อลงกตการละคร! ตีบทแตก ไม่รู้ใครเขียนบทให้ ลั่นพระนับ 10 องค์ทำเสื่อมเสีย ยังไม่เท่าองค์นี้องค์เดียว “Thairath-ไทยรัฐออนไลน์”...จากกรณีหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ...เป็นเจ้าพนักงาน “เบียดบังทรัพย์” และ “ฟอกเงิน”พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี บอกว่า อลงกต การละครอย่างที่ตำรวจว่าเล่นละครได้หลายฉากหลายบท ตีบทแตกจริงๆ ไม่รู้ใครเขียนบทให้ เอาความนึกคิดอะไรมาเขียนบทเล่นแบบนี้ได้ คือลับลวงพรางเหลือเกิน จนกระทั่งเราคิดไม่ถึง“จริงๆเรื่องนี้อาตมาได้ยินข่าวแว่วมา มีคนมากระซิบบอกเมื่อ 3 ปีที่แล้ว หมอปลามาบอก แต่หมอปลาก็ฉลาดไม่เปิดประเด็นตอนนั้น เพราะตอนนั้นเขาบารมีแน่นปึ้ก ชื่อเสียงกำลังดี บารมีกำลังมา ถ้าไปเปิดตอนนั้นหมอปลาก็คงจะอยู่ยาก เป็นดั่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่ผิดเลย ความชั่วยิ่งทำยิ่งปกปิดความชั่วก็ยิ่งรั่วลด”ถ้าเปิดเผยยอมรับซะตั้งแต่แรกอย่างลูกผู้ชายชาติพระก็จบแต่นี่พยายามหลีกเลี่ยงปกปิดความผิดที่เกิดขึ้น เรื่องมันก็เลยบานปลาย เขาเรียกว่าฝีแตก ปิดจนฝีแตก ตอนนี้ไม่น่าเชื่อว่าคนนั้นแซะคนนี้เซาะ เซาะไปแซะมาจนกระทั่งเจอคนที่เราไม่คิดว่าจะมาเกี่ยวข้อง อย่างเช่นมหาสมปอง ไม่นึกวันนี้เขาเปิดกันขึ้นมามุมมองหนึ่งจากผู้ศรัทธาไม่ขอออกนาม ระบุประเด็น “อลงกตการละคร” เพื่อเรียกรับบริจาคเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้านและละเอียดอ่อน เนื่องจากเกี่ยวข้องกับความเชื่อ...ศรัทธา และ...ข้อเท็จจริงย้อนไปในช่วงปี 2530-2540 โรคเอดส์เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ ผู้ป่วยถูกทอดทิ้งจากครอบครัว...ชุมชน หลวงพ่ออลงกตและวัดพระบาทน้ำพุได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นที่พักพิงและดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ ภาพของผู้ป่วยที่ผอมโซใกล้ตาย และการที่หลวงพ่อเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ได้ถูกนำเสนอผ่านสื่ออย่างแพร่หลาย สร้างความสะเทือนใจและศรัทธาอย่างล้นหลามในหมู่คนไทย ทำให้วัดได้รับเงินบริจาคจำนวนมหาศาล เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยและผู้ที่ถูกสังคมทอดทิ้งต้องยอมรับว่า...ในยุคนั้น “วัดพระบาทน้ำพุ” เป็นเหมือนแสงสว่างแห่งความหวัง เป็นตัวแทนของความเมตตาในสังคมที่เต็มไปด้วยความกลัวและความรังเกียจ การกระทำของหลวงพ่อในเวลานั้นจึงถูกมองว่าเป็นการเสียสละอย่างแท้จริง และเป็นที่มาของความศรัทธาอย่างไม่เสื่อมคลายทว่า...ข้อกล่าวหา “การละคร สร้างเรื่อง หากินกับศรัทธา” ในปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถูกตั้งคำถามและกล่าวหาอย่างหนัก โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการเงินและการบริหารจัดการภายในวัด รวมถึงเรื่องราวบางอย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นการจัดฉากหรือเกินจริง เพื่อกระตุ้นให้คนบริจาคมากขึ้นประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ อาทิ การสร้างเรื่องที่สะเทือนอารมณ์ มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องราวของผู้ป่วยที่วัดนำเสนอมีความน่าสะเทือนใจเป็นพิเศษ และบางครั้งอาจมีการใช้ภาพหรือเรื่องเล่าที่รุนแรงเพื่อเรียกน้ำตา...ความสงสาร การบริหารจัดการเงินบริจาคจำนวนมหาศาลถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่...หรือมีการจัดการที่ขาดความโปร่งใส เช่น การนำเงินไปซื้อที่ดิน หรือลงทุนในธุรกิจนับรวมไปถึงกรณีการปฏิเสธการช่วยเหลือผู้ป่วยในยุคที่มียาต้านไวรัส ทำให้ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติและไม่จำเป็นต้องอยู่รวมกันในลักษณะที่วัดจัดให้ อีกทั้งมีการรายงานอีกว่า...วัดปฏิเสธการรับผู้ป่วยบางราย ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์เดิมที่วัดเป็นที่พึ่งพิงของผู้ป่วยเอดส์ที่ถูกทอดทิ้งนอกจากนี้ยังมีการใช้ “สื่อ” เป็นเครื่องมือ...มีการใช้คนดังอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างกระแส...ระดมทุน ซึ่งถูกมองว่าเป็นการ “หากินกับความเชื่อและความศรัทธา” ของคนไทยพุทธ“สื่อ” มีบทบาทอย่างยิ่งในการสร้างภาพลักษณ์ “พระนักบุญ” ให้กับหลวงพ่ออลงกตในอดีต สื่อมุ่งเน้นนำเสนอภาพที่น่าสงสารและเรื่องราวที่น่าประทับใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ขายได้และเรียกความสนใจจากผู้ชมกระทั่งเมื่อเกิดข้อสงสัย สื่อก็เปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้ตรวจสอบและขุดคุ้ยข้อมูล ซึ่งทำให้ความจริงอีกด้านหนึ่งถูกเปิดเผยออกมา อย่างไรก็ตาม การนำเสนอข่าวในเชิง “ดราม่า”...เพื่อเรตติ้งก็เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของวัดและผู้ป่วยที่ยังคงต้องการการช่วยเหลือถึงตรงนี้ผู้ที่คลางแคลงใจหรือเคยบริจาคไปแล้วไม่น้อยจึงรู้สึกเหมือนถูกหลอกใช้ความดีงาม ความศรัทธาที่เคยมี อาจกลายเป็นความผิดหวังและสิ้นหวังต่อศาสนาและคนดีในสังคมทำให้เกิดคำถามว่า “ทำบุญ” ได้บุญจริงหรือไม่? หากเงินนั้นไม่ถึงมือผู้รับอย่างแท้จริง“น้ำใจ” และ “ความเชื่อ” ถูกใช้เป็นเครื่องมือได้ง่าย หากไม่มีระบบการตรวจสอบที่โปร่งใส การบริจาคที่ทำด้วยใจศรัทธาอาจไม่ถึงมือผู้ที่ควรได้รับ การตรวจสอบการเงินขององค์กรศาสนาต้องเข้มงวดเข้มข้นพระพยอม บอกอีกว่า ในรอบ 10 ปี...20 ปีนี้ พระองค์อื่นทำเสียหายนับ 10 องค์ ก็ไม่เท่ากับองค์นี้องค์เดียว เพราะองค์นี้ทำให้สะเทือนศรัทธามาก อาตมาไปบิณฑบาตก็มีคนพูด บางคน พูดดี ถ้าหลวงพ่อจะมีข่าวเสียหายยังไงก็ตามฉันไม่เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนาแต่...บางท่านก็บอกว่าท่านอย่าตามเขาไปนะ ให้เหลือไว้กราบไหว้สักองค์เถอะ ตอนนี้แทบจะไม่เหลือพระดีๆกันแล้ว อะไรต่างๆนานา คนพูดวิพากษ์วิจารณ์ออกอาการทวงหนี้ก็มี...ทวงบุญที่ทำไปแล้ว ซึ่งมันไม่เคยมีคน “ทวงบุญ” กับ “พระ” กับ “ศาสนา” ...แต่คราวนี้มี เพราะเสียไปเยอะ เสียไปโดยเชื่อมั่นศรัทธาแล้ว...พอมาเป็นอย่างนี้ก็เสียดาย “เงิน”แต่...ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่มีอะไรเกินที่พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้าบอก “โลโภ ธมฺมานํ ปริปนฺโถ” ความโลภเป็นอันตรายต่อการกระทำทั้งหลาย ถ้าไม่โลภมากเกินไป...ถ้าไม่บิณฑบาตจนเย็นจนค่ำไม่แสวงหารายบุญมาเสริมวัดเสริมศาสนามากขนาดนี้จะไม่เกิดเรื่อง ขอให้ทำพอดีทำพอประมาณ.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม