โปรดเกล้าฯแล้ว ครม. “อนุทิน” ตั้ง 6 รอง นายกฯ-4 รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี “เสี่ยหนู” ควบ รมว.มหาดไทย ลูก “เนวิน” คุมกระทรวงดีอี “รุทธพล” ยึดเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม “ธรรมนัส” นั่งรองนายกฯ ควบ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เตรียมเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ วันที่ 24 ก.ย. “นายกฯหนู” ยันสแกนเข้ม ตรวจสอบประวัติละเอียดยิบทุกขั้นตอน “ภูมิธรรม” แซะโฉมหน้า ครม.ใหม่ บุรีรัมย์โมเดล พรรคประชาชนยืมเวทีแถลงนโยบายรัฐบาล เค้นถามความเหมาะสม รมว.ยุติธรรมคนใหม่ 3 พรรคใหญ่ “ประชาชน-เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ยื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญใหม่สัปดาห์หน้า คาดแก้ไขเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ ศาลฎีกาพลิกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง “อัญชะลี” คดี พธม.ร่วมยึดสถานีเอ็นบีทีครม.รัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทุกตำแหน่งเป็นไปตามโผ ครม. โดย ครม.ชุดใหม่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณวันที่ 24 ก.ย.และแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา วันที่ 25 ก.ย.นี้โปรดเกล้าฯแล้ว ครม.อนุทิน 1เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 19 ก.ย. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรีความว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ ตามประกาศลงวันที่ 7 ก.ย. บัดนี้นายอนุทินได้เลือกสรรผู้สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตร และสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรมต.สำนักนายกฯ งอก 4 เก้าอี้นายภราดร ปริศนานันทกุล เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสันติ ปิยะทัต เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เป็น รมว.กลาโหม พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ เป็น รมช.กลาโหม นายวรภัค ธันยาวงษ์ เป็น รมช.คลัง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็น รมว.ต่างประเทศ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอัครา พรหมเผ่า เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็น รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช เป็น รมช.คมนาคม“เสี่ยหนู” ควบ มท.–“ลูกเนวิน” นั่งดีอีนายไชยชนก ชิดชอบ เป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ เป็น รมว.พลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ เป็น รมว.พาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็น รมว.มหาดไทยอีกตำแหน่ง นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมช.มหาดไทย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ เป็น รมช.มหาดไทย น.ส.ศศิธร กิตติธรกุล เป็น รมช.มหาดไทยตามคาด “รุทธพล” คุมยุติธรรมพล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ เป็น รมว.ยุติธรรม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง เป็น รมว.แรงงาน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ เป็น รมว.วัฒนธรรม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็น รมว.ศึกษาธิการ นายองอาจ วงษ์ประยูร เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.สาธารณสุข นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เป็น รมช.สาธารณสุข นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นรมว.อุตสาหกรรม จ่าเอกยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ เป็น รมช.อุตสาหกรรม ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 19 ก.ย.2568 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณฯ 24 ก.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ภายหลังการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่แล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี จะนำ ครม.ชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ในวันพุธที่ 24 ก.ย.เวลา 18.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน โดยมีการนัด ครม.ทั้งหมดที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.00 น. เพื่อถ่ายรูปติดบัตรและถ่ายภาพหมู่ที่ตึกสันติไมตรี และตรวจเอทีเค จากนั้นเวลา 16.00 น. ออกเดินทางไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน และภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน จะมีประชุม ครม.นัดพิเศษ ที่ตึกบัญชาการ 1 จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะนำ ครม.ทั้งหมด แถลงที่ตึกภักดีบดินทร์ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะแถลงนโยบาย ครม.ต่อรัฐสภา วันที่ 25 ก.ย.ทำเนียบฯเตรียมสถานที่รับ ครม.ขณะเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ก.ย. เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลได้เตรียมพร้อมสถานที่ นำป้ายที่จอดรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 6 คน และตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาติดตั้งประจำที่โรงจอดรถด้านข้างตึกบัญชาการ 2 ขณะเจ้าหน้าที่กองสถานที่ ยานพาหนะ และรักษาความปลอดภัย เข้าสำรวจห้องทำงานรองนายกรัฐมนตรี และ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ตึกบัญชาการ รวมถึงแม่บ้านได้ขัดล้างบันไดด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า โดยช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ย.คณะทำงานนายสันติ ปิยะทัต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำซินแสมาดูห้องทำงานในตึกบัญชาการ 1 ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่“มาร์ค” ให้คำแนะนำ “อนุทิน”ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางวันวันที่ 19 ก.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดคุยกันที่บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยนายอนุทินโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากปลื้มให้ข้อแนะนำมีคุณค่าต่อมาเวลา 15.30 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการรับประทานอาหารร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ได้คุยกันหลายเรื่องรู้จักกันมานานแล้ว นายอภิสิทธิ์ได้แสดงความยินดี และให้กำลังใจ เมื่อถามว่าจะมีร่วมมือกันทางการเมืองหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า พรรคพวกเจอกันไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องการเมืองทุกเรื่อง เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์แนะนำการบริหารงานช่วงระยะเวลาอันสั้นอย่างไร นายอนุทินตอบว่า คุยกันทุกเรื่อง ซึ่งทุกเรื่องที่นายอภิสิทธิ์แนะนำเป็นเรื่องมีคุณค่ายันสแกนประวัติ ครม.เข้มข้นนายอนุทินกล่าวว่า ส่วนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น เตรียมพร้อมร่างนโยบาย 99% แล้ว ช่วงนี้เดินสายพบภาคเอกชน ผู้ประกอบการ หอการค้า สัปดาห์หน้าจะพบตลาดทุน สมาคมธนาคาร ก่อนเข้าไปรับหน้าที่อย่างเป็นทางการ อะไรที่เห็นควรจะเพิ่มเข้าไปในร่างนโยบาย จะเพิ่มเข้าไป แต่โดยหลักเตรียมพร้อมไว้แล้ว ส่วนวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น ขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภาจะนัดให้อภิปราย ประมาณ 2 วัน เมื่อถามว่าพรรคประชาชนล็อกเป้าไว้รัฐมนตรีบางคนมีคดีค้างใน ป.ป.ช. นายอนุทินตอบว่า ต้องมาพิสูจน์กัน ก่อนจะนำรายชื่อทูลเกล้าฯ มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน ไม่เคยตรวจสอบระดับนี้มาก่อนใช้หน่วยงานที่ตรวจสอบทั้งหมด ก่อนเสนอชื่อก็ประชุมร่วมกันทำทุกวิถีทาง และขณะยื่นเรื่องขึ้นไป ทุกหน่วยงานก็ไม่มีประเด็นใดที่เป็นปัญหารอดูท่าทีร่วมประชุมยูเอ็นนายอนุทินยังกล่าวถึงการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ในฐานะตัวแทนประเทศไทย ต้องดูหากยังไม่แถลงนโยบายต่อสภาจะเดินทางไปร่วมประชุมได้หรือไม่ จึงยืนยันไม่ได้จะไปหรือไม่ หากไปช่วงวันที่ 25-26 ก.ย. อาจไม่ทัน เพราะต้องเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯวันที่ 24 ก.ย. คิดว่าไม่น่าจะทันในวันที่เดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ แต่หากประเทศไทยไม่เดินทางไปร่วมประชุม ในช่วงที่เกิดข้อพิพาทกับกัมพูชาที่กัมพูชาเขียนจดหมายถึงผู้นำสหรัฐฯว่า ไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง จึงจำเป็นต้องไปชี้แจงด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสเดินทางไปเองใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า มีแนวโน้ม แต่ต้องตรวจสอบให้ดีว่าหากไปแล้วต้องไปเป็นตัวแทนประเทศไทยได้อย่างสมบูรณ์ หากไปแล้วไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มที่นั้น ประเด็นนี้ตนมีเงื่อนไขของตนเหมือนกัน จะไปต้องมีอาวุธให้ไปเจรจาความเมืองด้วย“วันนอร์” ยังไม่รู้วันแถลงนโยบายที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการกำหนดวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาว่า ยังไม่ได้รับประสานมาจากรัฐบาลจะกำหนดวันแถลงนโยบายในวันใด ต้องรอการประสานอีกครั้ง แต่การแถลงนโยบายต้องดำเนินการหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว. มหาดไทย นำ ครม.ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตนในวันที่ 24 ก.ย.ก่อน เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 25-26 ก.ย.นี้ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า ยัง ต้องรอรัฐบาลพร้อมและแจ้งต่อสภาฯ จะแถลงนโยบายช่วงไหน มีกรอบระยะเวลาอยู่แล้วว่า หลังถวายสัตย์ปฏิญาณต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่เกิน 15 วัน สภาจะรีบดำเนินการให้โดยเร็วแถลงนโยบายไม่ทันวันที่ 25 ก.ย.ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ประสานมาจะแถลงนโยบายรัฐบาลวันใด ปกติตามระเบียบข้อบังคับการประชุมรัฐสภาให้แจ้งวาระประชุมร่วมรัฐสภาอย่างน้อย 5 วัน ถ้าเป็นกรณีเร่งด่วนอาจแจ้งล่วงหน้า 1 วันได้ กระแสข่าวจะแถลงนโยบายรัฐบาล วันที่ 25 ก.ย. ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะการแถลงนโยบายรัฐบาล ต้องรอหลังวันถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 24 ก.ย. ไม่สามารถบรรจุวาระประชุมร่วมรัฐสภาได้ทันกรอบเวลาตามข้อบังคับการประชุม คาดว่าจะแถลงนโยบายรัฐบาลได้เร็วสุด ช่วงวันที่ 29-30 ก.ย. หรือวันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค.จะมีความเป็นไปได้มากกว่า“อิ๊งค์” ยิ้มแย้มจูงลูกเข้าพรรคเมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรค โดยพา ด.ญ.ธิธาร และ ด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรทั้ง 2 คนมาด้วย ซึ่งทั้ง น.ส.แพทองธารมีสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยทยอยเดินทางเข้าพรรค อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อประชุมทีมกฎหมายเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและวางแผนการทำงานในฐานะฝ่ายค้านเตรียมความพร้อมการหาเสียงเลือกตั้งพท.แซะ ครม.ใหม่บุรีรัมย์โมเดลนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโฉมหน้า ครม.รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล หลังได้รับการโปรดเกล้าฯว่า ต้องไปถามพรรคเด็กที่สนับสนุนส่งเสริมว่าคิดอย่างไร พอใจหรือไม่ มีคนที่ติดขัดอยู่ใน ป.ป.ช. หรือมีความเกี่ยวข้องกับหุ้น บริษัทให้ไปดูเอา ควรไปถามพรรคน้องๆ ส่วน รมว.ยุติธรรม ที่ถูกมองว่ามีความเชื่อมโยงกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์นั้น ถือเป็นบุรีรัมย์โมเดลทั้งหมดอยู่แล้ว ไปดูรายชื่อแต่ละคนมีที่มาจากไหน เป็นใคร ขอไม่วิจารณ์กาหัวยื่นซักฟอกคดีเขากระโดงนายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนคดีเขากระโดงที่ยังไม่มีการเพิกถอนที่ดินดังกล่าวที่ผ่านมาผลการศึกษาในที่ประชุมได้พูดคุยกัน นายเดชอิศม์ ขาวทอง อดีต รมช.มหาดไทย พูดชัดเจนถึงทางเลือกและทางออก กระบวนการกฎหมายที่ทำมาทั้งหมดเสร็จแล้ว เหลืออยู่ 1 เรื่องที่อธิบดีกรมที่ดินคนเดิมทำไม่ครบ อีกทั้งยังมีเรื่องตรวจแนวแผนที่ที่ทั้งสองฝ่ายไม่ยอมเซ็นกัน ตอนที่ตนมาเป็น รมว.มหาดไทย นายเดชอิศม์จับให้มาเซ็นร่วมกันเอกสารมีชัดเจน มีการยอมรับกันในกระบวนการทำที่ได้รับแจ้งจากกรมที่ดินคือ สิ่งที่ต้องทำก่อน แต่กลับไปดึงเอาคำสั่งที่ยุติเรื่องที่ทำไม่ครบยังผิดกฎหมาย เอามาแก้ ต้องรอนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มาอธิบาย แต่เรื่องนี้จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ไปดูหลักฐานกัน ยิ่งตอนนี้เป็นนายกฯใช้โทรศัพท์สั่งได้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปนั่งถึงจะจัดการได้ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ปฏิเสธและโกหกไม่ได้ แต่สำหรับคนชอบพลิกลิ้นอาจทำได้ ให้รอดูข้อเท็จจริงตอนที่เรื่องเปิดเผยกัดไม่ปล่อย รมต.บัญชีดำ ป.ป.ช.นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการเปิดเผยมีรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดคดีทุจริตว่า จะสอบถามไปยัง ป.ป.ช.ว่า คดีรัฐมนตรีคนนี้อยู่ในขั้นตอนใด ป.ป.ช. ต้องเป็นผู้ตอบ หากได้เอกสารที่เกี่ยวข้องมา จะนำมาเปิดเผยแน่นอน ให้รอดูวันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เรื่องความสง่างามของ ครม.ที่มีรัฐมนตรีที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนั้น อยู่ที่ผู้ตั้งรัฐมนตรีมาทำงาน แต่เมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดและมีการส่งไปดำเนินการตามขั้นตอน ขอถามว่ามีความสง่างามหรือไม่ ประชาชนเชื่อได้อยู่หรือไม่ การทำหน้าที่ของผู้มีประวัติเหล่านี้เป็นความรับผิดชอบทางการเมืองเหมือนกัน พรรคประชาชนพยายามไม่เข้าร่วมจัดโผ ครม. แต่จะทำหน้าที่ตรวจสอบในสิ่งที่ ครม.ดำเนินการในฐานะฝ่ายค้าน ถ้าเราเป็นผู้เสนอชื่อ ครม. มีส่วนรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่เมื่อเป็นฝ่ายค้านก็ร่วมรับผิดชอบด้วยการตรวจสอบ ครม.ชุดนี้จ่อเค้นปมตั้ง รมว.ยุติธรรมที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึง ครม.ชุดใหม่ว่า เวทีแรกที่จะตรวจสอบคือการแถลงนโยบายรัฐบาล พรรคประชาชนตั้งทีมเตรียมผู้อภิปรายในระดับหนึ่งแล้วแบ่งเป็น 4 หมวดคือ 1.การตรวจสอบและติดตามการรักษาสัญญาตามเงื่อนไขเอ็มโอเอ 2.ตรวจสอบประเด็นสังคมตั้งคำถามกรณีฮั้ว สว. และที่ดินเขากระโดง 3.ตรวจสอบนโยบายเฉพาะหน้าที่รัฐบาลชุดนี้จะผลักดัน โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการคนละครึ่ง การป้องกันไม่ให้มีการใช้งบรายจ่ายปี 2569 สร้างคะแนนนิยม 4.ตรวจสอบความเหมาะสมรายชื่อ ครม. เช่น กรณี รมว.ยุติธรรม เป็นอดีตตำรวจ จ.บุรีรัมย์ อยู่ในทีมหรือภายใต้การบังคับบัญชาของอดีตตำรวจคนหนึ่งที่เป็น สว. และถูกตั้งคำถามคดีฮั้ว สว. รวมถึงจุดยืนเรื่องนโยบายกัญชา3 พรรคยื่นแก้ รธน.สัปดาห์หน้านายพริษ์ฐ์กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ในการประชุม กมธ.พัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร วันที่ 18 ก.ย. ตัวแทนพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย และ สว. หารือความคืบหน้าการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขมาตรา 256 หมวด 15/1 พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมประชุมใน กมธ. แต่ได้หารือนอกรอบในห้องประชุมสภาฯแล้ว มีข้อสรุปว่าทั้ง 3 พรรค จะยื่นร่างแก้ไขจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่สัปดาห์หน้า คาดว่าจะพิจารณาวาระ 1 ได้ต้นเดือน ต.ค. วาระ 2-3 เดือน ธ.ค. และยุบสภาเดือน ม.ค.2569 การจัดทำประชามติรอบแรกในการเลือกตั้ง สส.ทั่วไป คาดว่าเป็นเดือน มี.ค.หรือ เม.ย.2569 ทั้ง 3 พรรค เห็นตรงกัน 2 เรื่องคือ 1.การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องตั้งกลไกที่ยึดโยงประชาชนให้มีส่วนร่วม 2.โมเดลสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ทั้ง 3 พรรค จะมีตัวแทนระดับพื้นที่และระดับประเทศ การที่พรรคภูมิใจไทยไม่เข้าร่วมประชุมการแก้รัฐธรรมนูญใน กมธ. คงต้องวัดที่ผลสัมฤทธิ์จะผลักดันร่างแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามไทม์ไลน์หรือไม่ หากสัปดาห์หน้าพรรคภูมิใจไทยยื่นร่างตามที่ให้คำมั่นไว้แสดงถึงจริงใจ ขอชวน สว.ร่วมผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญ และพรรคภูมิใจไทยในฐานะแกนนำรัฐบาลควรทำงานเชิงรุกคุยกับ สว. ให้ได้เสียง สว. 1 ใน 3 เห็นชอบศาลฎีกาตัดสินคดี พธม.ยึดเอ็นบีทีที่ศาลอาญา เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ตามที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตร (เสียชีวิต) น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นายภูวดล ทรงประเสริฐ นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล น้องชายนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ ซ่องโจรเป็นหัวหน้าสั่งการ บุกรุกสถานที่ราชการทำให้เสียทรัพย์ เมื่อปี 2551 ที่จำเลยกับพวกร่วมบุกยึดสถานีเอ็นบีที ช่วงการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี คดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนจำคุกจำเลยคนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา จำเลยทั้งสี่ยื่นฎีกา จำเลยเดินทางมาฟังคำพิพากษา 3 คน ยกเว้นนายภูวดลที่ป่วยติดเตียงอยู่สถานพยาบาลยกฟ้อง “อัญชะลี” ไม่เกี่ยวยึดทีวีรัฐศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า น.ส.อัญชะลี นายภูวดล นายยุทธิยง พยานโจทก์ และพยานหลักฐานอื่นมีน้ำหนักน้อย ยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยทั้งสามเดินทางไปสถานีเอ็นบีทีในเวลาใด และไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนว่า จำเลยทั้งสามให้คำปรึกษา แนะนำหรือสั่งการกลุ่มมวลชนหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัยตามสมควรยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลยทั้งสาม ส่วนนายชิติพัทธ์ พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องต้องกันว่า จำเลยสั่งการมวลชนทั้งข่มขู่เจ้าหน้าที่ให้เกิดความกลัว นับถอยหลัง 1-60 ให้เจ้าหน้าที่หยุดปฏิบัติหน้าที่ออกอากาศ ให้รีบออกจากอาคารทำลายประตูทางเข้าและทรัพย์สินอื่นเสียหายกว่า 6 แสนบาท แต่ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษนายชิติพัทธ์มานั้น หนักเกินไป เห็นควรปรับโทษใหม่ให้เหมาะสม แก้ให้จำคุกนายชิติพัทธ์ 8 เดือน คำให้การนายชิติพัทธ์เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้างลดโทษให้ 1 ใน 4 คงจำคุกนายชิติพัทธ์ 6 เดือน ไม่รอลงอาญา ส่วน น.ส.อัญชะลี นายภูวดล นายยุทธิยง พิพากษายกฟ้องบอกโล่งใจเป็นบทเรียนชีวิตน.ส.อัญชะลีกล่าวว่า ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่มีความเมตตา ที่ผ่านมาต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมการตัดสินในวันนี้รู้สึกโล่งใจ ดีใจ ถือเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมาเป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้ขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดี ชีวิตนี้จะอุทิศให้ประชาชนและประเทศ ส่วนจะเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการเมืองอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมือง จะช่วยโดยไม่ต้องระมัดระวังสิ่งใด ยืนยันว่าไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นภาคประชาชน สื่อมวลชนเห็นอะไรไม่ถูกต้องแก้ไขสิ่งผิดให้ถูก“ทักษิณ” นอนน้อยความดันขึ้นนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พบญาติและครอบครัวเสร็จสิ้น เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เจ้าหน้าที่พานายทักษิณไปตรวจวัดความดันพบความดันสูงเล็กน้อย อาจเป็นผลจากการนอนน้อย ส่วนกรณีนักจิตวิทยา เมื่อวันที่ 18 ก.ย. เลื่อนมาเป็นวันที่ 19 ก.ย.แทน ผลการตรวจเปิดเผยไม่ได้ ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าตัวเท่านั้น การใช้ชีวิตประจำวัน นายทักษิณตื่นนอน เวลา 06.00 น. เข้านอน 21.30 น. มื้อเช้ารับประทานไข่ต้ม ไข่ลวกเช่นเดิม ระหว่างวันจะอ่านหนังสือ ดูทีวี เดินแกว่งแขนออกกำลังกาย ส่วนวันที่ 20 และ 21 ก.ย.ทราบว่า จะมีมวลชนเสื้อแดงรวมตัวมาทำกิจกรรมหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ที่ผ่านมาเรือนจำรับม็อบมวลชนเป็นประจำอยู่แล้ว จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของพื้นที่เป็นปกติอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่