ฟุตบอลยังมีล็อกถล่ม การเมืองลูกกลมๆพลิกได้ทุกนาที ณ จุดที่ขุนพล สส.กองทัพส้มยังเซอร์ไพรส์ ไม่มีใครคาดคิดว่า ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับ “พิมพ์เขียว” ของพรรคประชาชนจะถูกชูเป็น “ร่างหลัก” ในการพิจารณาวาระที่ 2 แบบรายมาตราทั้งๆที่ไม่มีตราประทับ “ห้ามแตะ ม.112” แต่ฝ่าแรงเสียดทานของฝ่ายอนุรักษ์นิยม เบียดร่างของค่ายภูมิใจไทยที่ลอก “ลายแทง” ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเป๊ะๆต้องตกขอบไปเป็นเบอร์รองเสียฟอร์มผู้นำธงเลนขวา โดนคู่แข่งเลนซ้ายปาดหน้าทีม สส.คนรุ่นใหม่แซงขบวนรถแห่การเมืองโบราณ เอาชนะในโค้งแรกชิงความชอบธรรมในการชง “โมเดล” ที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จำนวน 35 คน ที่ให้คนทั่วประเทศเลือกระบบทีม 70 คน มาให้รัฐสภาเลือกอีกชั้นโดยขั้นตอนที่พยายามยึดโยงกับประชาชนให้มากที่สุดจุดก่อแนวร่วมแบบฉับพลันทันด่วน ไฟต์บังคับพรรคเพื่อไทยที่โดนเกมหักดิบของพรรคภูมิใจไทยและ สว.สายน้ำเงิน สกัดร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ “ลูกก๊วนเถ้าแก่ใหญ่” แพ้เกมโหวตในสภาแบบไม่เป็นท่าอาการเฮี้ยวเลยมาถมแต้มให้ทีมเด็กส้ม ยึด ส.ส.ร.จากประชาชนเหมือนกันจังหวะเกมพลิกกะทันหัน ตั้งลำกันไม่ติด ขนาด “นายกฯหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล สั่งรถนำขบวนหันหัวกลับสภา “สว.โพยก๊วนน้ำเงิน” ที่ชะล่าใจกลับบ้านไปเกือบหมด ถูกโทรศัพท์ตามตัวด่วนหูตาเหลือกกลับมาโหวตไม่ทันพลาดแมตช์สำคัญ ต้องไปเหนื่อยในเกมวาระ 2–3ทั้งหมดทั้งปวง ตามรูปการณ์มันสะท้อนสถานการณ์คาบลูกคาบดอกในเกมโหวต ไม่มีหลักประกันสำหรับ “รัฐบาลเฉพาะกิจ” เสียงข้างน้อย“สภา 3 ก๊ก” ไม่มีฝ่ายใดการันตีชัยชนะแบบชัวร์ๆแค่ร่างกฎหมายทั่วไปยังพลิกคว่ำพลิกหงาย นั่นก็ไม่ต้องพูดถึงวาระเดิมพันอย่างศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลถือไพ่แต้มน้อยกว่าฝ่ายค้าน ส่อเจ๊งสถานเดียวโดยสภาพที่ถูก “เอ็มโอเอ” คุมกำเนิดเสียงข้างมาก “บิ๊กบราเธอร์” อย่าง “เนวิน ชิดชอบ” เขี้ยวลากดินยังไงต่อให้อภินิหาร “ตั๋วช้าง” ก็ช่วยให้ผ่านด่านโหวตในสภาไม่ได้เกมล็อก 4 เดือนไม่มีเกิน มีแต่จะหดสั้นลงตามเงื่อนไขหักเหลี่ยมเฉือนคมการเมือง ตามจังหวะนับถอยหลังไปสู่การเลือกตั้งที่ “นายกฯหนู” ล็อกวัน ว. เวลา น. ปักหมุดยุบสภาในวันที่ 31 มกราคม 2569 ล่าสุด “ด็อกเตอร์ปื๊ด” นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกฯฝ่ายกฎหมาย ยังกางไทม์ไลน์ล็อกความชัวร์อีกชั้นกาปฏิทินวันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคมปีหน้า คือวันเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งย้ำหมุดหมายยุบสภา การันตีไทม์ไลน์ “หนีแรงเสียดทาน” ที่พุ่งเข้าใส่ อ่านไต๋ “ผู้นำเซราะกราว” ไม่จำเป็นต้องเดินหมากเสี่ยงแลกม้า แลกเรือ หาเรื่องพลาดเสียขุน แพ้กลางกระดานโดยเฉพาะสถานการณ์ที่กำลังเข้าร่อง “มนต์ปะกำช้าง”ชะตาฟ้าลิขิตเข้าทาง โอกาส “นายกฯ หนู” ได้ลุ้นโปรฯ 4 บวก 4 คุมเกมรัฐบาลเฉพาะกิจสั้นๆ ยุบสภา รวมพล “มาเฟียบ้านใหญ่” ถือ “ตั๋วช้าง” แห่ขบวนการเมืองโบราณกลับมาเป็นผู้นำรัฐบาลฟูลไทม์ เต็มเทอมหลังเลือกตั้งรอบต่อไปโพลสำนักมาตรฐาน โพลเชลียร์ ปล่อยตัวเลขล้อกัน แห่โปรโมชัน “คนละครึ่งพลัส” ฮอตเกินต้าน ดันคะแนนนิยมผู้นำ “ก๊วนน้ำเงิน” แต้มเบียดหัวขบวน “ค่ายส้ม” ช็อกสายตาคนดูดวงดาวส่องพลังอยู่ในชะตาราศี แค่ “อยู่ให้เป็น” เท่านั้นนั่นจึงได้เห็นลีลา “ผู้นำหัวใจติดปีก” ถนัดโฉบไปโฉบมา จับจังหวะ “นายกฯอนุทิน” เน้น “ลอยตัว” อยู่เหนือชนวนร้อนๆ พยายามเด้งเชือกออกห่างโจทย์ปัญหายากๆไล่จากการโยนวิกฤติชายแดนไทย–กัมพูชา ให้กองทัพบริหารจัดการตามสบายส่วนเรื่องการเมือง กรณีของนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง ที่ถูกทักปมคุณสมบัติ “นายกฯหนู” ก็โยนให้ “ดร.เอก” นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง กัปตันทีมเศรษฐกิจเป็นคนชงชื่อมาหรือประเด็นโยกย้ายข้าราชการมหาดไทย เด้งอธิบดี โละผู้ว่าราชการจังหวัด สลับกันวุ่นวาย ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเป็นปฏิบัติการล้างบาง เพื่อสร้างอำนาจทางการเมืองเอื้อต่อเกมเลือกตั้ง “นายกฯหนู” ในสถานะ มท.1 ก็อ้างดื้อๆนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นคนชงบัญชีมาให้เซ็นไม่เว้นแม้แต่ การยกเลิกเอ็มโอยู ปี 43 และ 44 กับกัมพูชาที่อยู่ในอำนาจรัฐบาลและรัฐสภาตัดสินใจได้ แต่ผู้นำรัฐบาลภูมิใจไทยก็เลือกชิ่งเผือกร้อนโยนไปให้ประชาชนโหวตผ่านประชามติเลยโดนโห่ “หนีความรับผิดชอบ” มากกว่าโชว์โปร่งใสแต่นั่นก็ยังอยู่ในวิสัยของ “นายกฯหนู” ลอยตัวชิ่งคำถามของสื่อ เด้งเชือกโชว์ขับเครื่องบินโครงการ “หัวใจติดปีก” แวบตรวจงานตอนดึกดื่น พามาดามแวะกินลาบร้านโปรด โผล่เวทีทอล์กโชว์ “เดี่ยวไมโครโฟน” โพสต์ลงโซเชียลมีเดียอารมณ์นับถอยหลังชิลๆตุน “แต้มต่อ” ในกระเป๋าสบายๆถ้าไม่บังเอิญเกิด “จังหวะนรก” มหาอำนาจโลกเปิดฉากล้อมกรอบกัมพูชายกระดับปฏิบัติการสงครามถล่ม “โจรสแกมเมอร์” ลุยทำลายล้าง “อาณาจักรเงินเทา” ล็อกเป้า “กัมพูชา” ดินแดนอาชญากรข้ามชาติ สั่นสะเทือนภูมิภาคอินโดจีน เมียนมา ลาว และไทยแลนด์แบบที่รัฐบาลเกาหลีใต้ส่ง “เจ้าหน้าที่ระดับไปพนมเปญ เพื่อให้การช่วยเหลือพลเมืองโสมขาวที่ตกเป็นเหยื่อ “แก๊งโจรสแกมเมอร์” ภายหลังนักศึกษาถูกพบเป็นศพถูกฆ่าตายอย่างทรมานพร้อมๆกับการขยับอย่างขึงขังจริงจังของพี่เบิ้ม สหรัฐ อเมริกา สส.พรรครีพับลิกันชงกฎหมายผ่านสภาคองเกรส เพื่อจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจในการปราบปรามกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่กระทำการฉ้อโกงทางออนไลน์ต่อชาวอเมริกัน เสียหายปีละกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ประเดิมด้วยการสั่งริบทรัพย์สินกว่า 4.8 แสนล้านบาทของ “เฉิน จื้อ” ตัวการใหญ่ “แก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา” ต่อเนื่องกับรัฐบาลอังกฤษได้สั่งอายัดเงินคริปโตกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์ ที่มาจากแก๊งสแกมเมอร์กัมพูชาอังกฤษ สหรัฐฯ เกาหลีใต้ เปิดแนวรบสงครามถล่ม “โจรสแกมเมอร์กัมพูชา”โลกล้อมกรอบ “จิ้งจอก” ฮุน เซน ปิดประตูขัง “ตระกูลฮุน” วงรัศมีครอบคลุมพื้นที่รอบโซนอินโดจีน ฐานใหญ่ แหล่งซุกอาชญากรออนไลน์ขอบเขตสงครามใหญ่เล่นกันระดับโลก เกินกว่า “นายกฯหนู” จะอาศัยลีลาบินโฉบไปโฉบมาหนีปัญหาร้อนๆ“โจรสแกมเมอร์” ถ่วงน้ำหนัก ลอยตัวชิ่งลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง โฟกัสจากบัญชีหัวโจกอาชญากรสแกมเมอร์โลก ที่ถูกสภาคองเกรสขึ้น “แบล็กลิสต์” มันตรงกันเป๊ะกับข้อมูลที่ “ทอมไรต์” นักข่าวจอมแฉ เปิดบทวิเคราะห์ประจานชี้เป้าขีดเส้นใต้ชื่อ “เบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์” ที่อยู่ในลำดับต้นๆเป็น “เบนจามิน” หรือ “เบน สมิท” ชื่อเดียวกับที่จอมแฉตัวแทนหมู่บ้านของประเทศไทยอย่าง “รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายเปิดโปงในสภา พร้อมภาพประกอบชัดๆโดยที่ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ ยอมรับด้วยอาการเกรี้ยวกราด เป็นภาพของตัวเองที่ร่วมช็อตกับ “เบนจามิน” และรู้จักกันผ่านการแนะนำของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในตำนานขู่ฟ้องดะคนปูดข้อมูลประจานมั่ว นัดไปเจอกันที่ศาลพะเยา นราธิวาสแถมยังไฟเขียวให้ “ม้าใช้สายตรง” เป็นทนายรับมอบอำนาจจาก “เบนจามิน” ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท สส.จอมแฉ โดยไม่สนเสียงโห่ “ฟ้องปิดปาก” สกัดเกมแฉอาชญากรเงินเทาแต่ยังไงๆ ก็ไม่ยอมเข้าไปชี้แจงในคณะกรรมาธิการ ตามเทียบเชิญของ “รังสิมันต์ โรม” ที่ขอความร่วมมือแค่ให้ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะที่รู้จักกับ “เบน สมิท” ช่วยให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการจัดการอาชญากรสแกมเมอร์ระดับโลกเผือกร้อนเลยตกถึงมือ “นายกฯหนู” ในฐานะผู้นำรัฐบาลสถานการณ์จี้คอหอยผู้นำเซราะกราว โดน “รังสิมันต์ โรม” แท็กทีมกับ “ไอซ์” รักชนก ศรีนอก สส.ตัวจี๊ดของค่ายส้ม ช่วยกันตีปี๊บ ป่าวประกาศ “ตามหาคนหาย”ไล่บี้ผู้นำไทยแสดงจุดยืนในภาวะมหาอำนาจโลกลุยบี้แก๊งสแกมเมอร์กัมพูชา มากกว่าจะลอยตัวชิลๆเกาะกระแสชาตินิยม ถือหางให้ท้าย “อินฟลูเอนเซอร์” ระดมรถแห่ เปิด “ซาวด์ผี” ปั่นสงครามประสาท มั่วเกมมวยวัดกับฮุนเซนเกมบีบให้ “ผู้นำเซราะกราว” ต้องเซ็นคำสั่งตั้ง “บอร์ดสแกมเมอร์”แสดงความกระตือรือร้น ร่วมวงสงครามถล่มแก๊งอาชญากรออนไลน์ แต่กระนั้นก็ยังไม่วายมีเสียงกระแอมทัก ชื่อของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ กุนซือนายกฯ ที่ถูกส่งตรงจากชายแดนกัมพูชาด้าน “เขากระโดง”สังคมงงๆทำไมจำเพาะเจาะจง ทั้งๆมีคนอีกเยอะที่เหมาะสมกว่าท่ามกลางความกังขา กระแสสังคมค้างคาใจ แก๊งสแกมเมอร์ยึดชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นศูนย์กลางฟอกเงินโลกอย่างสบายๆ เพราะผลประโยชน์โยงใยกับขุมข่ายตระกูลฮุน และมาเฟีย นักการเมืองใหญ่และบิ๊กทหารไทยธุรกิจผิดกฎหมายชายแดนไทย–กัมพูชา ฟูเฟื่องสุดยุคอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. โยงใยขุมข่ายเกรียน 2 น.เมื่อ “ฝีแตก” มหาอำนาจโลกยกระดับสงครามถล่ม “โจรสแกมเมอร์กัมพูชา” กระตุกไฟต์บังคับ จี้คอ “นายกฯหนู” ต้องแสดงความชัดเจน เบื้องต้นรัฐมนตรีอย่างน้อย 2 คน ที่นัวเนียๆหัวโจก “แบล็กลิสต์สหรัฐฯ”ถ้าไม่จัดการให้เคลียร์ เป้าหมายต่อไปจะโยงมาที่รัฐบาลไทย เสี่ยงหนีไม่พ้นข้อหามีเอี่ยวแน่ๆและถึงจังหวะนั้น โปรฯ 4 บวก 4 ที่วาดหวังไว้ ก็อาจจะอันตรธานไปกับกระแส “โจรสแกมเมอร์”“ตั๋วช้าง” ที่ว่าชัวร์ ก็อาจพลิกจากหน้ามือเป็นหลังบาทา.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม