอร์ยังกล่าวถึงการตรวจสอบประเด็นผู้ช่วย สส.พรรค ที่แฉกันไปกันมาว่าการแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ช่วย สส.ถ้ามีคนร้องมาว่า มีการกระทำที่ไม่ถูกต้อง สภาฯต้องตรวจสอบไม่เช่นนั้นอาจมีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ข้อบังคับและกฎหมายระบุไว้ชัดเจน ต้องมีคนร้องเรียนเข้ามาก่อน เพื่อมีข้อมูล สภาฯจะให้ฝ่ายกฎหมายไปตรวจสอบคำร้องนั้นเป็นจริงหรือไม่ การแต่งตั้งผู้ชำนาญการหรือผู้ช่วย สส.เปลี่ยนแปลงได้ทุกปีกมธ.แก้ รธน.องค์ประชุมล่มเมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุมพิจารณาวาระกำหนดการลงมติ ตัดสินเนื้อหาร่างมาตรา 256/1 ว่าด้วยองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่าจะให้มีเฉพาะคณะ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และ กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญ บรรยากาศช่วงต้นราบรื่น แต่พอเวลา 12.00 น. ประธานที่ประชุมจะให้ลงมติตัดสิน เพื่อให้ได้พิจารณาเนื้อหาอื่นๆต่อไป ปรากฏว่าก่อนลงมติ ตรวจสอบองค์ประชุมแล้วกลับไม่ครบ มี กมธ.อยู่ในห้องประชุมแค่ 20 คน จาก 43 คน ไม่ครบองค์ประชุม ต้องปิดประชุม นัดประชุมใหม่วันที่ 12 พ.ย. เวลา 09.30 น. กำหนดให้นัดลงมติทันทีอ้างมี กมธ.ติดภารกิจ ตปท.–ลงพื้นที่ต่อมาเวลา 13.00 น. คณะ กมธ.ประกอบด้วยนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรค ปชน. และนายเอกพร รักความสุข สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โฆษก กมธ.ร่วมกันแถลงผลการประชุม นายเอกพรกล่าวว่า ตอนเริ่มประชุมครั้งแรก กมธ.ทุกคนเห็นพ้องกันอยากผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จทันเวลา วางแผน 2 รูปแบบคือหากพิจารณาให้แล้วเสร็จเร็วขึ้นจะเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ คาดว่าช่วงกลางเดือน พ.ย. แต่หากไม่ทันใช้เวลาตามปกติ สมัยประชุมสามัญวันที่ 12 ธ.ค. ระยะเวลาลงมติแม้ต้องเว้น 15 วัน ยังทันช่วงเดือน ม.ค. ยืนยันว่าเป็นไปตามกำหนดที่ไม่สามารถลงมติได้วันนี้ มีกมธ.ส่วนหนึ่งติดภารกิจต่างประเทศและ สส.ต้องลงพื้นที่ไม่ใช่ว่ามีใครไม่อยากลงมติ หรือเล่นเกมการเมือง“พนิดา” บอกเห็นต่างกัน ม. 256/1(1)ด้าน น.ส.พนิดากล่าวว่า สาเหตุองค์ประชุมไม่ครบ กมธ.ท่านอื่นๆมีภารกิจเร่งด่วน เช่น กลับไปดูพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ป้องกันพายุ ทำให้ไม่สามารถลงมติได้ และอาจมีความแตกต่างหลากหลายบางประเด็นที่ยังไม่สามารถได้ข้อสรุป ยังไม่สามารถมีฉันทามติได้ว่ารูปแบบที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของผู้เขียนร่างรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร อาจเป็นจุดที่ทำให้หลายคนกังวล และเชื่อว่าคณะทำงานของ กมธ. อาจหาข้อสรุปได้และมีการลงมติวันที่ 12 พ.ย. เพื่อจะเดินหน้าต่อมาตราต่อไป ที่จะมีผลจากการกำหนดในมาตรา 256/1 (1) กมธ.ที่หายไปมา จากหลายพรรคทั้ง สส.และ สว.ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมจำเป็นต้องปิดประชุมแล้วพิจารณาใหม่วันพุธหน้า“ไทยก้าวใหม่” ชวนก้าวข้ามไฟขัดแย้งเมื่อเวลา 09.30 น. พรรคไทยก้าวใหม่เปิดที่ทำการพรรคที่อาคารไอ ทาวเวอร์ เขตจตุจักร กทม. ชั้น 14 มีพิธีทางศาสนาพุทธและอิสลาม จากนั้นนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวเปิดว่า วันนี้เสมือนขึ้นบ้านใหม่ เปิดหัวใจ เปิดความหวัง เปิดพลังคนรุ่นใหม่ เพื่อเริ่มก้าวใหม่ของประเทศไทย เชื่อว่าการเมืองไทยใหม่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง หันมาร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยอุดมการณ์ ความกล้าหาญ พลังของความรู้ ความเข้าใจ และการมีส่วนร่วมของทุกคนด้านคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยก้าวใหม่ กล่าวว่า พรรคไทยก้าวใหม่กำลังจะพาประเทศก้าวข้ามวิกฤติและให้ลูกหลานเราอยู่ในโลกดิจิทัลที่โหดร้ายอย่างมีความสุข ชีวิตที่เหลือจะทำสิ่งนี้ให้กับประเทศไทยประสบความสำเร็จ“จินนี่” สนใจการเมืองอุบไต๋ลง สส.ที่โรงแรมเจซีเควิน สาทร กทม.พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) จัดสัมมนาหัวข้อ “ทุบทุนเถื่อน” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงปัญหาสแกมเมอร์ ที่จะเป็นนโยบายหลักของพรรคว่า เรามีมาตรการที่ประกาศเป็นข้อบังคับของพรรคไทยสร้างไทยคือ ต้องลงมือปฏิบัติการเพิ่มโทษให้คนทุจริตโกงกินขั้นร้ายแรง รวมถึงเพิ่มโทษถึงประหารชีวิต เพิ่มอำนาจประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมลงชื่อถอดถอนองค์กรอิสระ ที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตแต่กลายเป็นฟอกสีดำให้กลายเป็นขาว ส่วนการเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เตรียมความพร้อมแล้ว อาจจะไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ น.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ หรือน้องจินนี่ บุตรสาว จะมาช่วยงานการเลือกตั้งถ้าเวลาเหมาะสม ด้าน น.ส.ยศสุดากล่าวว่า บ้านเราไม่มีแนวคิดการเมืองเป็นมรดกตกทอด ตนสนใจอยากจะอาสาทำงานการเมือง อยากเป็นส่วนเล็กๆผลักดันพรรคและทำให้ประเทศชาติดีขึ้น“สีหศักดิ์” รับจ่อปล่อยเชลย 12 พ.ย.ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6 ) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายว่า ทราบว่าจะมีการปล่อยตัววันที่ 12 พ.ย. แต่ต้องยืนยันกับฝ่ายทหารอีกครั้ง เป็นไปตามเงื่อนไขที่ไทยกำหนดไว้ คือการเคลื่อนย้ายอาวุธหนักต่างๆและการเปิดพื้นที่ให้ทางไทยเข้าไปเก็บกู้วัตถุระเบิด ไม่ได้มีข้อแลกเปลี่ยนอะไร ไม่มีแรงกดดันจากต่างชาติ ไม่เกี่ยวกับภาษีนำเข้าสินค้าไทย“บิ๊กเล็ก” ไม่เปิดด่านจนบรรลุทุกข้อตกลงที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชา 18 คนวันที่ 12 พ.ย.ว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ ต้องดูการถอนอาวุธหนักและเก็บกู้ทุ่นระเบิด เฟส 1 ที่วางไว้สำเร็จหรือไม่ เพราะกำหนดไว้จะจบวันที่ 21 พ.ย. แต่กัมพูชาบอกว่าจะทำให้เสร็จเร็วขึ้น น่าจะอยู่ช่วงวันที่ 10-12 พ.ย. เราแจ้งไปว่าถ้าทำเสร็จเร็วเราจะปล่อยเชลยศึกเร็ว ดูตัวเงื่อนไข ไม่ใช่ดูวันที่ คณะของ ผบ.ทสส.ไปตกลงกันไว้ที่ 2 ข้อหลักนี้ต้องเป็นรูปธรรม แต่ไม่ใช่ว่าข้ออื่นไม่สำคัญ ต้องมีเป็นรูปธรรมเช่นกัน ถ้าเราบรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหมดเราจะปล่อย ที่สำคัญยังเหลือมาตรการเปิดด่าน เราจะไม่แตะมาตรการนี้เลยจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ถ้าจะเปิดด่านทั้ง 5 ข้อต้องเรียบร้อยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่