ปัญหาโจรกรรมในบ้านเรา ไม่เคยลดลง ด้วยปัญหาสังคมที่ซับซ้อนมากขึ้น ส่วนใหญ่ทรัพย์สิน “หายลับเข้ากลีบเมฆ” บางคนเลือกจะไม่แจ้งความ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นเกือบทั้งหมดไม่ได้อะไรกลับคืนมา เว้นแต่จะมีหลักฐานมัดแน่นจากภาพวงจรปิดผู้เสียหายหลายคน “ถูกทอดทิ้ง” จากฝ่ายสืบสวนสอบสวน แฟ้มคดีโจรกรรมทรัพย์สินโดนปล่อยไว้ในลิ้นชัก สร้างความลำบากให้ประชาชนไม่หยุดหย่อนตำรวจจับได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ส่วนมากต่าง “คว้าน้ำเหลว”เช่นเดียวกับปัญหาโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการกำลังระบาดหนักตามรายทางถนนสาย 359 “สระแก้ว– เขาหินซ้อน” เชื่อมต่อหมู่บ้านในเขต สภ.เมืองสระแก้ว แผงโซลาร์เซลล์ ที่เพิ่งถูกติดตั้งเพื่อส่องแสงสว่างเข้าหมู่บ้านหนองปรือนา หมู่ 10 และหมู่ 11 บ้านเขามะกา ต.ศาลาลำดวน อ.เมืองสระแก้ว “หายเป็นว่าเล่น” กรมทางหลวงและทางหลวงชนบทแก้ผ้าเอาหน้ารอดด้วยการติดป้าย “ชำรุดชั่วคราว” คนร้ายลงมือปีนเสาโซลาร์เซลล์สูง 10 เมตร ถอดเอาแผงโซลาร์เซลล์ อันเป็นอุปกรณ์สำคัญไปแล้วเกือบ 30 ต้นเหิมเกริม “ยกหม้อแปลงไฟฟ้า” ที่คุมการจ่ายกระแสไฟฟ้าในหมู่บ้านหนองไทร ต.ศาลาลำดวน อ.สระแก้วไปอีกหม้อครั้นจะฝากความหวังไว้ที่ตำรวจให้จัดสายตรวจออกตรวจตรา หรือให้สายสืบออกเสาะหาเบาะแสหัวขโมยมาจัดการรู้สึก “ไม่เชื่อใจ” ตำรวจอีกแล้ว พวกเขาสงสัยทำไม “หัวขโมย” แก๊งนี้กล้าอาละวาดลอยนวลอยู่นานนับเดือน ตำรวจไม่สามารถจัดการอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันวาน พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.2 คนใหม่ ไป “ลงแส้” ที."สหบาท"คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม