เมื่อการเมืองเปลี่ยนไป นโยบายก็ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ความจริงเปลี่ยนไม่ได้ เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว!! ความจริงหนึ่งเดียวคือ ที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ตามคำพิพากษาศาลปกครอง และศาลฎีกาไม่ว่าจะเปลี่ยนรัฐบาลอีกกี่ครั้ง เปลี่ยนรัฐมนตรีอีกกี่คน ที่ดินเขากระโดงก็เป็นที่ดินของการรถไฟฯ ไม่ใช่ที่ดินกรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลเพราะความจริงเปลี่ยนไม่ได้ “นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟฯ” ซึ่งเพิ่งปฏิบัติหน้าที่ได้เพียง 1 ปี จึงตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมเพื่อเปิดโอกาสให้มีการสรรหาผู้ว่าการการรถไฟฯคนใหม่เข้ามา แบกคดีที่ดินเขากระโดงต่อไปอย่างสะดวกโยธิน“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าเหตุผลที่ “นายวีริศ” ยื่นใบลาออกกะทันหันไม่ได้อ้างปัญหาที่ดินเขากระโดงแต่อ้างว่าต้องการลาออกเพื่อไปดูแลบิดามารดาที่มีอายุมากตามหน้าที่ของลูกที่ดีแต่เหตุผลจริงๆ นายวีริศคงประเมินแล้วว่าหากนั่งเก้าอี้ผู้ว่าการการรถไฟฯต่อไป ก็ฝืนความรู้สึกของตัวเองเข้าตำรา คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก นั่นแหละท่านผู้ชม“แม่ลูกจันทร์” เสียดาย นายวีริศ ซึ่งเพิ่งอายุ 50 ปี เป็นผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถที่จะพัฒนาการรถไฟไทยไปได้อีกยาวนานแต่การไขก๊อกกลางคัน...ก็เป็นทางออกที่ใช่ของนายวีริศเช่นกันเพราะก่อนยื่นหนังสือลาออกจากผู้ว่าการการรถไฟฯ “นายวีริศ” ได้แสดงความกล้าหาญอย่างที่ไม่เคยมีผู้ว่าการการรถไฟฯคนใดกล้าทำคือลงนามมอบอำนาจให้ฝ่ายกฎหมายการรถไฟฯยื่นฟ้องเพิกถอนหรือฟ้องขับไล่ ผู้ครอบครองที่ดินเขากระโดง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จำนวน 2 แปลง (ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา)ซึ่งที่ดินเขากระโดงที่ถูกผู้ว่าการ วีริศ สั่งฟ้องเพิกถอน–ขับไล่ทั้ง 2 แปลง มีนักการเมืองใหญ่แห่งจังหวัดบุรีรัมย์เป็นผู้ครอบครองแปลงที่ 1, เนื้อที่ 7 ไร่ 55 ตารางวา ราคาประเมิน 4,450 บาท ต่อตารางวา ราคาเฉพาะที่ดินแปลงนี้ 12.7 ล้านบาทแปลงที่ 2, เนื้อที่ 37 ไร่ 1 งาน 65 ตารางวา ราคาประเมิน 2,100 บาท ต่อตารางวา ราคาเฉพาะที่ดิน 31.4 ล้านบาทถือเป็นการสั่งฟ้องทิ้งทวนก่อนทิ้งเก้าอี้ผู้ว่าการ รฟท.!!“แม่ลูกจันทร์” ยํ้าว่าถ้า “นายวีริศ” ไม่สั่งฟ้องเพิกถอน–ขับไล่ที่ดินเขากระโดงทั้ง 2 แปลงนายวีริศยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบลาออกไปปรนนิบัติดูแลบุพการีแต่ถ้าจะให้ “นายวีริศ” ทำตัวเป็นหลิวลู่ลม ไม่ฟ้องเพิกถอนที่ดินเขากระโดงก็เท่ากับนายวีริศไม่รับผิดชอบหน้าที่ผู้ว่าการการรถไฟฯเพราะผู้ว่าการการรถไฟฯ มีหน้าที่ต้องพิทักษ์รักษาที่ดินของการรถไฟฯ ซึ่งเป็นที่ดินพระราชทาน เป็นทรัพย์สินของรัฐ และเป็นทรัพย์สมบัติแผ่นดินการสั่งฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินเขากระโดงทั้ง 2 แปลง แลกกับการลาออกจากผู้ว่าการการรถไฟฯ จึงเป็นการตัดสินใจที่น่าชื่นชมส่วนใครจะเป็นผู้ว่าการการรถไฟฯคนใหม่ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องสรรหาคนที่พร้อมจะแบกปัญหาที่ดินเขากระโดงต่อไปโดยไม่หือไม่อือสะดวกใจสบายดีแฮปปี้นะโยม.“แม่ลูกจันทร์”คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม