ที่สร้างความตระหนกตกใจให้กับสหรัฐฯ จี 7 นาโต และสหภาพยุโรปคือ การประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่มหานครเทียนจินของจีนเมื่อ 1 กันยายน 2025 หลังจากนั้นอีก 2 วันก็มีการจัดพิธีสวนสนามเพื่อรำลึกวาระครบรอบ 80 ปีชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2สิ่งที่เราเห็นในคลิปต่างๆ คือการสนทนาของเหล่าผู้นำด้วยท่าทางที่เป็นมิตรถ้อยทีถ้อยอาศัย ให้เกียรติซึ่งกันและกันไม่ว่าประเทศเล็กชาติน้อยผิดกับเมื่อ 17 วันที่แล้ว 18 สิงหาคม 2025 ทรัมป์เรียกผู้นำประเทศในซีกของตนซึ่งมีเซเลนสกี (อูเครน) มาครง (ฝรั่งเศส) สตาร์เมอร์ (อังกฤษ) เมลอนี (อิตาลี) สตับบ์ (ฟินแลนด์) เมิร์ซ (เยอรมนี) รึตเตอ (เลขาธิการนาโต) และเลเยน (ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป) เหมือนเรียกพนักงานขายมาสุมหัวกันที่ทำเนียบขาว นั่งกันระเกะระกะเหมือนนั่งฟังเลกเชอร์ นักวิเคราะห์หลายสำนักฟันธงว่ามหาอำนาจเบอร์ 1 ของโลกตัวจริงเสียงจริงไม่ใช่สหรัฐฯและพวกอีกต่อไปแล้ว แต่เป็น RIC หรือรัสเซีย อินเดีย และจีน ส่วนสหรัฐฯที่ดำเนินนโยบายมหาอำนาจเดี่ยวมาตั้งแต่อดีตกำลังมีปัญหา เอาโซ่มาล่ามตัวเองด้วยหนี้รัฐบาลกลางสูงถึง 37 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นเงินไทยถึง 1,184 ล้านล้านบาทดูจากภายนอก สหรัฐฯและยุโรปเป็นประเทศหรูหราหมาเห่าที่ดำเนินนโยบายสนับสนุนสงครามเกินกว่าฐานะของตนเอง พวกที่มานั่งต่อหน้าทรัมป์เป็นผู้นำประเทศที่มีหนี้ล้นพ้นตัวทุกชาติ ในสมองของพวกนี้ คิดแต่จะสร้างสงครามเพื่อปล้นทรัพยากรของชาติอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศที่มีทรัพยากรมากที่สุดในโลกอย่างรัสเซียถึงคราวเข้าตาจน ชาติลูกสมุนของสหรัฐฯก็ทะเลาะกันเอง อย่างฝรั่งเศสกับอิตาลี ตอนนี้ล่อกันเละ นายอันตอนีโย ตายานี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ด่านายฟรองซัวส์ เบย์รู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ที่ไปกัดอิตาลีก่อนว่า ‘ทุ่มตลาดทางการคลัง’ เพื่อดึงเศรษฐีฝรั่งเศสให้ย้ายไปอยู่อิตาลีRIC หรือไตรภาคี 3 ประเทศ รัสเซีย อินเดีย และจีน มีบทบาทในโลก ทั้ง 3 ประเทศกุมยูเรเซียขึ้นทะเลเหนือและดึงมองโกเลียให้เชื่อมจีนกับรัสเซียมีการกล่าวกันอย่างกว้างขวางว่ามหานครเทียนจินเป็นสุสานฝังซากของมหาอำนาจเก่าอย่างสหรัฐฯและยุโรป ระเบียบโลกใหม่เกิดขึ้นแล้วอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1 กันยายน 2025 ณ นครเทียนจินขอแสดงความเสียใจกับประเทศพันธมิตรหลักนอกนาโต หรือ Major Non-NATO Ally (MNNA) แม้ไม่ใช่สมาชิกหลักของนาโต แต่มีสถานะพิเศษ ความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้านความมั่นคง กลาโหม และการทหารแน่นแฟ้นกับสหรัฐฯอย่างฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น อิสราเอล จอร์แดน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ไทย (ไทยเริ่มมีสถานะเป็นพันธมิตรหลักนอกนาโตเมื่อ ค.ศ.2003) ฯลฯที่ซีดเซียวเหี่ยวแห้งก็คือพวกที่อยู่ในกรอบอินโด-แปซิฟิก เช่น กลุ่มควอด (สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย) กลุ่มออคัส (สหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย) กลุ่ม IPEF ซึ่งประกาศโดยสหรัฐฯที่โตเกียวเมื่อ 23 พฤษภาคม 2022 (สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ไทย ฯลฯ)หลายประเทศที่หลงเข้าไปในกรอบอินโด-แปซิฟิกกำลังดิ้นรนลดบทบาทตัวเองในกลุ่มควอดและกลุ่ม IPEF เช่น อินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฯลฯ เพื่อหันไปทุ่มเทให้กับ SCO และ BRICSขณะที่สีจิ้นผิงทุ่มงบหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯให้สมาชิก SCO กู้ไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างงานให้ประชาชน พวกประเทศโลกเก่าอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี กลับเผชิญความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ ถึงขนาดเตรียมขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เพื่อพยุงสถานะเศรษฐกิจของตัวเองภาพผู้นำรัสเซีย จีน และอินเดียที่เทียนจิน เป็นสัญลักษณ์ว่า ตะวันออกกำลังรวมพลัง รัสเซียมีพลังงานและการทหาร จีนเป็นเครื่องจักรเศรษฐกิจและการค้า มีบทบาทในแถบและเส้นทาง (BRI) และเส้นทางสายอาร์กติก ส่วนอินเดียมีประชากรมากที่สุดในโลก เศรษฐกิจโตไว เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมในการประชุม SCO ไม่ได้มีการพูดถึงเงินสกุลใหม่โดยตรง แต่มีการผลักดันให้มีการใช้เงินท้องถิ่น เช่น รูเบิ้ล หยวน รูปี ในการค้าระหว่างกัน ขณะที่เมื่อปีที่แล้วกลุ่ม BRICS มีการพูดเรื่องสกุลเงินร่วม ซึ่งรัสเซียกับจีนสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยเสนอให้อิงกับทองคำหรือตะกร้าสินค้าโภคภัณฑ์.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม