สํานักงาน ป.ป.ส. ให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติดทุกระดับ สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติด ตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ กวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดพื้นที่แพร่ระบาด ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติด มุ่งเน้นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดให้ครบทั้งวงจรพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด น.อ.ฤทธิ์ นาทวงศ์ ผู้แทนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และ พ.อ.พิรุฬห์สิระ เอี่ยมมาลา สนับสนุนหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ แถลงผลปฏิบัติการ “ตัดไฟแต่ต้นลมครั้งที่ 3”ป.ป.ส. ร่วมกับ บช.ปส. ขยายผลเครือข่าย นายเตชินท์ หน่อวงค์ จับผู้ต้องหา 4 ราย ของกลางยาบ้า 1,300,000 เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่า 2,550,000 บาท เพราะแหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ที่ประเทศเมียนมาเพื่อตัดไฟต้นลมนอกจากจับผู้ค้าพื้นที่ นำผู้เสพบำบัด ขยายต้นตอผู้สั่งการในต่างประเทศ ออกหมายจับบุคคลที่ไปถือครองทรัพย์สินในเมียนมาที่ท่าขี้เหล็กพันล้านบาท ส่งเอกสารไปยัง ผบ.ตร.และเลขาธิการ ป.ป.ส. ประเทศเมียนมาตรวจยึดทรัพย์สินขยายผลต่อยอดต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน มี.ค.ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ตรวจค้น 10 จุด เป้าหมายพื้นที่ 6 จังหวัด ยึดทรัพย์ 80 ล้านบาท มีตัวการสำคัญ นายเตชินท์ หน่อวงค์ เป็นผู้สั่งการและผู้ค้ายาเสพติดพล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. เสนอ ป.ป.ส. ให้ นายเตชินทร์ เป็นผู้ต้องหาที่ต้องการตัวมากที่สุดในขณะนี้ มีค่าหัว 1 ล้านบาท มีหมายจับศาลอาญา ปัจจุบันนายเตชินท์หลบหนีอยู่ในประเทศเมียนมาแต่พบข้อมูลว่า ยังเป็นผู้สั่งการและจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ใช้เครือข่ายผู้ลำเลียงชาวไทยลักลอบนำยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ถ้าจับตัวการได้หยุดวงจรการค้าและจำหน่ายยาเสพติดเพราะ “เตชินท์” มีลูกค้าต่างประเทศอยู่ในมือจำนวนมาก.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม