ชิงเกมตั้งนายกรัฐมนตรี... หลังจากที่ “แพทองธาร ชินวัตร” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ก็ต้องมีการโหวตเลือกผู้นำประเทศคนใหม่ จากจำนวนแคนดิเดต 5 คนที่มีรายชื่อและมีสิทธิก้าวไปดำรงตำแหน่งนั้นณ วันนี้...มีสิทธิเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น1.“ชัยเกษม นิติสิริ” จาก “เพื่อไทย”2.“อนุทิน ชาญวีรกูล” จาก “ภูมิใจไทย”ทุกอย่างก็ไม่ต่างไปจากสถานการณ์หลังเลือกตั้งใหม่ๆ คือ ใครพรรคไหนต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีและแกนนำรัฐบาลก็ต้องออกแรง...ติดต่อทาบทามพรรคการเมืองอื่นๆเพื่อขอความสนับสนุนซึ่งเวลานี้ได้มีการดำเนินการคืบหน้าไปมากพอสมควรแล้วต่างฝ่ายต่างก็มั่นใจว่าจะได้การสนับสนุนเพียงแต่ว่าการตั้งรัฐบาลครั้งนี้มีตำแหน่งสำคัญคือพรรคประชาชนที่ประกาศชัดเจนแล้วว่าพร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่รับเงื่อนไขของพรรค 3 ประการ1.ยุบสภาภายในเวลา 4 เดือน2.แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการทำประชามติ3.พรรคประชาชนจะไม่ส่งคนเป็นรัฐมนตรีแต่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไปเนื่องจากพรรคประชาชนมีเสียงสนับสนุนมากที่สุดเมื่อเสนอเงื่อนไข แบบทั้ง “ภูมิใจไทย” และ “เพื่อไทย” จึงต้องวิ่งเข้าหาเพื่อขอความสนับสนุนประเด็นมันอยู่ที่ “ประชาชน” จะเลือกพรรคไหนเท่านั้นทว่าความหลังครั้งเก่าในการตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งซึ่ง “ก้าวไกล” คือประชาชนในปัจจุบันที่มีเสียงอันดับ 1 เจรจากับ “เพื่อไทย” เพื่อตั้งรัฐบาล 2 พรรค“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้า “ก้าวไกล” คือชื่อนายกรัฐมนตรีคุยกันนานพอสมควรแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ “เพื่อไทย” ประกาศถอนตัวไม่เจรจาต่อ กลับไปจับมือตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่มี “พรรคลุง” เข้ามาร่วมด้วยอ้างว่า “ก้าวไกล” ต้องการแก้ไข ม.112นั่นแหละคือจุดที่ทำให้เกิดปัญหาสร้างความเคืองขุ่นใจมาถึงวันนี้!ดังนั้นการที่ “ประชาชน” จะเทเสียงให้ใครก็คงจะมองออกอีกทั้ง “อนุทิน” ได้เทียวไล้เทียวขื่อบุกพรรคประชาชนหลายรอบเพื่อเจรจาและยอมรับเงื่อนไขโดยดุษณี และประกาศเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงสนับสนุนมากกว่า “เพื่อไทย”ราว 280 เสียงนี่ถือเป็นแต้มต่อสำคัญ!ที่มีความเป็นไปได้คือกลุ่ม “สุชาติ ชมกลิ่น” จากรวมไทยสร้างชาติ ที่มี สส.ในมือครึ่งหนึ่งเกือบ 20 คนประกาศหนุน “อนุทิน”ยิ่งไปกว่านั้นพรรคกล้าธรรมที่มี สส. 20 กว่าคนก็พร้อมหนุนเช่นกันยังมีจากประชาธิปัตย์ พรรคเล็ก พรรคไทยสร้างไทย และพลังประชารัฐดูตามรูปการณ์แล้วโอกาสของ “อนุทิน” จึงมีสูงเพราะแค่พรรคประชาชนและภูมิใจไทย 2 พรรคก็จะเกินครึ่งอยู่แล้วแต้มต่อ “อนุทิน” จึงมีมากกว่าอย่างชัดเจนบอกแล้วไงว่าเมื่อ “เพื่อไทย” ตกอยู่สภาพเช่นนี้ พรรคร่วมรัฐบาลก็พร้อมกระโดดหนีไปสู่สิ่งที่ดีกว่าพร้อมตำแหน่งที่ต้องการได้เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลข้ามขั้ว“เพื่อไทย” มีทางเดียวคือ “ยุบสภา” เพียงแต่จะกล้าหรือไม่...เท่านั้น."สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม