อาหารวัดพุทธเกาหลี ไม่ใช่เพียงแค่มื้ออาหารธรรมดา แต่คือมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แห่งชาติ สะท้อนถึงจิตวิญญาณอันลึกซึ้งของพุทธศาสนา ไม่เพียงเป็นมื้ออาหารหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ยังเป็นเสมือนบทเรียนแห่งการปฏิบัติธรรมที่แฝงด้วยปรัชญาการสำนึกในพระคุณของชีวิตและภาวนาเพื่อสันติสุขของสรรพสิ่งเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมล้ำค่านี้ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย ได้เชิญ “ภิกษุณีพระอาจารย์ดงฮวา” เจ้าอาวาสวัดมโย-กยอน-อัม เกาหลีใต้ มาแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับปรัชญาและแก่นแท้ของอาหารวัด พร้อมสาธิตการปรุงแพนเค้กเกาหลี “จังต๊อก” และซุปแป้งต๊อกปั้นสด “ซูเจบีเห็ดและงาขี้ม่อน” ให้แก่นักศึกษาจากหลักสูตรโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้ลิ้มลองรสชาติอันอ่อนนุ่มละมุนละไมพระอาจารย์ดงฮวากล่าวว่า อาหารวัดเกาหลีมีแนวคิด “ความเคารพต่อชีวิตและความกลมกลืน” เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างกาย ใจ และสิ่งแวดล้อม มนุษย์ถือกำเนิดจากธรรมชาติ และกลับคืนสู่ธรรมชาติในที่สุด อาหารจึงถูกมองว่าเป็นดั่งยารักษาโรค ช่วยบำรุงกายและใจให้สมดุล มากกว่าการแสวงหาความรื่นรมย์จากรสชาติหัวใจสำคัญในการปรุงอาหารวัดเกาหลีมี 3 ประการ ได้แก่ ความสะอาด ทั้งจิตใจและสถานที่ปรุง, จิตใจที่อ่อนโยนเอื้อเฟื้อ คำนึงถึงผู้อื่น เช่น ปรับอาหารให้เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพ และประการสุดท้ายคือ การกระทำที่นุ่มนวล ขณะที่อาหารวัดเกาหลีเน้นใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติตามฤดูกาลและในท้องถิ่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีเนื้อสัตว์ ปลา และผักต้องห้าม 5 ชนิด เช่น กระเทียมและต้นหอม ด้วยเชื่อว่าก่อพลังปรารถนาและรบกวนสมาธิอาหารวัดเกาหลีจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่การรับประทานอาหาร แต่เป็นการบำรุงร่างกายและจิตวิญญาณ เปรียบเสมือนการเดินทางสู่ความสงบและอิ่มเอมใจในทุกๆคำที่ได้สัมผัส และที่สำคัญหลังจากได้ลองชิม 2 เมนูจากพระอาจารย์ดงฮวาด้วยตัวเองแล้ว เชื่อว่าน่าจะชนะใจนักชิมทั่วโลกได้อย่างไม่ยากเย็น.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม