เช้าวันจันทร์ 22 ก.ย. นายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมด้วย คุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีคลัง คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์ คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีพลังงาน คุณวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยคลัง เดินทางไปเยือน สมาคมธนาคารไทย ต่อจาก สภาอุตสาหกรรมฯ สภาหอการค้าไทย เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจด้านการเงิน โดยมี คุณชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงเทพ คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย คุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต คุณอารักษ์ สุธีวงศ์ กรรมการและกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เข้าร่วมด้วยนายกฯอนุทิน ถือเป็น นายกฯคนแรกที่เดินเข้าหาภาคเอกชน แทนที่จะให้ภาคเอกชนร้องขอเข้าพบอย่างรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้สนใจแก้ปัญหาจริงจัง เสียเวลาสองปีไปฟรีๆคุณผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมไม่ได้ขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากภาครัฐ เนื่องจากนายกฯและคณะรัฐมนตรีมีความเข้าใจปัญหาที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะด้านการเงินการธนาคารและเศรษฐกิจทุกกลุ่ม ทั้งพลังงาน การค้า และอุตสาหกรรม การพบปะครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รอบ 58 ปี ที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจได้เดินทางมาหาเราเอง มีโอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการแก้ไขปัญหาภาคประชาชนและการจ้างงานอย่างชัดเจนเรื่องการแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง คุณผยง กล่าวว่า สภาพคล่องของธนาคารถือว่าไม่มีปัญหา เพียงแต่ไม่สามารถไหลไปยังจุดที่ต้องการได้ ต้องรอความชัดเจนของรัฐบาลในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เรื่องการปรับปรุงเครดิต หรือ Credit Enhancement ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญอีกส่วนหนึ่งคือข้อมูลที่ระบบยังไม่มี เอสเอ็มอีบ้านเราอยู่นอกระบบมากถึง 48% ทำให้ไม่มีข้อมูลและนำไปสู่ความสับสน ซึ่งนายกฯเข้าใจเรื่องนี้อยู่แล้วคุณปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต กรรมการสมาคมธนาคารไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือกับรัฐบาลครั้งนี้ เน้นการใช้เครื่องมือที่มีอยู่เพื่อจัดการปัญหาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากรัฐบาลมีเวลาจำกัดเพียง 4 เดือน บางเรื่องดำเนินการได้ทันที เช่น นโยบาย “คนละครึ่ง” ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการหมุนเวียนของเงินในระบบ หากประชาชนสามารถขายสินค้าและบริการได้ เงินจะกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว การหารือยังครอบคลุมความกังวลเกี่ยวกับบัญชีม้าและอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ มาตรการให้สภาพคล่องและสินเชื่อเพิ่มเติม การออกมาตรการใหม่อาจไม่ทันอายุรัฐบาล 4 เดือน สิ่งที่สามารถทำได้ทันทีคือ การเร่งเบิกจ่ายเงินที่อยู่ในท่อทั้งหลายออกมา เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนและกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วก็ถือเป็นครั้งแรกที่ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีเศรษฐกิจ หารือกับภาคเอกชนทุกกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เหมือนรัฐบาลเพื่อไทย กกร.ทำสมุดปกขาวไปยื่นไม่รู้กี่ฉบับ เงียบทุกฉบับ มีแต่งบแจกเงินหาเสียงและงบจัดอีเวนต์กันสนุกสนานคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯเศรษฐกิจและรัฐมนตรีคลัง ซึ่งเป็นลูกหม้อกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมายาวนาน ท่านนายกฯได้ให้นโยบายมาคือ แก้ปัญหาแบบ Quick Big Win เราจะฟื้นเศรษฐกิจไทยอย่างไรให้เร็ว สร้างผลกระทบที่ใหญ่ เพื่อให้ประสบความสำเร็จ แต่ต้องยั่งยืนด้วย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ภายหลังการถวายสัตย์แล้วจะเร่งดำเนินการทันที (ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์วันนี้)ก็รอดูมือ ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ ที่เป็น “มืออาชีพ” จะทำได้จริงหรือไม่ผมเชื่อว่า ความซื่อสัตย์สุจริตของ ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ สามารถฟื้นความเชื่อมั่นได้แน่นอน แม้จะมีเวลาทำงาน 4 เดือน แต่มีเวลารักษาการเพื่อขับเคลื่อนงานต่อไปได้อีกอย่างน้อย 4 เดือนก่อนมีรัฐบาลใหม่ เวลาทำงาน 8 เดือนถือว่าเพียงพอที่จะแสดงฝีมือ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม