ซอกแซกสัปดาห์นี้ ขออนุญาตแซงทางโค้งเรื่องเล่า “เขาใหญ่” ที่ทีมงานเพิ่งจะเขียนเปิดฉากตอนแรก ว่าด้วยการ “ส่องสัตว์ เขาใหญ่” ไปได้เรื่องเดียวเท่านั้น-กำลังจะต่อด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับ “หลวงพ่อทวด องค์ใหญ่ที่สุดในโลก” ที่เชิงเขาใหญ่อยู่ทีเดียวทีมงานอีกส่วนหนึ่งของเราก็ได้รับเชิญไปชมละครเวที เรื่อง “อันธพาล 2499 The Musical” ของคุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ในรอบสื่อมวลชนคู่ขนานไปด้วยดูจบแล้วได้รับความบันเทิงมาอย่างเต็มเปี่ยมแล้ว ทีมงานทั้ง 4 คน มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า “ละครอะไรไม่รู้ดีเหลือเกิน” หากจะรอเขียนหลังชุดเขาใหญ่จบ เห็นทีจะไม่ทันกาล มีหวังละครลาโรงไปก่อนอย่างแน่นอน เพราะคณะผู้จัดยํ้านักยํ้าหนา ว่าจะแสดง ณ โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ ถึงวันที่ 29 มิถุนายนนี้เท่านั้นจึงต้องขออนุญาตสลับคิวเขียนถึง “อันธพาล 2499 The Musical” เสียก่อนในวันอาทิตย์นี้ (1 มิถุนายน) ซึ่งจะมีเวลาเกือบ 1 เดือนเต็มๆให้แฟนๆตัดสินใจ หากจะเชื่อทีมงานซอกแซก แล้วอยากไปดูบ้างอย่างที่ทราบๆกันอยู่แล้วว่าละครเวทีของคุณบอยชุดนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ไทยฟอร์มยักษ์ เรื่อง “2499 อันธพาลครองเมือง” ของ นนทรีย์ นิมิบุตร ที่ออกฉายเมื่อปี 2540 โกยเงินไปได้ถึง 75 ล้านบาท ซึ่งนับว่าสูงมากในยุคที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับภาวะต้มยำกุ้ง ฟองสบู่แตกใน พ.ศ.ดังกล่าวจุดพลุให้บรรดาอันธพาลที่เคยคุมเขตคุมย่านต่างๆของกรุงเทพฯ หรือจังหวัดพระนครในยุค พ.ศ.2499 อย่าง แดง ไบเล่, ปุ๊ ระเบิดขวด, ดำ เอสโซ่, เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์, แหลมสิงห์ และ ฯลฯ กลับมาเป็นที่โจษขานของผู้คนใน พ.ศ.2540 อีกครั้งจนมาถึงวันนี้ 2568 ประมาณ 28 ปี หลังภาพยนตร์ของ นนทรีย์ นิมิบุตร และ 68 ปี หลังเหตุการณ์จริง พ.ศ.2499 “คุณบอย” ก็ปลุกอันธพาลทั้งหลายแหล่ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกวาระหนึ่ง ผ่านละครเวที “อันธพาล 2499 The Musical” ที่ทีมงานซอกแซกมีโอกาสดูชมมาสดๆร้อนๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ นาย ณภัทร มารับบทยอดอันธพาลแดง ไบเล่ ได้ ไอซ์ พาริส มารับบท ปุ๊ ระเบิดขวด เพื่อนรักของแดง ไบเล่ ที่มิตรภาพต้องสะบั้นลงอย่างเจ็บปวดหัวใจในช่วงสุดท้ายได้ เทศน์ ไมรอน มารับบท ดำ เอสโซ่ และได้ อ๋อลี่ ตติยา มารับบท วัลภา เมียรักของแดง ไบเล่ส่วน ไดมอนด์ ณรกร มาในบทบาทของ เปี๊ยก วิสุทธิ์กษัตริย์, บูม สหรัฐ ในบท แหลมสิงห์ และคนนี้เลย ปุยฝ้าย ภัทณชา ในบท “แม่โฉม” แม่ของแดง ไบเล่ นั่นเองทุกคนแสดงได้อย่างโดดเด่นทั้งร้อง ทั้งเต้น ทั้งชกต่อยตีรันฟันแทงครบเครื่องโดยเฉพาะ นาย ณภัทร ในบทของ แดง ไบเล่ ที่มีทั้งหล่อทั้งดุ ทั้งโหด ทั้งซึ้ง ทั้งอ่อนโยนครบเครื่องนั้นยกนิ้วให้เลยน้องนายอีกหนึ่งที่ต้องยกนิ้วให้ก็ ไอซ์ พาริส นั่นแหละ...