“ภูมิธรรม” นำขบวนขันหมากพรรคร่วมรัฐบาลทาบทาม “เท้ง ณัฐพงษ์” ขอเสียง 143 สส.พรรค ปชน. โหวตหนุน “ชัยเกษม นิติสิริ” นั่งนายกฯ “อ้วน” ยอมรับทุกเงื่อนไข วาระแห่งชาติแก้วิกฤติรัฐธรรมนูญ อ่อยจะให้ยุบสภาก่อนครบ 4 เดือนยังได้ เพื่อไทยพ่วงออปชันเร่งฟันคดีฮั้วเลือก สว.-เขากระโดง เจอด้อมส้มจัดหนักทวนความจำ “เพื่อไทยตระบัดสัตย์” “เท้ง” อุบไต๋ทิศทางโหวต ขอไปคุยในพรรคก่อน “เดชอิศม์” ปิดประตูใส่ ภูมิใจไทย ลั่นรัฐประหาร 100 ครั้งไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. “เฉลิมชัย” ปัดไม่ได้ส่งไปเจรจา ภูมิใจไทย กดสูตร 4-5 สส.ต่อ 1 เก้าอี้ กันโควตาคลัง-พณ.-กต.ฟื้นเชื่อมั่น ยกมหาดไทยให้กล้าธรรม “ลุงป้อม” คืนเก้าอี้ รมว.กห. “อนุทิน” โชว์หม่ำห่านพะโล้ “ชูศักดิ์” ยัน “อิ๊งค์” ยังเป็นหัวหน้า พท. ม็อบย้ำต้านระบอบ “ทักษิณ”นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) นำคณะพรรคร่วมรัฐบาล ยกขบวนทาบทามนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมโหวตนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมยอมรับทุกเงื่อนไขของพรรคประชาชนเพื่อไทยนัดประชาชนขอเสียงโหวตหนุนเมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค. เพจพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความระบุว่า พรรคเพื่อไทยประสานงานและนัดหมายพรรคประชาชน (ปชน.) หารือข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 14.00 น. ที่พรรค ปชน. มีนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รองหัวหน้าพรรค เป็นตัวแทนเจรจา ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยินดีตอบรับข้อเสนอจากพรรค ปชน. ทุกประการ และมีข้อเสนอเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจนถึงแนวทางปฏิบัติ และแก้ไขปัญหาประเทศ ดังนี้ 1.รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่ตั้งขึ้นจากข้อตกลงนี้ จะยุบสภาภายใน 4 เดือนนับจากวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา หากกระบวนการตามเงื่อนไขบรรลุผลก่อนกำหนดเวลา รัฐบาลจะยุบสภาทันที 2.การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะตั้งคำถามเรื่องเห็นด้วยกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใช้รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยปี 2540 เป็นร่างหลักหรือไม่ เพื่อกระชับเวลาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3.ในการทำประชามติครั้งเดียวกัน จะตั้งคำถามเรื่องการคงไว้หรือยกเลิก เอ็มโอยู 43 และเอ็มโอยู 44 เพื่อหาข้อยุติและลดความขัดแย้งภายในประเทศ และ 4.รัฐบาลชุดนี้จะร่วมมือกับพรรค ปชน. และทุกฝ่าย เร่งดำเนินการคดีฮั้ว สว. และคดีที่ดินเขากระโดง ที่เป็นเรื่องสำคัญอยู่ในความสนใจของประชาชน ตามกฎหมายและหลักนิติธรรมอย่างตรงไปตรงมาด้อมส้มจัดหนักคณะขันหมากเพื่อไทยต่อมาเวลา 13.30 น. ที่พรรคประชาชน (ปชน.) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค ปชน. นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค เดินทางมารอต้อนรับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายก รัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่จะนำคณะ ได้แก่ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรค พท. รวมถึงตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน อย่าง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หัวหน้าพรรคประชาชาติ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายชัยชนะ เดชเดโช รมช.สาธารณสุข แกนนำพรรค ปชป. นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อมาเทียบเชิญพรรค ปชน. ให้ร่วมโหวตแคนดิเดตนายกฯพรรค พท. บรรยากาศรอบบริเวณพรรค มีมวลชนผู้สนับสนุนมายืนถือป้ายต่อต้านคณะพรรค พท. ด้วยข้อความที่รุนแรง อาทิ “ครั้งนี้คงไม่ได้ยินคำว่าเรื่องเสียสัตย์เพื่อชาติอีกนะ” “เพื่อไทยจะเลิกตระบัดสัตย์กี่โมง”“เท้ง” อุบทิศทางโหวตขอคุยก่อนผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายณัฐพงษ์ว่าเมื่อคืนมีใครโทร.หาเพิ่มเติมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ไม่มี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้โทร.มา เมื่อถามว่าวันนี้การหารือจะสำเร็จหรือไม่ หนักใจหรือไม่กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าพรรค ปชน.จะเลือกทางไหน นายณัฐพงษ์ตอบว่า เดี๋ยวเราคุยกันก่อน ทุกอย่างต้องคุยกันก่อน ต้องรอเข้าที่ประชุม สส. เมื่อถามว่าเสียง 143 สส. พรรค ปชน.จะโหวตไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า รอเข้าที่ประชุมก่อน เช่นเดียวกับทิศทางแนวโน้มการประชุมในวันนี้ด้วยที่ต้องรอที่ประชุม“ภูมิธรรม” นำคณะยกขบวนถึงพรรคประชาชนจากนั้นเวลา 14.00 น. นายภูมิธรรมและคณะ เดินทางมาถึงมีมวลชนผู้สนับสนุนพรรค ปชน.ถือป้ายต่อต้านและตะโกนเสียงดังว่า “เพื่อไทยเคยลอยแพพรรคประชาชน การมาวันนี้ไม่ได้มากดดัน แต่ต้องการมาแสดงออกความรู้สึกของประชาชน” ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ออกมายืนอยู่บริเวณชั้นสองของพรรค มองมวลชนที่ตะโกนต่อว่า เมื่อเห็นสื่อมวลชนหันไปมองจึงหลบเข้าไปด้านใน ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังพบแกนนำคณะก้าวหน้า ได้แก่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายชัยธวัช ตุลาธน อยู่ที่ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ห่างจากที่ทำการพรรคประชาชนไปประมาณ 100 เมตร“ประภัตร” บึ่งรถจากศรีประจันต์ด้านนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา เลี่ยงที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเหตุที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ หัวหน้าพรรค ชทพ. ไม่เดินทางมาด้วยตัวเอง ตอบเพียงสั้นๆว่า “ติดประชุมที่มาช้าเพราะเดินทางมาไกล จาก อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี” เมื่อถามว่าการเจรจาครั้งนี้มีสัญญาณที่ดีหรือไม่ นายประภัตรได้แต่พยักหน้ารับผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเจรจาครั้งนี้ขาดเพียงแกนนำของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช. ต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด และการนัดหมายกันในครั้งนี้เป็นการนัดหมายที่กระชั้นชิดยอมรับข้อเสนอทั้งหมดของพรรคประชาชนกระทั่งเวลา 15.10 น. หลังการหารือนานประมาณ 1 ชั่วโมง นายภูมิธรรมและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแถลงข่าวร่วมกัน นายภูมิธรรมกล่าวว่า ในนามพรรค ร่วมรัฐบาลได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคประชาชน ตัวแทนมาครบทุกพรรค ส่วนตัวแทนพรรค รทสช.ไม่สบาย แต่เขาพร้อมซูมเข้ามาพูดคุย ข้อเสนอพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเอกภาพ เพราะเห็นว่าการเมืองขณะนี้เป็นช่วงวิกฤติควรหาทางออกร่วมกัน จึงมาพูดคุยกับพรรคประชาชนที่เสนอว่าหากใครรับข้อเสนอของพรรคประชาชนได้ จะนำมาตัดสินใจว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดจึงมานำเสนอและพูดคุยกัน หัวใจสำคัญวันนี้คือ ข้อเสนอของพรรคประชาชนเรารับทั้งหมด พร้อมที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นวาระแห่งชาติแก้วิกฤติรัฐธรรมนูญนายภูมิธรรมกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของเราเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ควรปฏิบัติไม่ให้มีการไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม คดีต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งหมดก็ขอให้เป็นไปตามรายละเอียดทั้งหมด พรรคประชาชนจะนำไปพิจารณาและบอกกับเราว่ายังไม่ได้รับปาก หรือตัดสินใจว่าจะยกมือให้ใคร อยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค มีหลายส่วนที่ต้องปรึกษาหารือกันให้มากที่สุด เรายอมรับเงื่อนไขนี้ได้ วันที่ 1 ก.ย. พรรคประชาชนจะมีการประชุมเป็นเรื่องภายในของเขา วันนี้สิ่งที่เราเสนอวาระสำคัญที่สุดเป็นวาระ แห่งชาติ คือการแก้ไขวิกฤติเรื่องรัฐธรรมนูญ อยากรีเซ็ตการเมืองใหม่ให้เป็นการเมืองที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ ส่วนเรื่องอื่นขออนุญาตไม่พูดไปมากกว่านี้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องพูดกันต่อทั้งสองฝ่ายพร้อมยุบสภาให้ไม่เกิน 4 เดือนผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยได้พูดถึงข้อเสนอเพิ่มเติมหรือไม่ เช่น การนำรัฐธรรมนูญปี 2540 กลับมาใช้ นายภูมิธรรมตอบว่า เรายอมรับทั้งหมดไม่ได้ขัดกัน แต่ข้อเสนอของเราเพียงเสนอให้พิจารณา แต่จะทำหรือไม่ทำ ไม่มีผลต่อการร่วมจัดตั้งรัฐบาล เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลมากันครบถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า เรายินดีพร้อมยุบสภาให้ไม่เกิน 4 เดือน ตามที่เขาเสนอ แต่เร็วกว่านั้นเราก็ทำได้ พ.ต.อ.ทวีกล่าวเสริมว่า “เราจะยุบสภาให้เร็ว” เมื่อถามว่าบรรยากาศเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบตัดบทว่า “พอแล้วครับ” ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่ากังวลหรือไม่ว่าพรรค ปชน. จะไม่เลือกใครเลย นายภูมิธรรมไม่ตอบคำถาม เมื่อถามย้ำว่า พรรค ปชน.จะยกมือสนับสนุนนายชัยเกษม นิติศิริ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย หรือไม่ นายภูมิธรรมไม่ยอมตอบคำถามเช่นกัน นายชูศักดิ์กล่าวเสริมว่า ทิศทางการพูดคุยวันนี้เป็นไปได้ด้วยดีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายภูมิธรรมและคณะเดินทางออกจากพรรค ปชน. มวลชนฝั่งพรรค ปชน. ยังคงตะโกนต่อต้าน ระหว่างนั้นมีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค พท. นำดอกไม้มาให้นายภูมิธรรมและนายสรวงศ์ พร้อมบอกว่า “เพื่อไทยสู้ๆ”ปชน.ปัดแลกเงื่อนไขนิรโทษ 112ช่วงค่ำ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกระแสข่าวพรรค ปชน.ยื่นเงื่อนไขโหวตนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.เป็นนายกฯ ต้องนิรโทษ กรรม 112 ระบุว่า เป็นข่าวปลอม ย้ำอีกครั้งว่าพรรค ปชน.ขอยืนยันว่าเงื่อนไขในการโหวตนายกฯ มีเพียง 3 ข้อ ได้แก่ 1.ยุบสภา ภายใน 4 เดือน 2.จัดทำประชามติเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ 3.พรรค ปชน.จะไม่ร่วมรัฐบาลเด็ดขาด และไม่มีบุคคลในพรรคหรือตัวแทน ไปรับตำแหน่งใน ครม. ยังไม่มีการเพิ่มเงื่อนไขอื่นใดจากนี้ และพรรค ปชน.ยังไม่ได้ตัดสินใจรับข้อเสนอของพรรคใดทั้งสิ้น ขอให้พี่น้องประชาชนรับฟังข่าวสารจากช่องทางที่เป็นทางการของพรรคเท่านั้นอยากแก้รัฐธรรมนูญต้องโหวตหนุน พท.น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอพรรคประชาชน เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ประกาศเป้าหมายสอดคล้องกันมาตลอด คือรัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาต้องแก้ไข ในฐานะแกนนำรัฐบาลมีการตั้งกลไกศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นรูปธรรม แต่พรรคภูมิใจไทยกลับเป็นอุปสรรคขัดขวาง อีกทั้งยังด่างพร้อยด้วยคดีที่ดินเขากระโดง ลามไปถึงถูกตรวจสอบในคดีฮั้วเลือก สว. ข้อครหาเหล่านี้สร้างความคลางแคลงใจต่อประชาชน คำถามคือพรรคประชาชนจะฝากความหวังและอนาคตไว้กับพรรคภูมิใจไทยได้อย่างไร ขอฝากคำถามชวนคิดว่า ถ้าหัวใจสำคัญคือการร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ ขอให้คิดให้ดี อย่าเป็นนั่งร้านให้พรรคที่ไม่มีเจตนารมณ์ในเรื่องนี้ มาร่วมกับพรรคเพื่อไทยสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนใหม่ให้คนไทย“บรู๊ค” หวังผลเจรจาจะได้ข้อยุติที่ดีนายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การหารือกันของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน จะสร้างบรรยากาศการเมืองที่ดี ยืนยันว่าหากสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขดังกล่าวได้รวดเร็ว ก็จะสามารถยุบสภาคืนอำนาจให้พี่น้องประชาชนได้ก่อนเวลา 4 เดือน ที่พรรคประชาชนวางไว้ สำหรับข้อเสนอเพิ่มเติมที่พรรคเพื่อไทยเสนอไปก็เพื่อให้ประเด็นคำถามที่มีความคิดเห็นแตกต่างกันในสังคม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ ได้มีข้อยุติผ่านกระบวนการประชาธิปไตย และประสานให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรครับทราบและเห็นชอบตรงกันแล้ว คาดหวังว่าผลการหารือวันนี้จะมีข้อยุติที่ดีและเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน“เฉลิมชัย” ปัดส่งเลขา ปชป.ร่วมทาบที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคในเวลา 15.00 น. โดยนายเฉลิมชัย ปฏิเสธถึงกระแสข่าวที่นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรค จะไปร่วมการเจรจาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ในช่วงบ่ายวันนี้ ว่า ตนไม่ทราบ เนื่องจากยังไม่ได้พบกัน ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไม่ได้คุยหรอกครับ เพราะไม่ใช่หน้าที่เรา” จากนั้นนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้ามาที่ทำการพรรคโดยเดินทางขึ้นห้องทำงานของหัวหน้าพรรคทันที“เดชอิศม์” แทงขาเดียวปิดประตู ภท.นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ไปเป็นเพื่อนพรรคร่วมรัฐบาล แต่เป็นเรื่องระหว่าง 2 พรรคคุยกันพรรคประชาธิปัตย์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เมื่อถามว่าจะนำข้อหารือของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเข้าที่ประชุม กก.บห.พรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เพราะเรามีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยที่ให้พรรคประชาชนพิจารณาหรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า เห็นด้วย วันนี้เราต้องยุบสภาให้เร็วที่สุด แม้อยู่ก็ขัดกับความรู้สึกของประชาชน ส่วนตัวเห็นว่า 4 เดือนยาวไป อยากให้ยุบสภาเร็วกว่านั้น เมื่อทำในสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนเสร็จก็รีบยุบสภา อาจ 2-3 เดือน ให้ประชาชนกลับไปตัดสินใจว่าจะเลือกใครมาเป็นผู้นำประเทศรัฐประหาร 100 ครั้งไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว.นายเดชอิศม์กล่าวว่า ประเด็นที่แถมไปในข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย เช่น เรื่องทุจริตที่ดินเขากระโดง ที่หลวงมันต้องเป็นที่หลวง และเรื่องฮั้ว สว. เป็นการทำร้ายประเทศ ทำการรัฐประหาร 100 ครั้งยังไม่เลวร้ายเท่ากับการฮั้ว สว. เพราะ สว.ต้องไปเลือก กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ หาก สว.มีเจ้าของสั่งกันได้ เท่ากับประเทศเราอยู่ภายใต้กำกับของคนเดียว ประเทศเราจะอยู่อย่างไร ประเทศเราถึงกับล่มสลายได้เลย เมื่อถามว่าแสดงว่าปิดประตูร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ตอบว่า ถ้าสนับสนุนเจ้าของนโยบายที่พูดไป อย่าว่าแต่เป็นนักการเมืองเลย ความเป็นคนก็ไม่เหลือแล้ว ไม่มีความเป็นคนเหลืออยู่แล้วกก.บห.ให้สิทธิ “เฉลิมชัย” ตัดสินใจจากนั้นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวภายหลังการประชุม กก.บห.พรรคว่า พูดคุยสถานการณ์การเมืองและกำหนดแนวทางขับเคลื่อนในอนาคต หลังนายกฯ และ ครม.พ้นตำแหน่งไปทั้งคณะ ที่ประชุมมีมติใช้ข้อบังคับพรรคข้อที่ 134 หมวดเบ็ดเตล็ด หมวดที่ 26 ให้ยกเว้นข้อบังคับพรรคข้อที่ 94, 96, 97 คือ กก.บห.พรรค ปชป. มีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรค ปชป. มีอำนาจตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงเรื่องการคัดเลือกรัฐมนตรีของพรรค เพื่อเข้าร่วมรัฐบาลเพียงผู้เดียว เมื่อวันนี้มีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาล เราต้องมาเริ่มกระบวนการใหม่ทั้งหมด ส่วนกรณีมีแกนนำพรรคไปร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย โดยมารยาทควรทำอย่างนั้น ต้องอยู่ด้วยกันไปด้วยกัน วันนี้เรายังเป็น ครม.ร่วมกันอยู่ และการตัดสินใจก็ต้องมาผ่านกระบวนการของพรรคให้ถูกต้อง ส่วนการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอสถานการณ์ ณ วันนั้น วันนี้ยังไม่มีใครตอบได้ อยู่ที่พรรคประชาชน ต้องรอฝุ่นจาง ยอมรับว่ายังไม่รับการทาบทามจากพรรคภูมิใจไทย“ชวน” ไม่สนใจร่วมรัฐบาลกับใครนายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งรัฐบาล กล่าวเพียงสั้นๆว่า ไม่ได้ติดตาม ไม่ได้สนใจเรื่องจะไปนั่งร่วมรัฐบาล ฉะนั้นมีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับตนขออย่าไปเชื่อ และไม่เคยมีใครมาเจรจา หรือมีความคิดจะไปเจรจาอะไรกับใคร เมื่อถามต่อว่าแสดงว่าไม่มีแนวคิดสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการจัดตั้งรัฐบาล นายชวนตอบว่า นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว เพราะไม่ใช่กรรมการบริหารพรรคให้ไปถาม กก.บห.พรรคชุดนี้ แต่ส่วนตัวไม่มีความคิดไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับใคร“อมรัตน์” ยก 6 เหตุผลโหวตให้ภท.ด้านนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ และ กก.บห.พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ไม่เลือกพรรค พท.เด็ดขาด ถ้ายังเป็นกรรมการบริหารพรรค จะตัดสินใจบนฐานคิด 6 ข้อนี้ 1.พรรคพท.เคยฉีกเอ็มโอยูอย่างหน้าด้านๆมาแล้ว เพิ่งผ่านมาหมาดๆ เป็นแผลสดที่ความเจ็บยังไม่จางหาย ทำลายโอกาสคนไทยที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งหวังเปลี่ยนขั้วการเมือง ทรยศประชาชน 2.พท.มีกองทัพไอโอทำลายพรรค ปชน.ต่อเนื่อง มีแต่ริษยาไม่เคยเห็นเป็นพี่น้อง 3.สว.เป็นของสีน้ำเงินไม่ใช่สีแดง มีโอกาสผ่านเรื่องประชามติแก้รัฐธรรมนูญมากกว่า 4.พรรค ภท. จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่ควบคุมง่ายกว่า ถ้าไม่โหวตอะไรให้รัฐบาลพรรค ภท.ก็ล้มทันที ตรงข้ามกับพรรค พท.ที่มีเสียงมากกว่า ถ้าเบี้ยวก็ควบคุมยากกว่า มีโอกาสจะไม่ยุบสภาในกำหนด 4 เดือนสูงกว่า 5.เปลี่ยนแกนนำรัฐบาลมีผลดีกับสถานการณ์ชายแดนมากกว่ารัฐบาลเดิม 6.พรรค พท. ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่ชัดเจนว่าเป็นเพียง “บริษัทจำกัด” ที่ทุกคนเป็นลูกจ้าง “ทักษิณ”ภท.กดสูตร 4–5 สส.ต่อหนึ่งเก้าอี้ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคภูมิใจไทยว่า การรวบรวมเสียง สส. เพื่อสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆมีประมาณ 280 เสียง เมื่อลบ 143 สส.พรรค ปชน.ออก ทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยบริหารประเทศตามเงื่อนไข 4 เดือนยุบสภา และรักษาการช่วงเลือกตั้งจนถึงมีรัฐบาลใหม่อีกประมาณ 3 เดือน มี สส.เขตภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ทยอยมาลงชื่อเพิ่ม โดยแกนนำพรรคภูมิใจไทยเปิดรับหมดทุกคน ยกเว้นนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่กำกับดูแลกรมที่ดิน ตรวจสอบที่ดินเขากระโดง ขณะเดียวกัน สส.อีสานใต้พรรคเพื่อไทยเกือบทุกคน ตอบรับมาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย แต่ขอเปิดหน้าแค่ 17 คนก่อน ทำให้การกำหนดโควตารัฐมนตรีภาพรวมเป็นรัฐมนตรี 1 ตำแหน่งต่อ สส. 4-5 คน เพราะตัวเลข สส.ที่สนับสนุนยังไม่นิ่งไหลเข้ามาเรื่อยๆกันโควตาคลัง–พณ.–กต.ฟื้นเชื่อมั่นมีรายงานว่า พรรคภูมิใจเสนอเงื่อนไขแก่พรรคที่มาร่วมสนับสนุนว่า ตำแหน่งหลักโควตาพรรคภูมิใจไทย คือ นายกรัฐมนตรี รมว.คมนาคม รมว.คลัง รมว.พาณิชย์ และ รมว.ต่างประเทศ ที่ 3 ตำแหน่งหลังได้เตรียมทาบทามคนนอกที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาเป็น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลุงทุน ฟื้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนตำแหน่งหลัก พรรคกล้าธรรม ในฐานะมี สส.เป็นอันดับสองขอโควตา รมว.มหาดไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคอันดับสาม ยังมีปัญหาแตกเป็น 6 กลุ่ม แต่มี สส.รวมเพียง20คน โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โควตา รมว.กลาโหม เจรจากันภายในพรรคให้จบด้วย เพราะขณะนี้มีเพียงกลุ่มเพชรบูรณ์ ที่มาร่วมลงชื่อกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น“อนุทิน” โชว์หม่ำห่านพะโล้เจ้าดังสำหรับความเคลื่อนไหวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แคนดิเดตนายกฯ ช่วงสายวันเดียวกัน นายอนุทินไปรับประทานห่านพะโล้เจ้าดัง ร้านฉั่ว คิม เฮง ย่านกรุงเทพกรีฑา โดยแต่งตัวสบายๆ มีประชาชนที่มารับประทานในร้านมาขอถ่ายรูปด้วย ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทยไปจีบพรรคประชาชนให้สนับสนุนคนของพรรคเพื่อไทยขึ้นเป็นนายกฯ“ศุภชัย” เย้ยเพื่อไทยเป็นผีหัวขาดขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงาน ฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “นายกฯพ้นจากหน้าที่เพราะผิดจริยธรรมร้ายแรง นายกฯเป็นหัวหน้าพรรค ต้องขาดคุณสมบัติการเป็นหัวหน้าพรรค ต้องพ้นจากตำแหน่งตามข้อบังคับพรรคหรือไม่ เมื่อหัวหน้าพรรคพ้นจากตำแหน่ง กรรมการ บริหารพรรคก็ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะด้วยใช่หรือไม่ คนในพรรคไปเจรจากับใครมีผลผูกพัน หรือบ้านนี้เมืองนี้ถูกขับเคลื่อนโดยรักษาการๆๆ ที่มีเงาซาตานอยู่ข้างหลัง ผีหัวขาดทั้งรัฐบาล ทั้งพรรค”“ชูศักดิ์” ชี้ “อิ๊งค์” ยังเป็นหัวหน้าพรรคนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงข้อสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ต้องหลุดจากการเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลให้ น.ส.แพทองธารหลุดจากความเป็นรัฐมนตรี แต่ในส่วนของหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีข้อกำหนดอะไรเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรมไว้ หลังจากนี้พรรคเพื่อไทยจะไม่มีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ให้ น.ส.แพทองธารเป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดิม ส่วนตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม ต้องพ้นไป เรื่องนี้มีการตีความไปแล้ว“เรืองไกร” ชง ป.ป.ช.ขวางยุบสภาวันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ส่งคำร้องถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ตรวจสอบรัฐมนตรีที่เข้าร่วมประชุม ครม. เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ว่าเข้าข่ายมีพฤติการณ์ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 234 (1) หรือไม่ และขอให้ส่งเรื่องให้ศาลฎีกา และหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาพิพากษาต่อไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 กรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ให้สัมภาษณ์ยืนยันอำนาจในการยุบสภา ที่อาจขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญโพลชี้อยากได้นายกฯเจนเอ็กซ์อีกเรื่อง นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน อายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 ตัวอย่าง เรื่อง “สนใจไหม นายกฯใหม่ พรรคการเมืองใหม่” ระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค. พบว่าร้อยละ 32.44 มองว่าอาชีพของบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ ในการ เลือกตั้งครั้งหน้า คือ นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการขนาดใหญ่ รองลงมาร้อยละ 24.05 ทหาร ร้อยละ 19.54 นักการเมืองอาชีพระดับชาติ ส่วนช่วงอายุบุคคลที่จะมาเป็นนายกฯ ร้อยละ 65.57 ระบุว่า Gen X (อายุระหว่าง 45—60 ปี) รองลงมาร้อยละ 24.96 ระบุ Gen Y (อายุระหว่าง 29—44 ปี) ส่วนแนวโน้มการเลือก สส.ระบบเขตเลือกตั้ง และ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเลือกผู้สมัครจากพรรคการเมืองใหม่“ภูมิธรรม-ณัฐพงษ์” บทบาทเด่นด้านสวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ 2,208 คน เรื่อง “ดัชนีการเมืองไทย ประจำเดือนสิงหาคม 2568” ระหว่างวันที่ 25-29 ส.ค. พบว่า ภาพรวมดัชนีการเมืองไทยประจำ เดือน ส.ค. เฉลี่ย 3.71 คะแนน ลดลงจากเดือน ก.ค. ที่ได้ 3.86 คะแนน ตัวชี้วัดที่ได้คะแนนสูงสุด คือผลงานของฝ่ายค้าน เฉลี่ย 4.59 คะแนน ตัวชี้วัด ที่ได้คะแนนต่ำสุด คือ ผลงานของนายกรัฐมนตรี 3.18 คะแนน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่มีบทบาทโดดเด่น คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านที่มีบทบาทโดดเด่น คือ นายณัฐพงษ์ เรือง ปัญญาวุฒิ ผลงานฝ่ายรัฐบาลที่ชื่นชอบคือโอนเงินช่วยชาวนา ผลงานฝ่ายค้านที่ชื่นชอบ ตรวจสอบการดำเนินงานให้โปร่งใสคนกลัวอดมากกว่าไม่มีนายกฯขณะที่ซูเปอร์โพลเปิดผลสำรวจ เรื่อง “ความกังวลของคนไทย ช่วงสุญญากาศไร้นายกรัฐมนตรี” จากกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,136 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 29-30 ส.ค. พบว่าในช่วงสุญญากาศไร้นายกฯ ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.7 มีความกังวลมากถึงมากที่สุด ส่วนความกังวลต่อปัญหาเศรษฐกิจและค่าใช้จ่าย เมื่อไร้นายกฯ ร้อยละ 81.9 กังวลมากถึงมากที่สุด เช่นเดียวกับด้านสังคมและความมั่นคง อย่างไรก็ตามร้อยละ 42.9 ระบุว่ามีความกังวลเรื่องไม่มีเงินใช้มากกว่าการไม่มีนายกฯม็อบต้านระบอบ “ทักษิณ” ตามนัดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ บรรยากาศการชุมนุมใหญ่ “ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ” ของคณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ร่วมชุมนุมทยอยเดินทางเข้าร่วม มีกำลังตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี เทศกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดีกว่า 1 พันนาย พร้อมสุนัขตำรวจ มาตรวจสอบความปลอดภัยและความเรียบร้อยรอบพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบอาวุธมีด 1 เล่ม และคัตเตอร์ 2 เล่ม แต่ผู้ครอบครองระบุว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งดำเนินคดีที่ สน.พญาไท เบื้องต้นด้านการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติ และไม่มีเหตุร้ายที่น่ากังวลตอกย้ำไม่เอารัฐบาลเพื่อไทยนายพิชิต ไชยมงคล หนึ่งในแกนนำคณะรวมพลังแผ่นดินฯ ปราศรัยเปิดเวทียืนกรานว่านายกฯคนใหม่ต้องไม่มาจากพรรคเพื่อไทยเด็ดขาด หากจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องไม่แตะต้อง หมวด 1 และหมวด 2 ต้องยกเลิกเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ ยกเลิกร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีก เพราะเห็นว่านายทักษิณ ชินวัตร คือต้นตอของปัญหาทางการเมือง ยังพยายามพูดคุยกับพรรคต่างๆรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ผลักดันนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ จะทำให้สถานการณ์การเมืองเกิดปัญหาไม่จบไม่สิ้น รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่อยู่ระหว่างรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้ง 6 ข้อนี้ เราจะยังชุมนุมต่อไปจนกว่ารัฐบาลชุดใหม่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของภาคประชาชนฤทธิ์พายุทำผู้ชุมนุมงานกร่อยต่อมาเวลา 15.10 น. มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ในพื้นที่กลางแจ้งใช้ร่มและเสื้อกันฝน ปักหลักชุมนุมกลางสายฝนบางคนไม่ได้เตรียมอะไรมาก็ใช้ธงชาติ ผ้าใบ หรือวัสดุที่สามารถกันฝนได้ แต่สายฝนยังคงเทกระหน่ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ลมพัดแรงจนร่มปลิว ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนต้องพากันวิ่งไปหลบฝนอยู่ใต้แนวสกายวอล์ก และในศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ศูนย์การค้าวิคตอรี่ฮับ จากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ ส่งผลกระทบไปถึงบรรยากาศการชุมนุมที่มีคนน้อยกว่าการจัดชุมนุมเมื่อ 2 ครั้งที่ผ่านมาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่