ศบ.ทก.เห็นชอบแผนสร้างรั้ว 16 กิโลเมตร บ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว กั้นเขตแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “มาริษ” บินนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ หอบหลักฐานฟ้องโลก ที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทย ชี้แจงกับกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา ส.อ.สุทธิชัย เรื่อเรือง หนึ่งใน “วีรบุรุษปราสาทตาควาย” เผยนาทีโดนฝ่ายตรงข้ามบึมใส่จนเพื่อนร่วมทีมพลีชีพถึง 3 คน ซาบซึ้งแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ทิ้งลูกน้องดูแลให้กำลังใจทุกคนทั้งผู้ที่พลีชีพและบาดเจ็บแม้สถานการณ์การสู้รบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 4 จังหวัดจะดูเงียบลง แต่ไทยไม่ประมาทเนื่องจากกัมพูชาไว้ใจไม่ได้ ยังคงตรึงกำลังทหาร ทหารพราน และ ตชด.เตรียมความพร้อมไว้เสมอ ขณะที่กัมพูชาเข้ามาแอบส่องแอบดูความเคลื่อนไหวของทหารไทยตลอดเวลาที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเที่ยงวันที่ 3 ก.ย.พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลประชุมว่าสถานการณ์โดยทั่วไปทั้ง 2 ฝ่าย ยังอยู่ในภาวะสงบไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากช่วงเวลาที่ผ่านมา จากการลงพื้นที่ของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) ที่เดินทางไปสังเกตการณ์ในพื้นที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ได้เน้นย้ำไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่จะทำหน้าที่สังเกตการณ์เก็บข้อมูลและรายงานอย่างเป็นธรรม ส่วนแผนงานจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยวิสามัญครั้งที่ 2/2568 ระหว่างวันที่ 7-10 ก.ย.ในพื้นที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา รูปแบบแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ การประชุมฝ่ายเลขานุการร่วม วันที่ 7-9 ก.ย. ส่วนวันที่ 10 ก.ย. ประชุม GBC หลักและแถลงในพื้นที่ จ.ตราดด้านการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณชายแดน ที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว วันเดียวกัน ที่ประชุม ศบ.ทก.จ.สระแก้ว ผวจ.สระแก้วชี้แจง นำเสนอแนวทางการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้ประชาชนในพื้นที่บ้านหนองจานและพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว มีแผนจัดสร้างรั้วระยะทาง 16 กิโลเมตร บริเวณหลักเขตแดนที่ 50 ถึง 51 ได้สำรวจหลักเขตแดนและได้ข้อยุติเรียบร้อยแล้ว พร้อมกันสำรวจสิทธิการครอบครองที่ดินในพื้นที่อย่างละเอียด ตลอดจนมีมาตรการดำเนินการตามกฎหมายของไทย ในการประกาศใช้กฎหมายกับชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่และแจ้งความกับราษฎรกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ศบ.ทก.เห็นชอบในหลักการที่ จ.สระแก้วเสนอมาและจะนำข้อมูลเสนอต่อที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในลำดับ ถัดไปเพื่อขออนุมัติขณะที่นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ประเด็นด้านการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26-28 ส.ค. นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ เดินทางไปนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำข้อมูลและหลักฐานโดยเฉพาะการวางทุ่นระเบิดในเขตแดนไทย ไปชี้แจงกับกลุ่มบุคคลต่างๆที่มีอิทธิพลต่อการส่งเสริม ให้เกิดการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา เป็นโอกาสปรับความเข้าใจเรื่องต่างๆให้ได้เข้าใจถูกต้องรองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวอีกว่า รมว.ต่างประเทศ ยังประกาศว่าไทยจะเข้าร่วมโครงการรณรงค์ระดับโลกของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องการลดอาวุธเพื่อมนุษยธรรมและดำเนินการด้านทุ่นระเบิดและเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้เข้าพบเลขาธิการสหประชาชาติอีกครั้ง นำส่งข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์เพิ่มเติมอีกครั้ง ท่านยังติดตามการขอรับคำชี้แจง จากฝ่ายกัมพูชาต่อกรณีดังกล่าว ผ่านเลขาธิการสหประชาชาติด้วย ทั้งนี้เพื่อนำกัมพูชากลับเข้าสู่การปฏิบัติตามพันธกรณีโดยสมบูรณ์และยุติการใช้ทุ่นระเบิดโดยทันทีนางมาระตี ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารตามที่ปรากฏรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส อ้างกรณีที่ชาวกัมพูชาไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ว่า เป็นผลจากอาวุธที่ตกค้างของฝ่ายไทยจากการปะทะกันบริเวณชายแดนในช่วงที่ผ่านมา เป็นข้อกล่าวหาที่บิดเบือน กัมพูชาเป็นฝ่ายที่ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงมาโดยตลอด ทั้งลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล การใช้โดรน และปลุกระดมประชาชนอีกด้านวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านอีปาด ต.อีปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ เยี่ยมให้กำลังใจ ส.อ.สุทธิชัย เรื่อเรือง ทหารสังกัดกองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 “วีรบุรุษในสนามรบไทย-กัมพูชา” อีกคนที่ออกจาก รพ.มารักษาตัวที่บ้าน หลังบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ บินโดรนทิ้งระเบิดใส่ทหารกัมพูชา แล้วถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ตาได้รับ บาดเจ็บ ส.อ.สุทธิชัยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า วันเกิดเหตุ เป็นวันที่ 25 ก.ค.ได้รับภารกิจมีหน้าที่บินโดรนทิ้งระเบิดที่ปราสาทตาควายจังหวัดสุรินทร์ มีทหารออกปฏิบัติการทั้งหมด 10 นาย ในนั้น 4 นาย เป็นหน่วยตนที่มีหน้าที่นำโดรนออกไปทิ้งระเบิดระหว่างนั้นมีการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา จุดที่ตนอยู่ห่างจากจุดปะทะฝั่งกัมพูชาประมาณ 500 เมตร จังหวะที่ตนกำลังก้มลงเก็บโน๊ตบุ๊กเตรียมย้ายพิกัด มีระเบิดยิงมาจากฝั่งกัมพูชาตกลงมาข้างๆที่พวกตนอยู่ ทำให้สะเก็ดระเบิดโดนเพื่อนทหารและตน จนเพื่อนเสียชีวิตไป 3 นาย ส่วนตนบาดเจ็บสาหัส สะเก็ดระเบิดเจาะเข้าที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง กับแขนข้างขวาโดนสะเก็ดระเบิดจนกระดูกหัก ตอนแรกคิดว่าแขนขาคงกระจุยไปแล้ว พอตั้งสติได้จึงร้องบอกให้เพื่อนๆดึงตัวเข้าที่กำบัง แล้วเรียกหน่วยพยาบาลเข้าช่วยเหลือนำส่ง รพ. หมอผ่าตัดเอาสะเก็ดระเบิดออกจากดวงตาทั้ง 2 ข้างได้อย่างปลอดภัย ขณะนี้ดวงตาขวามองเห็น 100% แต่ตาซ้ายยังมัวอยู่นิดๆ ต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดไม่ให้ตาแห้ง ส่วนแขนหมอผ่าตัดใช้เหล็กดามกระดูก ผ่าตัดเย็บถึง 3 ชั้น กว่า 100 เข็ม พออาการดีขึ้นหมอให้ออกจาก รพ.มารักษาตัวที่บ้านตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. ตอนนี้ก็เริ่มแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆส.อ.สุทธิชัยกล่าวต่อไปว่า ได้ดูแม่ทัพภาคที่ 2 เล่าถึงตนและทหารทุกนายที่ได้รับบาดเจ็บ รู้สึกภาคภูมิใจ ขอขอบคุณแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ให้เกียรติ ให้การดูแลพร้อมเข้ามาให้กำลังใจลูกน้องทุกนาย ทั้งผู้ที่เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ หากอาการบาดเจ็บหายเป็นปกติ ถึงร่างกายจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ จะขอกลับไปรับใช้ชาติต่อไป ถ้าในภารกิจแนวหน้ามีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ยังจะไปเหมือนเดิม ขอฝากกำลังใจให้กับพี่ๆน้องๆทหารแนวหน้าทุกนายที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ อยากให้ทหารทุกนายมีแว่นไว้ป้องกันสายตา เพราะสายตาเป็นจุดที่สำคัญและเป็นจุดที่อ่อนโยนที่สุด ถ้าเกิดเหตุเหมือนตน แว่นจะช่วยป้องกันภัยและอันตรายที่จะเกิดกับดวงตาเราได้ขณะเดียวกันหลังจากที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวกับนักศึกษาหลักสูตรวัคซีนเพื่อชีวิต (วชส.) สมาคมพนักงานสอบสวน ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กทม. ตอนหนึ่งระบุว่าปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีการวางรั้วลวดหนามไว้ทั้งหมด หากกัมพูชามาแตะรั้วผม ผมถือว่าแตะอธิปไตยไทย ถ้าอยากรู้ว่าจะทำอย่างไรก็ลองมาแตะดู ยืนยันว่า รั้วพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 อยู่ชั่วกัลปาวสาน สำหรับปราสาทตาเมือนธมปิดตาย รั้วลวดหนามขึงแล้วขึงเลยไม่เอาออก จะขึ้นมาเที่ยวชมต้องใช้วีซ่า ใช้พาสปอร์ตเท่านั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เป็นหมู่บ้านที่ติดชายแดนปราสาทตาเมือนธมมากที่สุด สอบถามความคิดเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ นายนนท์ กิรัมย์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านหนองคันนา กล่าวว่า เห็นด้วยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ที่จะปิดตายปราสาทตาเมือนธม ทหารไทยต้องปกป้องรักษาแผ่นดินไทย อย่าให้เขามาเบียดเบียนรุกราน อย่าให้เขาเอาไปได้ ส่วนสถานการณ์แถวชายแดน ชาวบ้านหลายครอบครัวทยอยอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยกันมากแล้ว เช่นตามวัดต่างๆ เพราะเขาระแวงได้ยินเสียงฟ้าผ่าก็คิดว่าเสียงปืน พากันตกใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ ในพื้นที่ชายแดนตอนนี้ ยังคงตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้นอีกวันไหน และคาดหวังอะไรไม่ได้ แม้จะมีการประกาศหยุดยิงแล้วก็ตาม จึงอพยพเด็ก ผู้หญิง คนชรา ผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยก่อนนายชำนาญ ชื่นตา ผวจ.สุรินทร์ เผยว่า ได้ของบประมาณสร้างบังเกอร์เพิ่มถึง 4 ร้อยกว่าแห่งใน 4 อำเภอติดชายแดน คิดเป็นยอดงบประมาณถึง 101 ล้านบาท เพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจ มีหลุมหลบภัยใกล้ตัวเพื่อความปลอดภัย หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ในพื้นที่ชายแดนยังคงตึงเครียดไม่รู้ว่าจะเกิดการปะทะขึ้นอีกวันไหน แม้จะมีการประกาศหยุดยิงแล้วก็ตาม ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวมีการอพยพเด็ก ผู้หญิง คนชรา ผู้ป่วยติดเตียง ออกจากพื้นที่ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วตามวัดต่างๆ เช่น วัดเทพสุรินทร์ วัดศรีรัตนาราม อ.เมืองสุรินทร์วันเดียวกัน นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รอง ผวจ.สุรินทร์ พล.ต.ไชยนคร กิจคณะ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 25 พ.อ.ธนาคม เลื่อนทอง หน.กองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 25 และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ เดินทางไปมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบไทย-กัมพูชา รายละ 1 ล้านบาท มีครอบครัวของนายสุที บุญแต่ง นางสะทน กันภัย ปู่-ย่า ของน้องน้ำโขง-ด.ช.ธิติวัฒน์ บุญแต่ง อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตจากจรวด BM-21 ที่ทหารกัมพูชายิงตกใส่บ้านที่ ต.ด่าน อ.กาบเชิง เมื่อวันที่ 24 ก.ค. และมอบอีก 1 ล้านบาทให้นางวรรณวิษา อุ่นจิตร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโจรกฯ แม่นายบัณฑิต อุ่นจิตร อายุ 34 ปี ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน นอกจากนี้ยังมอบชุดเครื่องแบบ ชรบ.ชุดใหม่ให้เจ้าหน้าที่ ชรบ.หมู่บ้านโจรกฯ เป็นขวัญกำลังใจที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านตลอดช่วงการสู้รบที่ผ่านมาที่กองทัพภาคที่ 1 ช่วงเย็น พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 1 แถลงสรุปถึงขั้นตอนการดำเนินการทางยุทธการของแม่ทัพภาคที่ 1 ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่รับผิดชอบ ว่า ได้สั่งการและเตรียมกำลังในการเคลื่อนย้ายกำลังเข้าพื้นที่ปฏิบัติการใน จ.สระแก้ว พร้อมดำเนินการตามแผนจักรพงศ์ภูวนารถ 681 ตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 26 ก.ค. ต่อที่หมายพื้นที่ปฏิบัติการ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุมชน แม่ทัพภาคที่ 1 เน้นย้ำให้ระมัดระวังและกระทำต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น การดำเนินการเราใช้หน่วยทหารที่มีศักยภาพสูงกว่าหลายเท่า ทำให้ฝ่ายตรงข้ามล่าถอยไป ขอย้ำว่าการปฏิบัติการเป็นไปอย่างรอบคอบ ไม่ให้กระทบประชาชนกัมพูชา ป้องกันไม่ให้นำไปขยายผลต่อเวทีโลกว่าเราปฏิบัติต่อเป้าหมายพลเรือนสำหรับกรณีบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้วนำส่วนที่เกี่ยวข้องและประชาชนที่มีเอกสารสิทธิ ไปรังวัดที่ดินแล้ว และ ผวจ.สระแก้ว ได้ทำหนังสือถึง ผวจ.บันเตียเมียนเจย ให้ดำเนินการต่อสิ่งปลูกสร้างของกัมพูชาที่รุกล้ำอธิปไตยของไทยมิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย มีการปักป้ายแจ้งให้ชาวกัมพูชาทราบว่าจะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรต่อไป ยืนยันว่าต่อไปนี้จะไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยของไทย หากกัมพูชายังนิ่งเฉยจะมีการยกระดับและกำหนดมาตรการการดำเนินการ จากเบาไปหาหนักและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรมต่อทั้ง 2 ประเทศอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่