เล่นได้สมกับที่เป็นนักร้องและนักแสดงละครมามากมาย รวมทั้งมิวสิคัลเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 แล้ว ในบทของปุ๊ ระเบิดขวดซึ่งต้องย้ำเป็นครั้งที่สิบว่าไอซ์แสดงได้ดีมากๆๆๆ เสียงร้องแน่นมากๆ+สีหน้าท่าทางและอารมณ์มาเต็มร้อยทุกครั้งสำหรับฝ่ายหญิงนั้นก็ต้องยกนิ้วให้ อ๋อลี่ ตติยา นักแสดงจากช่อง ONE ที่สวยเซ็กซี่และเสียงดีมากๆ มารับบท วัลภา นางเอกของเรื่อง ฉากเปิดตัวในบาร์ของเธอนั้นเริ่มขึ้นด้วยเสียงร้องที่ทรงพลังอย่าบอกใครเชียวส่วน ปุยฝ้าย ภัทณชา ในบทแม่โฉม แม่ของแดง ไบเล่ ก็สามารถถ่ายทอดความรักของแม่ได้อย่างดียิ่ง ร้องเพลงได้เพราะ ปล่อยอารมณ์ได้อย่างซาบซึ้ง ทำเอาคนดูน้ำตารื้นไปตามๆกันบรรยากาศหรือภาพรวมๆของมิวสิคัลชุดนี้เรียกได้ว่าสนุกตื่นเต้นและลุ้นไปตลอดทั้งเรื่อง ครบทุกรสชาติ ไม่ว่าจะบทบู๊บทเศร้าบทซึ้งๆอย่างที่เล่าไว้บ้างแล้ว แต่อีกไฮไลต์หนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ฉากบู๊ ใน “ศึกสิบสามห้างบางลำพู...” เมื่อเหล่านักแสดงหนุ่มทั้งห้าและนักแสดงอื่นๆออกมาโชว์กล้าม “พะบู๊” ไปตามจังหวะและเสียงดนตรีประกอบที่สุดมันส์วลีหลักๆที่เป็นภาพจำของเรื่องจากภาพยนตร์ที่ว่า “เป็นเมียเราต้องอดทน” ก็ยังมีอยู่ในละครเวทีเรื่องนี้ เพียงแต่เปลี่ยนมาเป็นเวอร์ชันเพลงแจ๊ส ซึ่งฟังดูแล้วได้อารมณ์และความแตกต่างไปอีกแบบวิธีการเล่าเรื่องก็น่าสนใจ คือเอาตอนจบขึ้นมาเป็นตอนต้นแล้วก็ค่อยๆไล่เรียงกันไปเล่าถึงอดีตที่ผ่านมาจนมาบรรจบกับตอนเริ่มต้นอีกครั้งถ้าจะให้สรุปของสรุปก็คือ มิวสิคัลเรื่องนี้มีเนื้อหาหลักๆเป็นเรื่องของเพื่อน ของมิตรภาพ ของความรักและครอบครัว (ในดงอันธพาล) ที่มีการบอกเล่าผ่านเสียงเพลงที่เพราะมากๆในสไตล์ บอย ถกลเกียรติ บวกกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่างเหลือเชื่อของนักแสดงทุกคน ทำให้ละครอยู่ในเกณฑ์ “สนุก”+“ดี๊ดี” และ น่าดูประจำปี 2568 ได้อีกเรื่องหนึ่งยํ้าว่าจะแสดงถึง 29 มิถุนายนนี้เท่านั้น และไม่ได้แสดงทุกวันนะครับ โปรดจองบัตรและหารายละเอียดได้ตามอัธยาศัย ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกๆช่องทางเอาเองก็แล้วกัน.“ซูมจูเนียร์”+“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม