วันๆพันกว่าเรื่อง การเมืองไทยอีนุงตุงนัง ชุลมุนมั่วไปหมด พรรคภูมิใจไทยรวบรวมเสียงข้างมาก ชิงแถลงจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย 146 เสียง ภายหลังได้เสียงพรรคประชาชนมาช่วยสนับสนุนเฉพาะกิจ โหวต “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ลุยตั้งรัฐบาลชุดใหม่ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ระบุนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯขอยุบสภาไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย.แต่ไม่กี่อึดใจมีการตีกลับส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภากลับมายังสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมาย รัฐบาลรักษาการไม่สามารถยุบสภาได้ สอดรับกับความเห็นของเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อนหน้านี้สุดท้ายเพื่อไทยต้องยอมจำนน พร้อมเป็นฝ่ายค้าน เข้าสู่กระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ตามที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเร่งเซ็นคำสั่งบรรจุวาระเพิ่มเติมให้มีการโหวตเลือกนายกฯในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 5 ก.ย.การเมืองไทยฝุ่นตลบ หลากเหตุการณ์ชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมเฉือนคม ดุเดือดทั้งเกมชิงอำนาจ และเกมสกัดอำนาจที่เกิดขึ้นและจบในวันเดียวนับถอยหลังรอ “เสี่ยหนู” นั่งเก้าอี้นายกฯคนที่ 32 ที่ให้คำมั่นจะใช้เวลาทุกนาทีปฏิบัติหน้าที่การเป็นรัฐบาลให้ดีที่สุด คุ้มค่ากับความไว้วางใจที่มีต่อกันไฟต์บังคับว่าที่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทยต้องลุยเหยียบคันเร่ง ดำเนินการตาม 5 ข้อตกลงตามพันธกิจที่ลงนามกับพรรคประชาชนไว้ ผลักดันทำประชามติ เปิดทางให้ตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง (ส.ส.ร.) มาดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับต้องปิดจ๊อบทำให้สำเร็จใน 4 เดือน แล้วยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ภายใต้เงื่อนไขสำคัญ ห้ามหาเสียง สส.มาเติมให้มากกว่า 146 เสียงในปัจจุบันภูมิใจไทยโดนล็อกคอด้วยพันธสัญญา ให้ถูลู่ถูกังบริหารประเทศด้วยเสียงข้างน้อย ห้ามหักหลัง ฉีกสัตยาบัน หาเสียงมาเพิ่มเติมในทุกกรณีแนวโน้มที่ค่ายสีน้ำเงินมีต้นทุน สส.อยู่ที่ 69 เสียง หากรวมกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ และกลุ่มก๊วนการเมืองต่างๆ เบ่งยังไงก็ยากที่จะเพิ่มแต้มพลิกเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากได้ถือเป็นตัวเลือกที่พรรคประชาชนมองแล้ว อยู่ในเซฟโซนมีความปลอดภัยมากกว่าการไปสนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่มีเสียง สส.ในมือ 140 เสียง มีความเสี่ยงสูงกว่า อาจโดนหักหลังซ้ำรอยได้ส้มเข็ดเขี้ยวแดง ถึงอย่างไรคงไม่กลับไปญาติดีด้วยทุกกรณีแน่จึงไม่เปลี่ยนใจไปสนับสนุน นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเงื่อนไขพิเศษเที่ยวสุดท้ายที่พรรคเพื่อไทยล่อใจมา หากพรรคประชาชนโหวตให้นายชัยเกษมเป็นนายกฯ แค่รอให้แถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จ จะประกาศยุบสภาทันที ไม่ต้องเสียเวลารอ 4 เดือน ตอบโจทย์ยุบสภาได้ทันใจกว่าเพื่อไทยหมดลาย ต้องดิ้นทุกวิถีทาง หาหนทางรักษาอำนาจให้อยู่ในมือ ยอมแม้กระทั่งขอเป็นนายกฯแค่ไม่กี่วัน หวังผลลัพธ์การเป็นรัฐบาลรักษาการ ไขว่คว้าหาอำนาจรัฐ ไม่ให้ถูกตามคิดบัญชีแค้นห้วงอันตรายที่พรรคเพื่อไทยใกล้ขาลอย หมดอำนาจไร้สิ้นทุกสิ่งอย่าง ไม่แคล้วถูกตามเช็กบิลทุกกรณี ตั้งแต่เบาไปหาหนักนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี คือจำเลยหมายเลขหนึ่งที่ถูกขึ้นบัญชีดำเอาผิดหนักหลายกรณีแน่สภาพพรรคเพื่อไทยร่อแร่ ในยามที่ความศรัทธาของประชาชนติดลบ กู้แต้มอย่างไรก็ยังกู่ไม่กลับ ไม่ต้องมองไปถึงระยะยาว หลังยุบสภาในอีก 4 เดือนข้างหน้า จะมี สส.เพื่อไทยแตกทัพย้ายพรรคนับสิบหรือไม่และระหว่างทาง ช่วงการฟอร์มทีมรัฐบาล หรือในช่วงไทม์ไลน์บริหารประเทศ 4 เดือน ก็ไม่รู้จะมี สส.เพื่อไทยกลายร่างเป็นงูเห่าเพิ่มเติมตามเงื่อนไขยั่วยวนหรือไม่ยิ่งถ้าวันที่ 9 ก.ย. หากผลการตัดสินคดีของศาลฎีกาคดีป่วยทิพย์ชั้น 14 ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาในแง่ลบ สภาพภายในพรรคอาจเตลิดหนักกว่าเก่าเอฟเฟกต์คลิปสนทนา “ลุง–หลาน” กระเพื่อมหนัก พาเพื่อไทยล้มเป็นโดมิโน ใกล้ปิดฉากเกมอำนาจ!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม