“นายกฯ อิ๊งค์” ได้แต่ยิ้มไม่ตอบข่าวจ่อลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคดีคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ด้าน “สรวงศ์” ยัน พท.กำลังใจดี ไม่มีหวั่นวิตก “อนุสรณ์” ชี้ลูกพรรคเชื่อมั่นการทำงานของนายกฯ มั่นใจไม่มียุบสภาหลังผ่านงบฯปี 69 “เชิดชัย” อ้อนศาล รธน.เลื่อน 6 เดือนค่อยตัดสินคดีร้อน อ้างเปิดทางนายกฯตัวจริงกลับมามีอำนาจแก้ปัญหาวิกฤติ “ปกรณ์วุฒิ” เผย ปชน.ออกตัวช่วยเป็นองค์ประชุมถกร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 ยันจุดยืนเป็นฝ่ายค้านโหวตคว่ำ ภท.เล่นเชิงรอฟังเหตุผลก่อนลงมติ “อนุทิน” ชี้คดีนายกฯว่าไปตามกฎหมายดีที่สุด ซัดปัญหาที่ดินเขากระโดง อย่าเอาการเมืองมาทำลายล้างกันกระแสข่าวลือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม เตรียมตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเป็นกระแสร้อนแรงที่หลายฝ่ายจับตา แม้รัฐมนตรีและแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ต่างออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง“อิ๊งค์” ยิ้มไม่ตอบข่าวจ่อไขก๊อกเมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 12 ส.ค. ที่ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 194 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 จากนั้นผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกระแสข่าวการลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา น.ส.แพทองธารเพียงแต่หันมายิ้มให้สื่อมวลชน และกล่าวว่า “คิดถึงนะคะ” ผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกว่าอยากชี้แจงกระแสข่าวนี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารยังคงไม่ตอบคำถาม พร้อมขึ้นรถเดินทางกลับทันที“สรวงศ์” ยัน พท.ไม่กังวลกำลังใจดีนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร เตรียมลาออกหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ผ่านที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จะส่งผลกระทบกับพรรค พท.หรือไม่ว่า ไม่มี วันนี้นายกฯ ยังมาร่วมทำบุญตักบาตร ยืนยันว่าพรรค พท.ไม่ได้กังวล และไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่ได้ทำให้พรรค พท.เสียกำลังใจ และกำลังใจยังดีอยู่ ก่อนทำท่ายกนิ้วโป้ง 2 ข้างยังเชื่อมั่นการทำงานของนายกฯนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. กล่าวว่า พรรคไม่เคยเห็นสัญญาณให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยคดีถอดถอนนายกฯ กรณีคลิปสนทนาสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในโลกทางการเมืองกระแสข่าวแบบนี้เกิดขึ้นได้ แต่ข้อเท็จจริงคือ นายกฯยังเดินหน้าทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชนต่อไป ข่าวลือหรือกระแสข่าวที่ปล่อยออกมาจะเร็วกว่าความจริง สุดท้ายความจริงจะถึงก่อนเสมอคือนายกฯไม่ลาออก ในพรรคไม่เคยคุยกันเรื่องคดีนายกฯ สมาชิกพรรคยังมั่นใจและเชื่อมั่นการทำงานของนายกฯ และเชื่อมั่นว่าหลังการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2569 จะไม่มีการยุบสภาฯ เพราะสภาฯไม่ได้ทำอะไรผิด สส.ยังพร้อมทำหน้าที่ บ้านเมืองยังมีปัญหาต้องแก้ไข ทั้งเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา แม้จะเจรจาได้ผลน่าพอใจ แต่ปล่อยไม่ได้ หรือเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ดังนั้นเวทีสภาฯต้องคงไว้ อายุสภาฯมี 4 ปี เพิ่งจะถึงครึ่งทาง ยังเดินหน้าทำงานต่อได้อีกมาก ไม่จำเป็นต้องยุบสภาฯอ้อนศาล รธน.เลื่อนตัดสินคดีคลิปนพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. กล่าวถึงการประชุมศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์ วันที่ 13 ส.ค. อาจพิจารณานัดฟังคำวินิจฉัยคดีถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีคลิปสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่า อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญชะลอการพิจารณาคดีดังกล่าวไว้ก่อน พร้อมทั้งให้ยกเลิกคำสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เพื่อให้กลับมามีอำนาจบริหารราชการแผ่นดิน ในช่วงภาวะวิกฤติทั้งปัญหาสงครามชายแดน กรณีภาษีการค้าสหรัฐฯ และแก้ปัญหาภายในประเทศต่างๆ ทั้งการปราบยาเสพติด คดีเขากระโดง ควรหยุดคดีนายกฯไว้สัก 6 เดือน เมื่อแก้ปัญหาต่างๆผ่านไปแล้ว ค่อยนัดตัดสินคดีอีกครั้งผลเป็นลบดัน “ชัยเกษม” ไม่ไหวยุบสภาฯนพ.เชิดชัยกล่าวว่า การมีนายกฯตัวจริงบริหารประเทศในภาวะวิกฤติ ย่อมเป็นผลดีต่อประเทศมากกว่านายกฯรักษาการแน่นอนที่การบริหารงานไม่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญเดินหน้าพิจารณาคดีนายกฯ และคำวินิจฉัยออกมาทางลบต่อพรรค มีแผนสำรองผลักดันนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของพรรค เป็นนายกฯคนต่อไป แต่ถ้ายังมีการต่อต้านนายชัยเกษมอย่างหนักจนยื้อต่อไม่ไหวจริงๆคงต้องยุบสภา จึงอยากให้การเมืองนิ่งที่สุด เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อได้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่เลวร้ายถึงขั้นนั้น ยังมั่นใจศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยนายกฯไม่มีความผิด เช่นเดียวกับกระแสข่าวที่นายกฯจะลาออกก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน ไม่เป็นความจริงเป็นข่าวลือ ในพรรคไม่เคยคุยกันเรื่องนี้ลั่นไม่ยืมจมูกฝ่ายค้านหายใจนพ.เชิดชัยกล่าวว่า ส่วนการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2-3 ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค.นั้น เชื่อว่าจะผ่านไปด้วยดี ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย กำชับ สส.และรัฐมนตรี ให้อยู่ร่วมการประชุมตลอดเวลา และทุกพรรคอยากให้กฎหมายผ่าน พรรคร่วมรัฐบาลพร้อมรักษาองค์ประชุมอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นต้องยืมจมูกพรรคฝ่ายค้านหายใจ ขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในหลักเกณฑ์ข้อบังคับการประชุมหยุดมโนยุบสภาหลังงบฯผ่านนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพท. กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2-3 วันที่ 13—15 ส.ค. เชื่อว่าที่ประชุมสภาฯจะผ่านการเห็นชอบในวาระ 2-3 ไม่มีปัญหาใดๆ ก่อนส่งต่อให้วุฒิสภาพิจารณา แต่สื่อบางส่วนวิเคราะห์ว่า หลัง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2569 ผ่านสภาแล้ว รัฐบาลอาจยุบสภานั้น ในฐานะ สส.พรรคเพื่อไทย ตลอดช่วง 2—3 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยได้ยินแนวคิดนี้จากบุคลากรสำคัญ หรือผู้ใหญ่ในพรรคแต่อย่างใด การวิเคราะห์จะยุบสภาหลังผ่าน พ.ร.บ. งบประมาณ จึงเป็นเพียงการมโนที่ปราศจากข้อเท็จจริงโดยสิ้นเชิงปชน.ออกตัวช่วยเป็นองค์ประชุมวันเดียวกัน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของฝ่ายค้านในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.ว่า พรรคประชาชนลงชื่อและใส่ประเด็นคร่าวๆว่าใครจะอภิปรายประเด็นใด จะอภิปรายเจาะลึกโครงการใดไม่เหมาะสม ควรตัดงบประมาณ ใช้เวลาเต็มที่ทั้ง 3 วัน เมื่อถามว่า จะเจาะลึกโครงการใด หรือกระทรวงใดเป็นพิเศษ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า มีทุกกระทรวง ไม่ได้เจาะกระทรวงใดเป็นพิเศษ โครงการใดไม่ปกติ สอดคล้องสถานการณ์ จะอภิปรายทุกกระทรวง เมื่อถามว่า จะคุมเข้มเรื่ององค์ประชุมหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่า ฝ่ายค้านอยากให้ราบรื่น ที่ผ่านมาเป็นองค์ประชุมให้เกือบตลอด ยกเว้นบางครั้งที่รู้สึกว่าป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล ต้องให้ทำหน้าที่ของตัวเอง ย้ำว่าอยากให้ราบรื่น แต่หากดูน่าเกลียดจนเกินไป ฝ่ายค้าน ยินดีจะเป็นองค์ประชุมประกาศโหวตคว่ำ ก.ม.งบฯนายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า ส่วนการลงมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ยังไม่ได้สรุป จะพูดคุยอีกครั้งช่วงเช้าวันที่ 13 ส.ค. จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องลงมติเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคพิจารณา ส่วนพรรคประชาชนจะลงมติไม่เห็นชอบ เมื่อถามว่า เสียงของรัฐบาลที่ปริ่มน้ำจะเป็นอุปสรรคทำให้การโหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณไม่ผ่านหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิตอบว่าคงเป็นหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลต้องกังวลมากกว่า งบฯเป็นวาระสำคัญ ถ้ารัฐบาลคิดว่างบประมาณที่ทำมาถูกต้องสอดคล้องสถานการณ์ก็ว่ากันไปตามมติเสียงข้างมาก สิ่งที่สำคัญคือต้องรักษาองค์ประชุมของเสียงข้างมากให้ได้ เราเป็นฝ่ายค้านและเสียงข้างน้อย ยืนยันว่าไม่เห็นด้วยภท.เล่นเชิงฟังเหตุผลก่อนโหวตงบฯน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) แถลงข่าวหลังประชุมพรรคว่า ที่ประชุมพิจารณาการประชุมสภาฯ วันที่ 13-15 ส.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วาระ 2-3 พรรคไม่ได้ชี้ชัดว่าจะออกเสียงลงมติแบบไหนในแต่ละมาตราจะพิจารณาเหตุและผลตามที่ กมธ.ได้ปรับลดงบฯของหน่วยงานต่างๆ ส่วนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน 4 จังหวัดอีสานใต้ ทั้งบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี แม้สถานการณ์สงบลงแล้ว แต่อยากฝาก ครม.ดูแลบ้านประชาชนที่เสียหายด้วย แม้มีมติ ครม.เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บไปแล้ว ขณะนี้มีคำถามผ่าน สส.ภูมิใจไทยที่ลงพื้นที่อยู่ตลอดว่า ราชการมีมาตรการอย่างไร หน่วยงานจะช่วยอย่างไร ไม่อยากให้ ครม.นั่งอ่านแต่กระดาษรายงานจากหน่วยงาน ลงพื้นที่แล้วอยากให้รับฟังปัญหาจริงๆที่เกิดขึ้น เวลานี้ไม่ใช่เวลาตอบคำถามเชิงยอกย้อน และรัฐบาลต้องดูแลปัญหาน้ำท่วมที่ จ.น่านด้วย เมื่อถามว่าจะโหวตวาระ 3 อย่างไร น.ส.แนน ตอบว่าจะพิจารณาเป็นรายมาตราว่าเป็นอย่างไร ส่วนวาระ 3 จะคุยกันอีกครั้งวันที่ 15 ส.ค.แบ่งรับแบ่งสู้ดึง “นิพนธ์” ร่วมชายคานายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.กล่าวถึงกรณีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรค ภท.ไปกินข้าวกับนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทยและอดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ถูกจับตาเตรียมย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยว่า ขอให้ไปถามนายพิพัฒน์ ตอนนี้นายนิพนธ์ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ที่สำคัญช่วงนี้การเมืองควรให้เป็นไปตามที่เป็นอยู่ อย่าเพิ่งนั่งคิด เพราะการเลือกตั้งไม่ได้เกิดขึ้นเร็วๆนี้ เมื่อถามว่านายนิพนธ์รับบทตอบโต้แทนพรรค ภท.เรื่องเขากระโดง นายอนุทินตอบว่า ในฐานะเป็นผู้ใหญ่ทางการเมืองมากๆ ทั้งเป็น รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน เมื่อถามว่าการเลือกตั้งไม่ได้ใกล้เวลานี้ ทั้งที่เดือน ส.ค.และเดือน ก.ย.มีคดีสำคัญทางการเมืองหลายคดี นายอนุทินตอบว่า วันนี้ถามว่าใกล้เลือกตั้งได้อย่างไร ไม่มีความชัดเจนอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะนายกฯยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ มีการทักท้วงว่าการยุบสภาเป็นอำนาจของนายกฯเท่านั้น จึงยังไม่ได้ใกล้จุดนั้นเลย ขณะที่สภาเกิน 2 ปีมาแค่ 3 เดือน ทุกคนจึงคิดว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 69 บรรดาพรรคการเมืองคงไม่ได้คิดต้องเลือกตั้งกลางปี 70 พรรค ภท. ไม่ได้คิดต่างกันชี้ชะตานายกฯทำตามกฎหมายจบเมื่อถามถึงกระแสข่าวที่นายกฯจะลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯฮุน เซน อย่างไร นายอนุทินตอบว่า เป็นกระแสข่าว ไม่มีทางรู้ การตัดสินใจอะไรต่างๆเป็นเรื่องของแต่ละคน แต่พรรค ภท.ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คนที่เคยปรามาสว่าพรรค ภท.เป็นฝ่ายค้านไม่เป็น ไม่มี สส.ที่มีคุณภาพ แต่วันนี้ทำหน้าที่ได้ตามบทบาทที่ได้รับมอบหมายได้อย่างดี เมื่อถามว่าจุดยืนพรรค ภท.มองว่านายกฯควรลาออกหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ตอนนี้เป็นขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯก็หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกฯทำตามกฎหมายทุกอย่าง ดังนั้น ถ้าทุกฝ่าย ทำตามกฎหมาย จะไปบอกให้ใครทำอะไรก็ไม่ถูก ขอให้ทำตามกฎหมายให้ดีที่สุด วันนี้เราให้กำลังใจทุกคนที่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองอยู่แล้วสว.โต้ข่าวลือจ้องล้มโต๊ะงบฯปี 69นายอลงกต วรกี สว.และรองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 วุฒิสภากล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ69 ที่สภาฯเตรียมพิจารณาวาระ 2-3 วันที่ 13-15 ส.ค.ว่า วุฒิสภาได้พิจารณาเนื้อหาและรายละเอียด เชิญหัวหน้าส่วนราชการมาชี้แจงรายละเอียด แต่การ พิจารณาของ สว. ไม่สามารถตัดหรือเปลี่ยนแปลงได้ มีหน้าที่เพียงตั้งข้อสังเกต หากพบว่างบบางตัวผิดปกติ เช่น งบฯกระทรวงศึกษาธิการที่ตั้งงบไว้สูง เพื่อใช้ทวงหนี้ผู้ผิดนัดชำระเงินกู้ กยศ. หรืองบฯ บางหมวดเป็นเบี้ยหัวแตก งบแก้ปัญหาทุจริตที่กระจายอยู่ในหน่วยงานต่างๆ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าว สว.อาจไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 นายอลงกตตอบว่า ไม่มีไม่เห็นชอบแน่นอน หาก สว.ไม่เห็นชอบจะใช้มูลเหตุอะไรไม่เห็นชอบ ต้องย้อนไป สส.อีก สว.จะยื้อทำไม ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน นำเงินเข้าระบบได้เร็วเท่าไรยิ่งดี จึงไม่มีเหตุยับยั้ง แต่มีข้อสังเกตได้ ไม่ควรชะลอการผ่านงบฯ ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้“อนุทิน” ชี้ดีสุดเขากระโดงทำตาม ก.ม.เมื่อเวลา 13.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงกรณีกรมที่ดินเพิกถอนสิทธิ์โฉนดที่ดินเขากระโดงว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไม่มีแผนที่แนบท้ายกฤษฎีกา คนที่ครอบครองเขากระโดงไม่เคยพูดว่าจะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สิ่งที่ทำให้ถูกต้องและทุกฝ่ายเชื่อถือได้คือกฎหมาย ขอให้มีคำพิพากษาศาลให้ชัดเจน เป็นเอกฉันท์ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ เมื่อถามว่ากรมที่ดินไม่สามารถเพิกถอนได้ทั้งหมด แต่ต้องรอให้ฟ้องร้องเป็นรายแปลงก่อน นายอนุทินตอบว่า มีการตีความว่าหากศาลฎีกาตัดสินผูกพัน 35 ราย อีกฝ่ายบอกว่าเหมาทั้งหมดไม่ได้ เพราะต้องดำเนินการตามคณะกรรมการตามกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 ขอแก้ข่าวว่าตนไม่ได้เป็นคนตั้งคณะกรรมการชุดนี้เมื่อถามว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ประกาศเพิกถอนสิทธิ์ในที่ดินเขากระโดงทันที ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการเพิกถอน นายอนุทินตอบว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ถ้ากฎหมายบอกว่าพรุ่งนี้รื้อถอนได้เลยต้องรื้อถอน ถ้ากฎหมายบอกว่ารื้อไม่ได้ต้องทำตามนั้น ไม่มีใครขัดขวางอยู่แล้ว มาถึงจุดนี้เป็นที่รับรู้ของสังคม สิ่งที่ดีที่สุดคือทำตามกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิ์ต่อสู้เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ของตัวเอง หากศาลมีคำวินิจฉัยออกมาขอให้ทุกคนทำตามโวยอย่าเอาการเมืองทำลายล้างกันเมื่อถามว่าการเพิกถอนสิทธิ์ในที่ดินเขากระโดงใช้เวลาอีกนานหรือไม่ นายอนุทินตอบว่าเคยบ่นสมัยเป็น รมว.มหาดไทย เรื่องนี้ลากยาวมาเป็นเวลา 20 ปี ต้องมาตกที่สมัยตนด้วย พ้นตำแหน่งไปแล้วเป็นรัฐมนตรีคนใหม่ก็ยังไม่จบ เรื่องดังกล่าวมีแนวทางของมันที่ต้องทำตาม เมื่อถามว่านายภูมิธรรมประกาศให้เพิกถอนสิทธิ์ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถเพิกถอนสิทธิ์ได้ เพราะยังกลัวเรื่องข้อกฎหมาย นายอนุทินตอบว่า จริงๆ ไม่ควรเอาเรื่องทางการเมืองมาทำลายกัน เรื่องบุคคลแต่ละคนก็คนละเรื่องกัน ทำไมเดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ไม่ทราบไม่เคยเจอแบบนี้ บทบาททุกคนคือการรักษาประโยชน์ให้ประเทศชาติ ทำหน้าที่ตนเอง ไม่เอาเรื่องส่วนตัวออกมาเรื่องแบบนี้พรรค ภท. ไม่เคยทำ อยู่กระทรวงมหาดไทยมา 2 ปีไม่เคยกลั่นแกล้งใคร ไม่เคยใช้อำนาจการบริหารประเทศทำเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารบ้านเมือง ไม่อยากให้การเมืองไทยเป็นแบบนี้ เพราะมันจะไม่จบไม่สิ้น จะมีแต่ความอาฆาตมาดร้ายต่อกัน มานั่งแก้แค้นกัน ประเทศจะไปอย่างไรอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่