ทส.เด้ง “พัชร์ภารุจ สุคนธร” มือปราบสวนทุเรียนนายทุนจีนรุกพื้นที่ป่าแควระบมและป่าสียัดเนื้อที่กว่า 700 ไร่ พ้น ผอ.ทสจ. ฉะเชิงเทรา เผยเจ้าตัวรู้ล่วงหน้าว่าจะโดนโยกออกจากพื้นที่ แจ้งผู้บังคับบัญชาขอย้ายไปอยู่ กทม. สุดท้ายถูกเตะโด่งไปเป็น ผอ.ทสจ.พิษณุโลก แทนภรรยา ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ที่มีข่าวสนิท รมต. ขณะที่บรรดาข้าราชการในกระทรวงวิจารณ์หึ่งทส.ย้ายมือปราบสวนทุเรียนนายทุนจีนรุกป่าพ้นพื้นที่ เปิดเผยเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 9 ในตำแหน่งผู้อำนวยการ (ผอ.) สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ทสจ.) จำนวน 4 ตำแหน่ง ประกอบด้วย 1.นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผอ.ทสจ.ลำพูน เป็น ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา 2.นายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา เป็น ผอ.ทสจ.พิษณุโลก 3.นางอภันตรี เชื้อชม ผอ.ทสจ.พิษณุโลก เป็น ผอ.ทสจ.ลำพูน และ 4.นายวุฒิชัย โสมวิภาต ผอ.ทสจ.ราชบุรี เป็นผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ที่ 5 (สระบุรี) กรมป่าไม้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การโยกย้าย ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดในครั้งนี้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากบรรดาข้าราชการในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก โดยเฉพาะกรณีการย้ายนายพัชร์ภารุจ สุคนธร ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ชื่อว่าเป็นมือปราบสวนทุเรียนที่กลุ่มทุนจีนบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัด จ.ฉะเชิงเทรา ถูกโยกไปดำรงตำแหน่ง ผอ.ทสจ.พิษณุโลกแทนนางอภันตรี เชื้อชม ภรรยานายอริยะ เชื้อชม ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ อดีตศิษย์เก่าวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์รุ่น 55 ที่มีข่าวว่าสนิทกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อีกทั้งยังมีกระแสข่าวว่ายุคนี้ศิษย์เก่าวนศาสตร์รุ่น 55 ล้วนได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งสูงขึ้นดีกว่ารุ่นอื่นๆที่ผ่านมานายพัชร์ภารุจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา นำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัดเนื้อกว่า 700 ไร่ มีการประสานการทำงานเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กระทั่งพบนายทุนคนไทยและนายทุนชาวจีนมีชื่อปรากฏครอบครองที่ดินโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) และพบมีการใช้ชื่อบุคคลจาก จ.จันทบุรี และ จ.ตราด มาแอบอ้างในการถือครอง เมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบกลับไม่พบว่าคนที่มีชื่อถือครองที่ดังกล่าวเข้ามาทำประโยชน์จริง นายพัชร์ภารุจจึงทำหนังสือรายงานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอให้ยกเลิกที่ คทช.ดังกล่าว เพราะใช้ผิดวัตถุประสงค์ล่าสุดกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอส่งเจ้าหน้าที่สอบปากคำนายพัชร์ภารุจ ภายหลังรับเป็นคดีพิเศษเกี่ยวกับทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากพบบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมเดียวกับที่ จ.ฉะเชิงเทรา เข้าไปใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐในรูปแบบริษัทชื่อเดียวกันอีก 6-7 จังหวัด ทั้งนี้มีข่าวว่าการออกมาเปิดเผยเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัดของนายพัชร์ภารุจ สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่าย ขณะที่นายพัชร์ภารุจก็รู้ล่วงหน้าว่าอาจจะถูกโยกย้ายได้แจ้งกับผู้บังคับบัญชาว่าหากจะมีการย้ายขอให้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ปรากฏว่าเมื่อคำสั่งออกมากลับถูกย้ายไปยัง จ.พิษณุโลกผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าจะมีคำสั่งย้ายนายพัชร์ภารุจพ้น ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทราครั้งนี้ได้มีคำสั่งย้ายนายพันธ์ศักดิ์ ธรรมรัตน์ ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ ทสจ.ฉะเชิงเทรา ไป จ.พิษณุโลก มาแล้ว สำหรับนายพันธศักดิ์ได้ชื่อว่าเป็นมือปราบและตัวหลักในการปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแควระบมและป่าสียัดในช่วงที่ผ่านมาด้วย ส่วน ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทราคนใหม่คือนายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ที่ย้ายจาก ผอ.ทสจ.ลำพูน เคยเป็นหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและอีกหลายอุทยานฯในยุคนายธัญญา เนติธรรมกุล เป็นอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อนายธัญญาเกษียณอายุราชการ นายรวมศิลป์ได้เป็น ผอ.ทสจ.หลายจังหวัด ก่อนจะย้ายมาเป็น ผอ.ทสจ.ฉะเชิงเทราอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่