ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนมหาเศรษฐีโลกวัย 94 ปี มีความมั่งคั่งกว่า 168,000 ล้านดอลลาร์ ผู้ก่อตั้งบริษัท Berkshire Hathaway ก็ตัดสินใจก้าวลงตำแหน่ง ซีอีโอ–ประธานกรรมการบริหาร เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ในสิ้นปี 2025 นี้ และแต่งตั้งให้ Greg Abel รองประธานกรรมการบริหารวัย 62 ปี เป็นผู้สืบทอด บัฟเฟตต์ ได้ประกาศให้ Abelเป็นทายาทและบ่มเพาะมานานถึง 4 ปีเต็ม และแจ้งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นทราบเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พ.ค. ระหว่างการประชุมผู้ถือหุ้นการประชุมผู้ถือหุ้นของ เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ทุกปี จะมีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมกว่าหมื่นคน เกือบต้องปิดเมืองกันเลยทีเดียว บัฟเฟตต์ ได้เปรียบการประชุมผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ว่าเป็น Woodstock for Capitalists เทศกาลดนตรีอันยิ่งใหญ่ของทุนนิยม ทุกคนอยากมาฟังทิศทางและแนวคิดการลงทุนของ บัฟเฟตต์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงต่อเนื่องมายาวนานสิ้นเดือนมีนาคม บริษัท เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ มีมาร์เกตแคปที่ 1.16 ล้านล้านดอลลาร์ กว่า 39 ล้านล้านบาท จากการลงทุนใน 189 บริษัท ราคาหุ้นเบิร์กเชียร์นับตั้งแต่วันก่อตั้งปี 1965 ถึงปี 2024 เพิ่มขึ้นกว่า 5.5 ล้านเปอร์เซ็นต์ ล่าสุดอยู่ที่หุ้นละ 809,350 ดอลลาร์ ไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ราคาหุ้นเบิร์กเชียร์เพิ่มขึ้น 19% สวนทางกับดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ลดลง 3% สิ้นเดือนมีนาคม เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ ถือเงินสดในพอร์ตสูงถึง 347,700 ล้านดอลลาร์ จากการขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่อง 10 ไตรมาส ก่อนที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งวอร์เรน บัฟเฟตต์ ถือเป็นนักลงทุนในตำนานที่ยังใช้เครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิมในการตัดสินใจลงทุน เน้นการเรียนรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ ชีวิตประจำวันของมหาเศรษฐีหุ้น บัฟเฟตต์ เรียบง่ายมาก ตื่นนอนประมาณ 06.45 น. เข้านอนประมาณ 22.45 น. ให้ความสำคัญกับการนอนให้เพียงพอ 8 ชั่วโมงต่อวัน อาหารเช้าคือแมคโดนัลด์ ชอบดื่มโค้ก บัฟเฟตต์ใช้เวลา 80% ของทุกวันไปกับการอ่าน ตั้งแต่หนังสือพิมพ์ รายงานประจำปี รายงาน นักลงทุน เอกสารทางการเงินใหม่ๆ อ่านหนังสือ 500 หน้าทุกวันเพื่อสะสมความรู้เหมือนดอกเบี้ยทบต้น บัฟเฟตต์มีวินัย และสมาธิมาก รักษาสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงาน แม้จะทำงานหนัก แต่ บัฟเฟตต์ก็มีเวลาว่างให้กับครอบครัว สังสรรค์กับเพื่อนฝูง เล่นบริดจ์ ดูโทรทัศน์บัฟเฟตต์ ได้พูดถึงการขึ้นภาษีกับคู่ค้าทั่วโลกของทรัมป์ว่า มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ดุลการค้าเป็นเรื่องที่ดี การค้าไม่ควรจะกลายเป็นอาวุธ ซึ่งจะนำไปสู่สงคราม “ในความเห็นของผม เมื่อคุณมีคนกว่า 7,500 ล้านคน ที่ไม่ชอบคุณ และคุณมีเพียง 300 ล้านคน ที่เหมือนเสียงนกเสียงกาที่แสดงความชื่นชมคุณ ผมไม่คิดว่ามันถูกต้อง ผมไม่คิดว่ามันเป็นการกระทำที่ฉลาด ผมไม่คิดว่ามันเป็นไอเดียที่ดีที่จะดีไซน์ให้โลกนี้มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่หัวเราะ ฮา ฮา ฮา แล้วพูดว่า เราชนะแล้ว”แม้ บัฟเฟตต์ จะไม่เอ่ยชื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ผู้ถือหุ้นกว่าหมื่นคนในที่ประชุมก็รู้ว่า บัฟเฟตต์พูดถึงนโยบายภาษีอันบ้าคลั่งของทรัมป์ จึงไม่แปลกใจที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เจ้าของฉายา “Oracle of Omaha–พ่อมดแห่งโอมาฮา” จะขายหุ้นในมือออกไปอย่างต่อเนื่องถึง 10 ไตรมาสในช่วงที่ผ่านมา ปีที่แล้ว 2024 บัฟเฟตต์ขายหุ้นออกไปถึง 134,000 ล้านดอลลาร์ 4.55 ล้านล้านบาท เพื่อลดพอร์ตต้อนรับชัยชนะของทรัมป์“ทรัมป์” ไม่เพียงสร้างศัตรูกับคนทั่วโลกกว่า 7,500 ล้านคนอย่างที่ บัฟเฟตต์ เปรียบเทียบ แต่ทรัมป์ยังสร้างศัตรูในประเทศสหรัฐฯอีก 300 ล้านคน ทุกอย่างกำลังรอการระเบิดจากข้างใน ตอนนี้มีผู้ว่าการรัฐอย่างน้อย 12 รัฐที่ยื่นฟ้องทรัมป์แล้ว ผู้พิพากษาในสหรัฐฯอีกมากที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายทรัมป์ ผลสำรวจความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์สหรัฐฯล่าสุดของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก 75% คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ หรือโตเป็นศูนย์ใน 12 เดือนข้างหน้า ทรัมป์กำลังทำลายอนาคตของชาวอเมริกันทั้งประเทศ 350 ล้านคนอย่างเมามัน ทรัมป์ คือ Ugly American ตัวจริง.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม