แค่เริ่มต้นก็พอจะมองเห็น...อะไรเป็นอะไรและจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แม้ยังไม่ได้เริ่มทำงานอย่างเต็มตัวแต่สิ่งที่ปรากฏจากรัฐบาล “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรีก็คือความรวดเร็วฉับไวและคล่องตัว ต่างกับรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” อย่างชัดเจนทั้งนี้ คงเนื่องมาจากโครงสร้างระบบการทำงานและการสั่งการเป็นคนละแบบ“แพทองธาร” นั้นทุกอย่างจะต้องผ่านศูนย์กลางอำนาจที่มี “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นผู้กำกับใหญ่ ดังนั้นงานทุกอย่างจึงต้องผ่านโดยตรงหรือเครือข่ายทำให้ทุกอย่างจึงเดินทางไปช้า ขั้นตอนมากที่สำคัญก็คือหัวหน้าทีมงานคือนายกรัฐมนตรีของ 2 รัฐบาลมีความต่างกันทั้งประสบการณ์ความรอบรู้คนหนึ่งมีมากกว่าจึงทำได้เลยและทำได้จริงอีกคนหนึ่งต้องผ่าน “พ่อ” หรือทีมที่ปรึกษา!ด้วยองคาพยพเหล่านี้จึงเห็นความต่างซึ่งจะส่งผลต่อเนื้องานอย่างปฏิเสธไม่ได้นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ “เพื่อไทย” จะเดินหน้าการเมืองต่อไป โดยคิดจะยกระดับลูกเขย “ทักษิณ” ให้เป็นแคนดิเดตเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำพรรคการเมืองเพราะไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง แม้จะเด่นชัดด้านธุรกิจแต่การเมืองไทยนั้นมันต่างกันมาก มีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะขนาดว่ามี “พ่อ” คอยกำกับ มีพี่เลี้ยงล้อมหน้าล้อมหลังก็ไปได้แค่นั้นประเด็นสำคัญก็คือ “พ่อ” ที่โดดลงมาเต็มตัวไม่ยอมให้อิสระก็เลยพากันเจ๊งไม่เป็นท่าเรื่องราวในลักษณะนี้มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดต่างกับ “อนุทิน” ที่อยู่ในแวดวงการเมืองมาพอสมควร มีประสบการณ์ด้านการบริหารธุรกิจและไม่ต้องมีคน “กดปุ่ม”ทำให้สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวของตัวเองเมื่อได้เป็นผู้นำรัฐบาลดูจากรัฐมนตรีแต่ละคนที่เข้ามาร่วมกันทำงานค่อนข้างจะมีอิสระโดยเฉพาะ “คนนอก” สามารถสั่งงานได้ด้วยตัวเองไม่ต้องผ่าน “เงา” ของใคร?จึงไม่แปลกที่แม้จะยังไม่ได้เข้าทำงานเต็มตัวแต่ก็ทำการบ้านและเห็นแนวทางรวมทั้งงานเชิงนโยบายที่เริ่มออกมาแล้วที่สำคัญก็คือการรับฟังภาคส่วนต่างๆจากการนำทีม ครม.ที่เกี่ยวข้องเดินสายพบหอการค้า ตลาดหลักทรัพย์ องค์กรภาคอุตสาหกรรมทำให้ได้ทั้งข้อมูล ข้อเสนอแนะ รู้ปัญหาสำคัญยิ่งก็คือได้ใจไปเต็มๆเพราะที่ผ่านมาองค์กรเอกชนเหล่านี้จะต้องร้องขอเข้าพบขอหารือกว่าจะดำเนินการได้ก็ล่าช้า ไม่ทันใจไม่ทันปัญหานี่คือข้อด้อยและข้อดีถือเป็นวิธีการทำงานที่ต่างกันจึงไม่แปลกที่นายกรัฐมนตรีคนนี้มีเสียงขานรับที่ดีกว่ากันยิ่ง “คนนอก” เข้ารับผิดชอบด้วย เศรษฐกิจมีภาพที่ดีก็ยิ่งทำให้เกิดความราบรื่นแม้ยังไม่ได้เริ่มทำงานทุกอย่างล้วนเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ต่างคนต่างก็มีแนวทางไม่เหมือนกันบางคนต้องการเป็น “ฮีโร่” อวดเก่งคนเดียวก็มีบางคนต้องการทำงานเป็นทีมและให้อิสระก็มีผลสำเร็จในบั้นปลายจะเป็นคำตอบ!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม