“วันนอร์” คาด 1-2 ต.ค. แถลงนโยบายรัฐบาล แจงเก้าอี้ประธานสภาฯไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนรัฐบาล “พลพีร์” อ้างสปิริตการเมืองจี้ไขก๊อก “อนุทิน” พลิ้วไม่ใช่ท่าทีพรรค ภท.อ้าง สส.มีอิสระเสนอความเห็น ปชน.ยื่นร่างแก้ รธน.หมวด 15 ชงตั้ง กมธ.ยกร่าง 35 คน เลือกจากประชาชนทางอ้อม “ณัฐพงษ์” บี้ “อนุทิน” เดินสายล็อบบี้สมาชิก ให้ลุล่วงตามเอ็มโอเอ “พริษฐ์” กระทุ้งผู้นำจับเข่าคุย สส.-สว. “ภราดร” โบ้ยทุกพรรคช่วยกันกล่อม สว. ไม่ใช่โยนให้นายกฯ “นายกฯหนู” ถกสมาคมธนาคารไทยรับฟังข้อเสนอแนะแก้ปัญหาเศรษฐกิจเร่งด่วน ร่างนโยบาย รบ.เสร็จแล้วรอปรับถ้อยคำ เน้นลดค่าครองชีพ อัปเกรดคนละครึ่งพลัส ปรับโฉมหวยเกษียณของ พท. ภท.โชว์เนื้อหอม “พิพัฒน์” ล็อกเป้า กวาด สส.ใต้ 30 ที่นั่ง “พินทองทา-ปิฎก” เยี่ยม “ทักษิณ” ทนายยันยังป่วยอยู่ จ่อยื่นเพิ่มเอกสารตรวจโรคนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รอรัฐบาลแจ้งกำหนดวันเวลาที่พร้อมจะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยคาดว่าหากทุกอย่างพร้อม ไม่มีอะไรติดขัด อาจจะเป็นวันที่ 1-2 ต.ค. โดยใช้เวลาอภิปราย 2 วัน และให้วิป 3 ฝ่ายไปตกลงเรื่องกรอบเวลา“วันนอร์” คาดแถลงนโยบาย รบ. 1-2 ต.ค.เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ก.ย.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ กล่าวถึงวันแถลงนโยบายของรัฐบาลว่า หลังวันที่ 24 ก.ย.เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนฯและประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ จะแจ้งมายังสภาว่าพร้อมแถลงนโยบายวันใด สภาจะหารือวิป 3 ฝ่ายกำหนดวันและชั่วโมงการอภิปราย คาดว่าน่าเป็นต้นสัปดาห์หน้าหรือปลายสัปดาห์ สภาฯต้องแจ้งสมาชิกล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน หากทุกอย่างพร้อมไม่มีอะไรติดขัด อาจเป็นวันที่ 1- 2 ต.ค.จะใช้เวลาทั้ง 2 วันเท่ากับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิป 3 ฝ่าย ส่วนการแบ่งเวลาที่ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่ารัฐบาลจะแบ่งได้ลงตัวหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นหน้าที่วิปไปจัดการได้ ต้องประชุมหารือหาข้อตกลงแจง ปธ.สภาฯไม่เกี่ยวเปลี่ยน รบ.นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวถึงกรณี สส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กดดันให้เปลี่ยนตัวประธานสภาฯหลังเปลี่ยนรัฐบาลว่า เก้าอี้ประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ ไม่เคยมีกำหนดในรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับว่าจะเปลี่ยนไปตามรัฐบาล เพราะประธานสภาฯและรองประธานสภาฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรค การเมือง แต่ตำแหน่งที่เป็นอิสระ ถ้าดูประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลสักกี่ครั้งแล้วแต่ ประธานสภาฯไม่ได้เปลี่ยน นี่ไม่ได้หมายความว่าประธานสภาฯหรือรองประธานสภาฯอยากเปลี่ยนแต่ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่ากลัวข้อกังขาที่อาจมีตามมาหรือไม่ เพราะอยู่ในซีกฝ่ายค้าน นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ต้องดูหน้างานหากทำได้ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ว่าไปพท.ระแวง ปชน.ตีสองหน้าทำข้อสอบรั่วนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตที่ปรึกษา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงกรณีพรรค พท.ไม่ร่วมเป็นวิปฝ่ายค้านว่า เนื่องจากเหตุผลความไม่ไว้วางใจ เมื่อพรรค ปชน. เป็นนั่งร้านให้พรรค ภท.เข้าสู่อำนาจแบบขัดสายตาประชาชน ทำลายประเพณีการเมืองที่เคยมีมา พรรค พท.จึงไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรค ปชน.ได้ พฤติกรรมพรรค ปชน.ขัดสิ่งที่ประกาศต่อสาธารณะ หลังยกมืออุ้มพรรค ภท.เป็นรัฐบาล การทำงานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับรัฐบาล เป็นองค์ประชุมให้รัฐบาล ไม่อาจไว้วางใจได้ว่าการทำหน้าที่ฝ่ายค้านจะโปร่งใสหรือไม่ กังวลหากมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจ หวั่นใจข้อสอบจะรั่ว และไม่รู้ข้อตกลงระหว่างพรรค ภท.กับพรรค ปชน. มีดีลอื่นหรือไม่ ไปตกลงอะไรกันหลังบ้านบ้าง พฤติกรรมที่แสดงออกประหนึ่งทนายหน้าหอให้พรรค ภท.แก้ต่างให้รัฐบาล น่าสงสัยเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ทุกวันนี้ทำหน้าที่ไม่ต่างจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แล้วจะมีพรรคฝ่ายค้านใดไว้วางใจกล้าทำงานร่วมกับพรรคที่ตีสองหน้าได้“พลพีร์” อ้างสปิริตการเมืองจี้ไขก๊อกนายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรค ภท. กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรค พท.เรียกร้องให้พรรค ภท.บีบพรรค ปชน.ลาออกจากหัวหน้าฝ่ายค้าน หลังขัดหลักประชาธิปไตยสนับสนุนพรรค ภท.เป็นนายกฯว่า ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตพรรค ภท.ขี่พรรค ปชน.หลอกใช้เพื่อน เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ขอย้ำเป้าหมายเราปฏิบัติตามข้อตกลงยุบสภาใน 4 เดือน สัญญาคือสัญญาไม่หลอกใช้ใคร ไม่มีทางผลักคนที่รักชาติบ้านเมืองไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ยึดถือว่าเราจะเป็นขี้ข้าของคนไทยเท่านั้น จะไม่ยอมเป็นขี้ข้าของอังเคิลเด็ดขาด การทำงานการเมืองต้องมีสปิริต ที่ผ่านมาเก้าอี้ประธานสภาฯต้องเป็นของฝ่ายรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนนโยบายผ่านกฎหมาย แต่ตอนนี้ฝ่ายค้านเป็นประธานสภา หวงเก้าอี้แบบนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ สมัยพรรค ภท. ไปเป็นฝ่ายค้าน สิ่งแรกที่ทำคือนายภราดร ปริศนานันกุล ลาออกจากรองประธานสภา เปิดทางให้ฝ่ายรัฐบาลขับเคลื่อนการทำงาน“หนู” พลิ้วไม่ใช่ท่าที ภท.-สส.มีอิสระนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีนายพลพีร์ เรียกร้องให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ หลังพรรค ปช.เป็นฝ่ายค้านว่า ยังไม่ทราบเรื่องเลย ยืนยันว่าไม่ใช่ท่าทีของพรรค ภท.แน่นอน เมื่อถามว่านายวันมูหะมัดนอร์ควรจะลาออกจากตำแหน่งเลยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า อีก 4 เดือนก็ยุบสภาแล้ว เมื่อถามย้ำว่าท่าที สส.พรรค ภท. ไม่ใช่จุดยืนพรรคแน่นอนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่ใช่ท่าทีของพรรค เป็นความคิดส่วนตัวของ สส.แต่ละท่านที่มีอิสระ ที่แสดงความคิดเห็น” เมื่อถามย้ำว่าท่าทีนายกฯมองเรื่องนี้อย่างไร นายอนุทินกล่าวย้ำว่า 4 เดือนก็ยุบสภาแล้วปชน.ลุยยื่นร่างแก้ รธน.หมวด 15เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชนเข้ายื่นเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หมวด 15 ของพรรค ปชน. ต่อประธานรัฐสภา จากนั้นนายณัฐพงษ์ แถลงว่า พรรคยกร่างหมวด 15/1 มายื่นต่อประธานรัฐสภา ยังคงกลไกผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญให้ยึดโยงประชาชนมากที่สุด ไม่เสี่ยงขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เนื้อหาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี 2 กลไก 1.คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 35 คน มาจากการเลือกของประชาชน ในระบบบัญชีรายชื่อคือให้จัดตั้งคณะผู้ยกร่างมาเป็นทีม คล้ายพรรคการเมืองเสนอ สส.บัญชีรายชื่อต่อ 1 ทีมไม่เกิน 70 คน ใช้เขตเลือกตั้งประเทศคำนวณหาสัดส่วน แต่ละทีมจะได้ผู้ยกร่างเสนอเข้าสู่การพิจารณาต่อสภาฯไม่เกิน 70 คน จากนั้นเป็นหน้าที่สภาฯเลือกให้เหลือไม่เกิน 35 คน ให้ สส.และ สว.มีสิทธิเข้าชื่อ 20 คนเสนอ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ 1 คน ถ้ามีสมาชิกรัฐสภา 700 คนหาร 20 คน เสนอ 1 ชื่อจะได้ 35 คนพอดีชงเลือกสภาที่ปรึกษายกร่าง รธน.นายณัฐพงษ์กล่าวว่า 2.สภาฯที่ปรึกษายกร่างรัฐธรรมนูญ 100 คน มีหน้าที่รับฟังความเห็น สะท้อนข้อคิดเห็นต่างๆต่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มาจากระบบเลือกตั้งแบ่งเขตจังหวัดละ 1-5 คน กำหนดระยะเวลาจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ 270 วัน ให้กลไกทั้ง 2 ส่วนทำงานใกล้ชิดตลอดเวลา และรับฟังความเห็นประชาชนรอบด้านมากที่สุด เมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ ต้องเสนอร่างรัฐธรรมนูญต่อรัฐสภา หากสภาฯเห็นชอบ ให้ทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่ แต่ถ้าสภาฯไม่เห็นชอบ ร่างดังกล่าวตกไปต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน การทำงานของ กมธ.และสภาฯ ที่ปรึกษา ไม่ใช่ยกร่างแค่รัฐธรรมนูญใหม่ แต่จะทำหน้าที่พิจารณากฎหมายลูก บัญญัติให้บุคคลที่ทำหน้าที่ 2 คณะดังกล่าว ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในช่วงแรกหลังจบภารกิจ เช่น กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีกรอบเวลา 3 ปี สภาฯที่ปรึกษาฯ กรอบเวลา 2 ปีบี้ “อนุทิน” เดินสายล็อบบี้ทุกฝ่ายนายณัฐพงษ์กล่าวว่า จะส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรค พท.และพรรค ภท.ให้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 สัปดาห์นี้ ให้ที่มาผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ขอให้ สส.และ สว.ทุกคนเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15/1 ของทุกฝ่าย เปิดประตูไปคุยในชั้น กมธ.วาระ 2-3 และให้ประธานรัฐสภาเปิดประชุมร่วมรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว อยากส่งข้อเรียกร้องไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ เดินสายทำความเข้าใจกับสมาชิกทุกคน ให้การแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จตามกรอบเอ็มโอเอ ทุกพรรคควรส่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสัปดาห์นี้ช้าสุดต้นเดือน ต.ค. จะได้เริ่มพิจารณาวาระแรก และเดินหน้าแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 2-3 ให้เสร็จเดือน ต.ค. ยุบสภาปลายเดือน ม.ค.69 และ ครม.จัดทำประชามติ พร้อมเลือกตั้งปลายเดือน มี.ค.69 ตามกรอบเวลาเอ็มโอเอ ส่วนงบฯเลือก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สภาฯที่ปรึกษาฯและการทำประชามติ เป็นอำนาจฝ่ายบริหาร เชื่อว่างบฯไม่เป็นอุปสรรค ฝ่ายบริหารน่าจะบริหารจัดการได้ไม่กังวลเพิ่มแต้ม ภท.นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ส่วนที่นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผอ.โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อประชาชน (ไอลอว์) กังวลหากพรรค ภท.ทำตามสัญญาอาจได้รับความนิยมมากขึ้น พรรค ปชน.ไม่ได้กังวลเรื่องนี้ สิ่งที่พรรคการเมืองรักษาสัญญา ทำการเมืองตรงไปตรงมา ให้ประชาชนมีตัวเลือกดียิ่งขึ้น เป็นบรรยากาศดีทำให้ภาพรวมการเมืองไทยดียิ่งขึ้น ประชาชนเข้าคูหาเลือกตามเจตจำนงมากกว่า ยืนยันไม่มีดีลลับแน่นอน ส่วนที่พรรค พท.ไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้านคงไม่ทำให้สรรพกำลังฝ่ายค้านลดลง แต่อาจทำให้กลไกการตรวจสอบไม่เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควร สำหรับคดีอดีต 44 สส.ก้าวไกล อาจถูกตัดสิทธิการเมืองกรณีเข้าชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่มั่นใจจะรอดหรือไม่ แต่มั่นใจทีมกฎหมายพรรค เราเป็นผู้บริสุทธิ์ ถูกโจมตีด้วยนิติสงคราม พรรคประเมินอยู่ เชื่อว่า สส.พรรคทุกคนประเมินความเสี่ยงได้ทุกคน คงไม่อยากเพิ่มความเสี่ยงให้ประชาชนเสียโอกาส ทำให้อาจไม่ได้นายกฯสอดคล้องเจตนารมณ์ที่ไปลงคะแนนเสียงในคูหาขู่ซักฟอกบนเวทีแถลงนโยบายขณะที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. กล่าวว่า ทราบว่าพรรค พท. และพรรค ภท.จะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญสัปดาห์นี้ อยากให้ทั้ง 2 พรรคจัดทำ ส.ส.ร.ยึดโยงประชาชนมากที่สุด ได้เดินสายพูดคุยกับ สส. สว.หลายกลุ่มทำความเข้าใจ พร้อมคุยทุกฝ่ายให้เรื่องนี้สำเร็จ อยากเห็นนายกฯแสดงบทบาทความเป็นผู้นำพูดคุยกับ สส. และ สว. ให้วาระนี้ประสบความสำเร็จใน 4 เดือน ถ้ายังไม่เห็น ท่าทีชัดเจนจากนายกฯ อาจนำประเด็นนี้ไปอภิปรายต่อนายกฯโดยตรง ในเวทีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา“ภราดร” โยนทุกพรรคช่วยกล่อม สว.นายภราดร ปริศนานันทกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ คณะทำงานร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 พรรค ภท. กล่าวว่า ร่างของพรรคเสร็จแล้ว กำลังให้ สส.ร่วมลงชื่อ และหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นแล้ว จะรวบรวมรายชื่อยื่นเสนอประธานรัฐสภาบรรจุวาระวันที่ 24 ก.ย. ที่มา ส.ส.ร. 99 คน ให้ผู้ประสงค์เป็น ส.ส.ร.แต่ละจังหวัดสมัครต่อ กกต.แล้วให้รัฐสภาเลือกเหลือจังหวัดละ 1 คน อีกส่วนมาจากสายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์และเชี่ยวชาญ 22 คน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 7-8 คน ให้ผู้เชี่ยวชาญสมัครเข้ามาและให้รัฐสภาเลือกแนวเดียวที่มา ส.ส.ร.ปี 40 ส่วนข้อสะท้อนจากพรรค ปชน.ที่อยากให้นายกฯไปคุยกับ สว.ขอเสียงสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกฝ่ายควรช่วยกัน ไม่ว่าพรรค ปชน. พรรค พท. พรรค ภท.พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ต้องช่วยกันโน้มน้าว สว.ให้เดินไปสู่ปลายทางแก้รัฐธรรมนูญ“สว.พิสิษฐ์” โต้ไม่มีล็อบบี้-ใบสั่งบ้านใหญ่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว.โฆษกคณะ กมธ.วิสามัญกิจการวุฒิสภา กล่าวถึงข้อกังวลถึงเสียงเห็นชอบจาก สว. 1 ใน 3 ว่า หากไม่แตะหมวด 1-2 พร้อมเห็นชอบ สว.ยังไม่ได้หารือกัน โมเดล ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งประชาชนทางอ้อมทำได้ เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหา ผู้ต้องการแก้รัฐธรรมนูญ มีเพียงนักการเมืองที่กลัวมากอยู่ 2 คำ คือสุจริตเป็นที่ประจักษ์กับจริยธรรมอย่างร้ายแรง ส่วนข้อสังเกตความสัมพันธ์ สว.สีน้ำเงินกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เป็นความคิดเห็นคนอื่นมองกัน สว.ไม่ได้สังกัดพรรค ตนไม่ได้รู้จักนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ หรือนักการเมืองเป็นการส่วนตัว พรรคการเมืองเสนอร่างมา หากวุฒิสภาเห็นชอบด้วยพร้อมจะยกมือให้ ยืนยันไม่มีการล็อบบี้นายกฯหารือสมาคมธนาคารไทยเมื่อเวลา 09.35 น. ที่สมาคมธนาคารไทย ถนนแจ้งวัฒนะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและ รมว.มหาดไทย เป็นประธานหารือรับฟังข้อเสนอแนะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รับฟังข้อเสนอสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน มีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงาน นายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง มีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย คณะกรรมการสมาคมธนาคารไทยและที่ปรึกษาสมาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยนายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า พยายามคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถด้านเศรษฐกิจเข้ามาในรัฐบาล ได้พบทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ข้อมูลที่สร้างประโยชน์และแนวคิดให้ตนและทีมงาน ต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ รวมถึงความได้เปรียบการแข่งขันทางการค้า นำไปสู่การเป็นศูนย์กลางทางอาเซียนและภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ เชื่อว่าทุกคนพร้อมนำไปสู่เป้าหมายโดยรัฐบาลสนับสนุนเต็มที่ และที่ผ่านมาเคยทำงานฝ่ายธนาคารมาก่อน เริ่มที่บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (IFCT) เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อรอถกกฤษฎีกาเตรียมแผนบิน UN ต่อมาเวลา 11.50 น. นายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงการไปร่วมประชุมสหประชาชาติ (UN) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯว่า กำลังตรวจสอบว่าประธานรัฐสภาจะกรุณาให้แถลงนโยบายวันไหน ขอไปวันที่ 29 ก.ย. แต่เวที UN มีวันที่ 26 ก.ย.วันพุธที่ 24 ก.ย. หลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ฯแล้วจะเรียกประชุม ครม.ทันที จะหารือกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ จะไปพบปะหารือหรือร่วมทวิภาคี ถ้าว่าจำเป็นอยู่ดีๆไทยหายไปจากวง UN ทั้งที่มีคนไปร้องเรียนว่าไทยละเมิดกฎนานาชาติ เป็นโอกาสดีจะได้พบประชาคมโลก ผู้นำประเทศ ชี้แจงว่าไทยไม่ได้เป็นตามที่ถูกกล่าวหาให้ รมว.ต่างประเทศสแตนด์บายเตรียมแผนเดินทางแล้ว วันที่หารือมากที่สุดวันที่ 25-26 ก.ย. กลับมาทันแถลงนโยบาย หากเป็นวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. จะพูดคุยการค้าภาษีนำเข้าส่งออก อธิปไตยไทยมากมายเผยโครงร่างนโยบาย รบ.เสร็จแล้วนายอนุทินกล่าวอีกว่า ความคืบหน้าการจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาว่า ขณะนี้วางเค้าโครง รวมถึงเนื้อหาเสร็จหมดทุกเรื่องแล้ว แต่วันนี้มาพบกับสมาคมธนาคารไทย หรือแม้แต่สัปดาห์ที่แล้วที่พบกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมถึงการพบปะประชาชน ทำให้อาจต้องปรับเนื้อหานิดหน่อย เพื่อให้ตรงความต้องการและความห่วงใยจากทุกภาคส่วนมากที่สุด ส่วนนโยบายเศรษฐกิจจะคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ในร่างนโยบาย ไม่มีคำว่ากี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นนโยบายที่ประกอบในหลายมิติ ทั้งความมั่นคง สังคม เศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของประชาชน และแผนการทำงานของรัฐบาลมี 8 หน้าเน้น ศก. ลดค่าครองชีพผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่างคำแถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภาจัดทำเรียบร้อยแล้ว เหลือปรับถ้อยคำเล็กน้อยมี 8 หน้า เน้นเศรษฐกิจ ความมั่นคง สังคม ปากท้องประชาชน ภัยพิบัติ โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจจะเน้นการลดค่าครองชีพแก่ประชาชน เช่น นโยบายคนละครึ่ง ขณะนี้ระบบการใช้-วงเงิน อยู่ระหว่างการพูดคุย การลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง เช่น ลดค่าทางด่วน อาจปรับนโยบายที่พรรค ภท.เคยหาเสียงไว้ เช่น โซลาร์รูฟท็อปเป็นโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ให้เข้ากับอายุรัฐบาล 4 เดือน และจะนำนโยบายพรรค พท.มาปรับรูปแบบ เช่น หวยเกษียณ“อนุทิน” รับฟังแถลง นศ.วปอ.รุ่น 67ผู้สื่อข่าวรายงานจากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศว่า หลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล ศิษย์เก่า วปอ. ปี 2561 ได้ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 32 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ได้นำรูปภาพขึ้นติดทำเนียบศิษย์เก่า วปอ.ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญ ลำดับที่ 7 ที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต่อมาเวลา 13.50 น. นายอนุทินในฐานะประธานนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 61 เข้าร่วมงานการแถลงผลการศึกษา เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนักศึกษา วปอ. รุ่นที่ 67 มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ประธานการแถลงผลการศึกษาฯ เข้าร่วมปลื้มยุทธศาสตร์ตรงนโยบาย รบ.เป๊ะนายอนุทินกล่าวตอนหนึ่งว่า ได้มาฟัง วปอ.67 ยอมรับเหมือนเพลงพรหมลิขิตชักพาให้มาพบกันทันใด ทำไมเหมือนนโยบายรัฐบาลตนที่เตรียมแถลง ต่อรัฐสภา ต้นเดือน ต.ค. อาจมีถ้อยคำต่างกัน แต่กรอบ ความคิด ยุทธศาสตร์ตรงกัน ใช้หลักวิทยาศาสตร์จับต้องได้ เทคโนโลยีต้องทันโลกทันสมัย ทันท่วงที วปอ.67 ยึดหลัก STEM ตนจะขับเคลื่อนด้วยหลัก ที่คล้ายกันแต่ขอใช้คำว่า STECS ประกอบด้วย Systematic ขับเคลื่อนต้องมีระบบ Thainess ความ เป็นเอกลักษณ์ของไทย เชื่อถือได้ ราคายุติธรรม Exponential ขยายศักยภาพแบบเขย่งก้าวกระโดด และ C ที่ขอเติม S มีหลายคำไม่ว่า Connection สายสัมพันธ์ที่เงินซื้อไม่ได้แต่ต้องใช้ให้ถูกต้องมีจริยธรรม ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า Continuevity ต่อเนื่องไม่สิ้นสุด และ Constructive คิดเป็นบวก คิดก้าวหน้า และวันนี้ปัญหาคอร์รัปชันถึงเวลาแล้วเราต้องแก้ คนไทยรังเกียจเดียดฉันท์ ความไม่โปร่งใส ไม่สะอาด ทั้งการทำงาน จิตใจ รักชาติรักแผ่นดินคนไทย ตอนนี้เริ่มมีการแบ่งแยกแล้วเร่งคนละครึ่งพลัส ไม่มียอมกัมพูชานายอนุทินกล่าวว่า วันนี้แยกกันเดินร่วมกันตี มีความหมายกับตนมาก ทหารคิดยุทธศาสตร์ไป รัฐบาลต้องหาวิธีที่ต้องกดดัน วันนี้ยอมไม่ได้แล้ว มาถึงขนาดนี้แต่ไม่ใช่การไล่ตี แต่ทำงานเชิงรุก กำหนด เงื่อนไขให้คนมีปัญหากับเราต้องยอมรับ ประเทศไทยได้เปรียบทุกประตู ไม่ว่าเศรษฐกิจ แสนยานุภาพ เมื่อได้เปรียบแบบนี้จะให้เรายอมก่อนไม่ได้ ตนและ ที่นั่งในห้องนี้ สะกดคำนี้ไม่เป็น ตนกับ รมว.กลาโหมและทุกเหล่าทัพ จะใช้แนวทางนี้ดำเนินยุทธศาสตร์ต่อกรกับคนที่เรามีปัญหาอยู่ ชายแดนกัมพูชาต้อง มีคำตอบ มีผลลัพธ์ให้ประเทศไทยไม่สูญเสียอะไร ไปมากกว่าผู้เสียชีวิต ขอต้องไม่มี เราต้องทำให้ได้ภายใน 4 เดือน เพราะฉันไม่ยอม รัฐบาลจะทำโครงการ คนละครึ่งพลัส เป็นแรงจูงใจให้คนที่เสียภาษี 60 ต่อ 40 มั่นใจกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็ว รัฐบาลมีเวลาไม่มาก แต่อาจทำทุกอย่างที่ค้างท่อ เร่งปัจจัยทั้งหลายให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด เท่าที่เวลาที่เรามี รัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่มีปัญหา พรรคร่วมฯ ไม่มีไม่สนับสนุนกัน ทุกอย่าง เป็นประโยชน์กับประเทศ ถือว่าเป็นบิ๊กวินของประเทศภท.เปิด 3 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ตเมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม แกนนำภาคใต้ พร้อมนายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย แถลงเปิดว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ตทั้ง 3 เขต คือ น.ส.พลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ อดีตกรรมการบริหารและรองโฆษกพรรค ปชป.เขต 1 นายษณกร กี่สิ้น อดีตรองนายก เทศมนตรีเมืองป่าตอง เขต 2 และนายวิวัฒน์ จินดาพล อดีตสมาชิก อบจ.ภูเก็ต เขต 3 นายศุภชัยกล่าวว่า ทั้ง 3 คน จะผนึกกำลังร่วมกับพรรค ภท.เพื่อให้ได้ ชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมาถึงภายใน 6 เดือนข้างหน้านี้นายพิพัฒน์กล่าวว่า พรรค ภท.ทาบทามว่าที่ผู้สมัคร สส.ภูเก็ตทั้ง 3 เขต หัวหน้า ภท.พูดเสมอ ว่า หลังถวายสัตย์ฯและแถลงนโยบายรัฐบาลจะนับหนึ่ง จากนั้นอีก 4 เดือน จะยุบสภาตามที่ได้ลงนาม MOA กับพรรค ปชน.ล็อกเป้าใต้ 30 เก้าอี้ ตรังรอเขต 3–4เมื่อถามว่า จะมีว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ มาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า จ.สงขลามาเรียบร้อย จังหวัดฝั่งอันดามัน จ.ภูเก็ตมาแล้ว 1 จังหวัด จ.ตรัง ฟังนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ 23 ก.ย. จะหารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.จะเอาอย่างไรต่อไป อย่างน้อยที่สุด เขต 1 และ เขต 2 จ.ตรัง ประกาศแล้วจะมาร่วมงานพรรค ภท. เหลือ น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ สส.ตรัง เขต 3 และเขต 4 ต้องรอดู อีกนิด จ.นครศรีธรรมราช เราเจาะเป็นรายบุคคล ได้หารือนายอภินันท์ เชาวลิต นายก อบต.ท่าศาลา หรือนายกเอ แล้วจะมาช่วยกัน ส่วนภรรยานายอภินันท์ นางอวยพรศรี เชาวลิต สส.เขต 9 นครศรีธรรมราช พรรค ปชป.ยังเป็น สส.อยู่ ไม่สามารถพูดอะไรได้ และหลายเขตมีการคุยตกผลึกไปแล้ว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หลังแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จจะเห็นภาพใครมาร่วมงานกับ ภท.บ้าง แน่นอนมี สส. นราธิวาส 1 ท่าน มีผู้สมัครเกือบทุกเขตใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มั่นใจว่าภาคใต้ 14 จังหวัดจะมีข้อสรุป ในกลางเดือน ต.ค. ยังยืนยันตั้งเป้า 30 เก้าอี้ภาคใต้ขอ ปชน.สบายใจยึดข้อตกลง MOAเมื่อถามว่า หลายคนกังวลโดยเฉพาะพรรค พท.เริ่มโจมตีพรรค ภท.เดินสายเหล่านี้จะขัดกับ MOA หรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า ที่เราไปเดินเชิญชวนคนนั้นคนนี้มาร่วมทำงานการเมืองกับพรรค ภท.เป็นเรื่องปกติ การที่จะมีการเลือกตั้งหลังยุบสภา ถ้าเรารอยุบสภาแล้วหาผู้มาร่วมงานการเมืองตามอุดมการณ์ของพรรค ภท. คงจะหาเสียงไม่ทัน มั่นใจว่าขณะนี้ไม่ใช่เฉพาะพรรค ภท. พรรค ปชน. พรรค พท. พรรค ปชป. พรรคกล้า (กธ.) หรือพรรคอะไรเตรียมเลือกตั้งล่วงหน้าต้นปีหน้าแล้ว ขอให้เพื่อนๆ พรรค ปชน.สบายใจได้ พวกเราปฏิบัติตาม MOA แน่นอนน.ส.พลอยทะเลกล่าวว่า ตั้งใจมาร่วมกับ พรรค ภท.ตั้งแต่สมัยลงเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลตำบลวิชิต อ.เมืองภูเก็ต เห็นการทำงาน พรรค ภท.ช่วงโควิด-19 ทำได้ดีมาก ประทับใจพรรค ทำให้ตัดสินใจย้ายมา ปัญหาภายใน พรรค ปชป.เป็นปัจจัยส่วนหนึ่ง เพราะจะทำงานการเมืององค์กรต้องเข้มแข็ง ต้องสนับสนุนตอบโจทย์ประชาชนแก้ปัญหาต่างๆ จึงต้องเป็น พรรค ภท. มั่นใจหลายคนยังสนับสนุนไม่ว่าไปสังกัดพรรคใด“แทน” โต้ทาบ “มาร์ค” แลกเก้าอี้ นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้า พรรค ปชป. กล่าวถึงกระแสข่าวเข้าพบนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคเสนอรวบรวม สส.และคณะกรรมการบริหารพรรคให้โหวตเลือกนายอภิสิทธิ์นั่งหัวหน้า พรรค ปชป.แลกเก้าอี้เลขาธิการพรรคว่า ได้เข้าพบจริง แจ้งให้ทราบว่ายังมี สส.พรรคที่สนับสนุนท่านขอให้กลับมาฟื้นฟูพรรค เรียกคืนศรัทธาของประชาชนที่เคยมีต่อพรรค ที่มีข่าวขอแลกเปลี่ยนนั่งเป็นเลขาธิการพรรคไม่เป็นความจริง ไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้ มีแต่คุยกันถึงแนวทางฟื้นฟูพรรคที่จะเปิดกว้างรับคนรุ่นใหม่และอดีตสมาชิกพรรคเดิมกลับมาร่วมงานกับพรรค“เอม–น้องเขย” เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”เมื่อเวลา 10.30 น. ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประสานทำเรื่องให้ น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม บุตรสาวคนกลางนายทักษิณและนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าเยี่ยมนายทักษิณ เวลา 10.55 น. น.ส.พินทองทาและนาย ปิฎกมาถึงทักทายคนเสื้อแดง แล้วเข้าเยี่ยมนายทักษิณภายในแดนพยาบาล กระทั่งเวลา 12.00 น. น.ส. พินทองทากลับออกมา กลุ่มคนเสื้อแดงยืนรอให้กำลังใจส่งเสียง “คุณเอมสู้ๆ เป็นกำลังใจ” ผู้สื่อข่าวถามถึงอาการป่วยของพ่อ น.ส.พินทองทาตอบสั้นๆ ว่า “เป็นห่วงอาการคุณพ่อ กำลังใจสำคัญ” ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับทนายยันยังมีอาการป่วยอยู่นายวิญญัติเปิดเผยว่า หลังลูกสาว ลูกเขย เข้าเยี่ยมนายทักษิณรู้สึกดี มีความสุขขึ้น ใบหน้ายิ้มแย้มที่ได้รู้ว่ามีประชาชนส่งกำลังใจ ส่งความรักความคิดถึง ฝากขอบคุณมาเช่นเดิม กำลังใจสำคัญ การป่วยมีอยู่แล้ว 3 วันที่ไม่ได้พบเป็นห่วงสุขภาพเพราะมีโรคประจำตัว สัปดาห์ที่แล้วมีนัดจะพบนักจิตวิทยาและแพทย์แต่เลื่อนมา วันนี้หลังทานอาหารกลางวันน่าจะมีแพทย์มาตรวจร่างกาย มีเสียงบ่นว่ายังปวดกระดูกต้นคอและไขสันหลัง เป็นอาการโรคก่อนเข้าเรือนจำแล้ว วันเสาร์ที่ 20 ก.ย. มีข่าวว่าท่านถูกส่งตัวไปที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ไม่เป็นความจริง ยังอยู่ในเรือนจำตลอดเวลา เมื่อถามว่านายทักษิณเจ็บป่วยมากน้อยอย่างไรหรือบรรเทาลงหรือหนักขึ้นหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า ขอใช้คำว่ายังมีอาการป่วยอยู่ ยืนยันว่าท่านป่วย แต่ไม่ได้ออกไปข้างนอกจ่อยื่นเพิ่มเอกสารการตรวจโรคนายวิญญัติกล่าวว่า เราต้องมีฐานข้อมูลให้แพทย์และทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ เชื่อว่าเดิมเขามีอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าข้อมูลเดิมบางอย่างเป็นเอกสารที่ทางเราสงวนไว้ อาจจะมีเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อยืนยันว่าผลการตรวจหรือการเป็นโรค เราต้องเสนอเข้าไป กระบวนการปฏิบัติต่อไปต้องดูเป็นขั้นเป็นตอน ก้าวล่วงความเห็นแพทย์ไม่ได้ และอยู่ภายใต้ระเบียบเรือนจำ ท่านเป็นคนอดทน ไม่แสดงอาการออกมาให้เราเห็น แม้ร่างกายจะมีอาการป่วย แต่เป็นคนอดทนและคิดบวก มีกำลังใจดี ส่วนที่มีคนไปร้องอุทธรณ์มาตรา 112 อยู่ในกระบวนการ ใครจะร้องอะไรเป็นสิทธิ์ฝ่ายตรงข้ามหรือเป็นคนไม่ปรารถนาดี เจ้าหน้าที่รัฐดูไว้อยู่แล้วไม่เป็นไร วันพฤหัสบดีที่ 25 ก.ย. ช่วงเช้า สมาชิกครอบครัวน่าจะเดินทางมาเยี่ยมท่าน“อิ๊งค์” ติดงานจะมาเยี่ยมพ่อ 25 ก.ย.ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ หัวหน้า พรรค พท. เปิดเผยว่า ไม่ได้ไปเยี่ยมนายทักษิณ เนื่องจากติดงานแต่มีกำหนดจะเข้าเยี่ยมในวันที่ 25 ก.ย. เมื่อถามว่าจะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า จะประชุมทีมและคณะทำงาน หาเวลาลงพื้นที่ช่วยหาเสียงคปท.ยื่นอุทธรณ์คดี “ทักษิณ” ม.112เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำมวลชน คปท.และกองทัพธรรม ยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดผ่านนายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ และโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อให้พิจารณายื่นอุทธรณ์คดี ที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คดีมาตรา 112 โดยนายพิชิตกล่าวว่า ช่วงหนึ่งคำพิพากษาศาลเห็นว่าอัยการนำสืบไม่สมภาระในการพิสูจน์ ทำให้มีคำถามว่าอัยการเป็นโจทก์ได้ดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ คลิปวิดีโอพิสูจน์ครบถ้วนจริงหรือไม่ หรือคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ อัยการอาจทำให้สำนวนคดีอ่อน ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ต.ค. จะติดตามเร่งรัด ให้อัยการส่งสำนวนที่รัดกุมมากกว่านี้ หากไม่ยื่นอุทธรณ์อาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กลายเป็นจำเลยเอง ด้านนายศักดิ์เกษมกล่าวว่า อัยการยื่นหนังสือขยายระยะเวลาอุทธรณ์ไปเป็นวันที่ 22 ต.ค. ส่วนเอกสารที่กลุ่ม คปท.และกองทัพธรรมยื่นจะนำเรียนให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่