ฆาตกรทมิฬรัดคอฆ่าโหดสาวใหญ่ทิ้งศพริมคันนากลางทุ่งซอยไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม สภาพถูกเข็มขัดรัดคออำมหิต ใบหน้าและตามร่างกายถูกทำร้ายหลายแห่ง หลังเกิดเหตุ ผบช.ภ.7 นำทีมสืบสวนไล่เช็กกล้องวงจรปิด ก่อนตามลากคอคนร้ายทันควัน สารภาพอ้างเห็นเหยื่อใส่ทองเส้นใหญ่ก่อนหลอกพาซ้อนท้าย จยย.ไปกินข้าวแล้วขอยืมทองไปจำนำ ผู้ตายไม่ยอม ลงมือชกสลบ แล้วใช้เข็มขัดผู้ตายรัดคอซ้ำดับคาที่ นำศพใส่ท้าย จยย.ไปทิ้งอำพรางรวบทันควันฆาตกรโหดฆ่ารัดคอสาวใหญ่นำศพทิ้งอำพรางกลางทุ่งนา เปิดเผยเวลา 22.00 น.วันที่ 24 ก.พ. พ.ต.ท.สมภพ ประภานนท์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม รับแจ้งพบศพหญิงกลางทุ่งนา ในซอยไร่ขิง 34 หมู่ 10 ต.ไร่ขิง ไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จ.นครปฐม พ.ต.อ.จักรพงษ์ ตราบดี รรท.ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พ.ต.ท.โสภณ พุ่มกุมาร รอง ผกก.ป.สภ.โพธิ์แก้ว แพทย์เวร รพ.สามพราน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 7 และกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนซอยไปตามคันนาประมาณ 100 เมตร พบศพหญิงไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 50-60 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าอยู่ข้างคันนา ไว้ผมยาว สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าสีน้ำตาล สวมต่างหูทองข้างซ้าย ลำคอมีเข็มขัดสีแดงรัดอยู่ ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำหลายแห่ง ใบหน้าเขียวช้ำ ภายในตัวไม่พบเอกสารใดๆ แพทย์ชันสูตรศพเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 ชม.สอบสวนชาวบ้านหาปลาใกล้จุดเกิดเหตุทราบว่า ขณะเดินวางเบ็ดอยู่ตามคันคลองช่วงประมาณทุ่มเศษ เห็นรถแท็กซี่จำสีและทะเบียนไม่ได้ขับวนเวียนบริเวณดังกล่าวหลายรอบ แต่ไม่ได้สนใจ เพราะปกติมักมีรถแท็กซี่เข้ามารับส่งผู้โดยสารเป็นประจำ จากนั้นรถแท็กซี่จอดอยู่ริมถนนพร้อมกับเปิดไฟกะพริบอยู่นาน ก่อนขับมุ่งหน้าออกไปทางพุทธมณฑลสาย 5 อย่างรวดเร็ว กระทั่งเดินไปตามคันนาเจอศพหญิงคนกล่าว คาดว่าน่าจะเป็นคนต่างถิ่น เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนด้าน พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จ.นครปฐม เปิดเผยหลังตรวจจุดเกิดเหตุว่า สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์แก้ว และสืบสวนจังหวัดออกหาข่าว พร้อมนำภาพถ่ายหน้าศพคนตายตระเวนไปตามบริษัทห้างร้านและโรงงานต่างๆที่คาดว่าผู้ตายอาจทำงานอยู่ รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามรถแท็กซี่ต้องสงสัย อีกทั้งประสานโรงพักต่างๆตรวจสอบข้อมูลว่ามีการแจ้งคนหายหรือไม่ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกทำร้ายจนเกิดการต่อสู้กัน คนร้ายใช้เข็มขัดของผู้หญิงรัดคอจนเสียชีวิตแล้วนำศพมาทิ้งอำพรางช่วงสายวันที่ 25 ก.พ. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 และ พล.ต.ต.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จ.นครปฐม ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ ก่อนเรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีที่ สภ.โพธิ์แก้วเย็นวันเดียวกัน ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี นำโดย พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จ.นครปฐม ร่วมกับทีมสืบสวนภาค 7 และ สภ.โพธิ์แก้ว ติดตามจับกุมนายไพรัช จินดาวงษ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/24 หมู่ 11 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ขณะหลบหนีอยู่ในห้องเช่า ต.บางเตย อ.สามพราน ยึดเสื้อผ้ากางเกงยีนส์ เสื้อยืดแขนยาว หมวกแก๊ป รองเท้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ และรถ จยย.ยามาฮ่า จีที 125 สีแดง ทะเบียน 2ขฮ 5107 กรุงเทพมหานคร ที่นายไพรัชพาผู้ตายนั่งซ้อนท้ายและกล้องวงจรปิดบันทึกภาพอย่างชัดเจน คุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก กระทั่งทราบชื่อผู้ตายคือ นางเพียด หรือน้อย หอมจันทร์ อายุ 62 ปี บ้านอยู่ ต.ทับทัน อ.สังขะ จ.สุรินทร์สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพอ้างว่า ผู้ตายทำงานก่อสร้างอยู่ใน ต.บางเตย อ.สามพราน และเคยมีสามีมาแล้ว กระทั่งผัวตายไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน วันเกิดเหตุช่วงเย็นมาหานางเพียด และเหลือบไปเห็นผู้ตายใส่สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท สอบถามทราบว่าเพิ่งซื้อมาใส่ พอดีเป็นจังหวะที่ตนต้องการเงินเอาไปผ่อนรถ จยย.จึงออกอุบายชวนนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.ออกไปหาของกิน กระทั่งถึงจุดเกิดเหตุขอยืมสร้อยทองเอาไปจำนำ ผู้ตายไม่ยอมให้ เกิดการยื้อแย่งกัน ก่อนลงมือทำร้ายชกจนสลบแล้วใช้เข็มขัดของผู้ตายรัดคอเสียชีวิต นำศพขึ้นท้ายรถไปทิ้งจุดเกิดเหตุ ช่วงสายเอาทองไปขายร้านทองตลาดสามพราน พบว่าเป็นทองปลอม จึงเอาไปโยนทิ้ง และถูกตำรวจตามจับกุมได้ดังกล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่