โรงเรียนข่าวทหารบก กองทัพบก กระทรวงกลาโหม เชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด “ความซับซ้อนของการระหว่างประเทศ” 09.00-12.00 น. ศุกร์ 28 กุมภาพันธ์ 2025 วันนี้ที่โรงเรียนข่าวทหารบก เขตพระนคร กรุงเทพฯอย่างที่ผมเรียนรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพไปเมื่อวันก่อนว่า ตอนนี้หน่วยงานรัฐของสหรัฐอเมริกาปั่นป่วนรวนเรอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ เพราะโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีมหาเศรษฐี (ทรัพย์สิน 6 พันล้านดอลลาร์) แท็กทีมกับอีลอน มัสก์ อภิพญามหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลก ในตำแหน่งหัวหน้ากระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาล หรือ DOGE (ทรัพย์สิน 4 แสนล้านดอลลาร์) เข้ามาคุมภารกิจลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองของรัฐบาล โดยใช้วิธีเจ้านายสั่งลูกน้อง สั่ง สั่ง แล้วก็สั่งแม้ว่าการบริหารรัฐและการบริหารเอกชนจะมีหลักการที่คล้ายกันในบางด้าน แต่หลายอย่างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ภาครัฐมีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการประชาชนและบรรลุเป้าหมายเชิงสังคม ส่วนภาคเอกชนมุ่งแสวงหากำไรและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ภาครัฐมีรายได้จากภาษีและเงินอุดหนุนจากรัฐ ภาคเอกชนมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการเอกชนวัดความสำเร็จจากผลกำไร ส่วนแบ่งตลาด หรือผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น ส่วนรัฐวัดจากผลกระทบต่อสังคม คุณภาพการให้บริการ หรือความพึงพอใจของประชาชน ระบบการตัดสินใจของเอกชนสามารถทำได้รวดเร็วกว่าเน้นประสิทธิภาพและยืดหยุ่นกว่า ส่วนรัฐจะมีลำดับชั้นและกฎระเบียบมาก ถูกควบคุมโดยกฎหมายและนโยบายสาธารณะ ส่วนภาคเอกชนแม้ว่าจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายแต่ก็มีความเป็นอิสระมากกว่าที่สำคัญที่สุดในเรื่องบุคลากรคือ แรงจูงใจในการทำงานที่เอกชนเน้นผลตอบแทน โบนัส และโอกาสเติบโตในอาชีพ ส่วนรัฐ บุคลากรมีแรงจูงใจทางสังคมและความมั่นคงในการทำงานหนึ่งในมาตรการที่มัสก์นำมาใช้คือ การส่งอีเมลถึงเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางนับแสนคนให้รายงานผลงานสำคัญ 5 ประการที่ได้ดำเนินการในสัปดาห์ที่ผ่านมาภายในเวลา 48 ชั่วโมง ถ้าไม่อย่างนั้นจะถูกไล่ออก ทำเอาเจ้าหน้าที่รัฐอเมริกันจำนวนไม่น้อยตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อท่ามกลางความสับสนกังวลใจ ผมเห็นหน่วยงานที่ออกมาปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐก็คือ สำนักงานบริหารบุคคลแห่งสหรัฐฯ หรือ OPMโดยบอกว่าเรื่องการตอบอีเมลเป็นเรื่องของความสมัครใจ ผู้อ่านท่านลองนึกถึงใจเจ้าหน้าที่รัฐสิครับ วันดีคืนดีก็มีเจ้านายที่ไม่ฟังอีร้าค่าอีรมมาไล่บี้ไล่บีบจนหน้าเขียว โดยลืมไปว่านี่คือหน่วยงานรัฐ แน่นอนว่าในหลายหน่วยงานควรต้องปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สั่งได้ในชั่วข้ามคืน และจำเป็นต้องได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ใช่ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงผู้อ่านท่านคงทราบว่า อีลอน มัสก์ ขึ้นชื่อเรื่องการบริหารบริษัท Tesla, SpaceX และ X (เดิมคือ Twitter) แบบเข้มงวดและคาดหวังประสิทธิภาพสูงสุดจากพนักงาน ตัวของมัสก์ทำงานหนักมาก บางครั้งทำงานถึง 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แถมยังเคยบอกพนักงานว่า “ถ้าคุณไม่สามารถทำงาน 80-100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ ก็อย่าคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จ” และในช่วงที่ต้องเร่งการผลิต พนักงานต้องอยู่ทำงานกันข้ามวันข้ามคืนมัสก์ถนัดสั่งงานด้วยความเผด็จการ แกเคยส่งเมลถึงพนักงาน Twitter ว่า “ต้องทำงานหนักสุดขีด” แถมขู่ว่าพนักงานที่ไม่ยอมทำงานแบบฮาร์ดคอร์ควรลาออก มัสก์เคยไล่หัวหน้าวิศวกรและผู้บริหารออกกลางที่ประชุม หากไม่สามารถตอบคำถามด้านเทคนิคได้ดีพอ แม้ว่ามาตรการฮาร์ดคอร์จะทำให้พนักงานเครียด หมดไฟ องค์กรขาดเสถียรภาพในการบริหาร และอัตราการลาออกสูง สำหรับบริษัทของตัวเองทำได้ครับ แต่หน่วยงานรัฐไม่ใช่บุคลิกภาพของนักการเมืองมีความสำคัญต่อความสำเร็จและการยอมรับจากประชาชน ทั้งทรัมป์และมัสก์สะท้อนให้เห็นถึงภาพของมหาเศรษฐี ซุปเปอร์อีโก้ โคตรแห่งความสุดโต่ง มั่นใจในตัวเองสูงจนทะลุจักรวาล และใช้พระเดชแทนพระคุณจนคนทั้งเกลียดและกลัวไม่มีใครปฏิเสธว่ามัสก์เป็นนักธุรกิจที่เก่งกาจ แต่จากการบริหารงานไม่ถึงเดือนทำให้คนทั้งโลกเห็นว่ามัสก์ไม่ใช่ผู้นำที่จะสามารถกุมหัวใจคนทำงานได้ และหากปล่อยไปในระยะยาว นี่คือหนึ่งในสนิมร้ายที่กร่อนกินการทำงานรัฐบาลของทรัมป์นี่ยังแค่น้ำจิ้มเท่านั้นนะครับ จนกว่าจะครบเทอม คนอเมริกันยังต้องปวดหัวกับทรัมป์และมัสก์อีกหลายตลบ.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม