ได้เป่าปากโล่งอก หลุดบ่วงคดีสำคัญการเมืองด่านแรก ศาลอาญายกฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เนื่องจากไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึง อีกทั้งพยานโจทก์เคยร่วมม็อบขับไล่รัฐบาล จึงอาจมีอคติต่อจำเลยผลคำตัดสินคดี ไม่ผิดคาดจากที่นักวิเคราะห์หลายคนเก็งคำตอบกันไว้แต่เรื่องที่น่าห่วงของจริง คือ คดีอีก 7 วันหลังจากนี้ ที่อาจเป็นจุดเปลี่ยนการเมืองประเทศไทยคิวระทึกของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ลุ้นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ คดีถูกยื่นถอดถอน ผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปสนทนาสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาใกล้เวลารู้คำตอบ จะหมดเวลาไปต่อ หรือได้ต่อวีซ่าอำนาจภาวะกระสับกระส่าย “นายกฯอิ๊งค์” ฉลองวันเกิดครบ 39 ปี วันที่ 21 ส.ค.อย่างไม่เป็นสุข เพราะต้องไปให้ปากคำ แก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดนตุลาการรุมซัก เค้นหาเจตนาคำพูดเอาใจลุงฮุน เซน แต่ดูแคลนแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นการเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาจริงหรือไม่อาการหน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบ ทั้งเครียดและกดดันการให้ปากคำครั้งสำคัญ ที่มีผลผูกโยงไปถึงการตัดสินคดีในวันที่ 29 ส.ค.นี้ เหล่าเซียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ หมอดู หมอเดา ฟันธงไปทิศทางเดียวกัน ผลคดีมีแนวโน้มทางลบบวกข่าวลือ ข่าวปั่น ข่าวปล่อยแพร่สะพัด นายกฯหญิงส่อถอดใจ ไขก๊อกก่อนถึงวันตัดสินคดี สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลป้อแป้ไปกันใหญ่สภาพหน้างานของรัฐบาลเข้าขั้นอ่อนปวกเปียก ศึกนอกปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังตึงเครียด ฝั่งเขมรขยันกุเฟกนิวส์ลวงโลก เล่นสงครามประสาท ตอดเล็กตอดน้อยก่อกวนประเทศไทยทุกวัน ถึงจะมีข้อตกลงหยุดยิง แต่สถานการณ์ยังไว้วางใจไม่ได้น่าเป็นห่วงพอๆกับสถานการณ์ในประเทศ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ภาษีสงครามการค้าสหรัฐฯ ที่รัฐบาลยังตามแก้ไม่ตก สะเทือนหนักทั้งประชาชน ภาคธุรกิจผลพวงจากการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ไม่สามารถกุมสภาพเสียงข้างมากในสภาฯได้เด็ดขาดสภาล่มแล้วล่มอีก มีปัญหาองค์ประชุม ตะลุมบอนกันทุกสัปดาห์ ต้องกระเสือกกระสน ระดม สส.เข้าสภาฯ กว่าจะผ่านกฎหมายแต่ละฉบับได้สภาพเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการบริหารประเทศติดๆดับๆ ไม่รู้เครื่องจะน็อกวันไหนล่าสุด นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ต้องใช้วิธีชิงปิดประชุมสภาฯดื้อๆ วันที่ 21 ส.ค. แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ตัดตอนไม่ให้นำญัตติด่วน การยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 มาหารือในสภาฯกล้าฉีกข้อตกลงของวิปรัฐบาล-วิปฝ่ายค้าน ที่ตกปากรับคำกันเรียบร้อยแล้ว ให้นำเรื่องดังกล่าวมาหารือแก้ปัญหาในสภาฯยิ่งเพิ่มข้อสงสัยให้สังคม รัฐบาลมีผลประโยชน์เรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลหรือไม่ จึงไม่อยากนำเรื่องการยกเลิกเอ็มโอยูมาพูดคุยกันเร่งบรรยากาศขัดแย้งม็อบนอกสภาฯให้ยกระดับคุกรุ่นหนักยิ่งขึ้นความรู้สึกมวลชนปักใจเชื่อมีสัญญาณพิเศษ สั่งล่มญัตติเอ็มโอยู 43-44 ไม่เชื่อข้ออ้าง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงเหตุผล การชิงปิดประชุมสภาฯรอบล่าสุด เป็นข้อผิดพลาดการประสานงานหน้าบัลลังก์ที่คิดว่าหมดวาระประชุมแล้วรัฐบาลขยันเติมหัวเชื้อ สะสมความขัดแย้งให้ยกระดับความรุนแรงมากขึ้นและที่ตั้งท่าจ่อคิวจุดชนวนความแตกแยกตามมาอีกคิวคือ กรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญเสริมสร้างสังคมสันติสุข ลงมติเสียงข้างมากให้แก้ไขเนื้อหากฎหมาย เปิดทางให้นิรโทษกรรม ความผิดคดีมาตรา 112 แก่เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีนัดลงมติสัปดาห์หน้า จะมีหลักเกณฑ์ล้างผิดคดีมาตรา 112 หรือไม่ เสี่ยงสร้างเงื่อนไขปลุกความแตกหักระลอกใหม่ในสังคมเรื่องอ่อนไหวทางความรู้สึกที่เป็นความเห็นต่างของคนในสังคม ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน หากชนวนขัดแย้งจุดติดขึ้นมาเมื่อไร ก็เสี่ยงที่จะเกิดเหตุบานปลายตามมาสารพัดประเด็นหมิ่นเหม่รอปะทุ หัวเชื้อรอบใหม่รอสาดเข้ากองไฟ ขยายผลคดีถอดถอน “นายกฯอิ๊งค์” ปลายเดือน ส.ค. ไม่ว่าจะมีบทสรุปออกมาในแนวทางใดจะรอดก็วุ่น ไม่รอดก็ยุ่ง ออกหน้าไหนก็อีนุงตุงนังไปหมด!!!ทีมข่าวการเมือง