จูบปากชื่นมื่น ผู้ว่าฯอุดรมีชัยนำคณะพร้อม ผบ.พลน้อย ร.42 ตัวต้นเหตุขึ้นมาเจรจาพูดคุยจับมือกระชับความสัมพันธ์กับทหารไทยบนปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรักษ์ จ.สุรินทร์ ลดความตึงเครียดชายแดนไทย-เขมร ลงทันที คาดถูกผู้ใหญ่สั่งมา ขณะที่คลิปเก่าเด็กเขมรร้องเพลงปลุกใจในปราสาทตาเมือนธม เชิดชู พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ เป็นฮีโร่กล้าท้าทายทหารไทย โพสต์ว่อนโซเชียล นักเลงคีย์บอร์ดไทย-เขมร คอมเมนต์ดุเดือดกลายเป็นประเด็นร้อนสะเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กรณีคณะแม่บ้านชาวกัมพูชา ขึ้นไปร้องเพลงปลุกใจทหารกัมพูชาในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และถ่ายคลิปไปเผยแพร่ ทหารไทยต้องเข้าไปห้าม เพราะเป็นการกระทำไม่เหมาะสม ผิดข้อตกลงของทั้งสองประเทศ ทำให้ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย ร.42 ผู้บังคับบัญชาทหารกัมพูชา ไม่พอใจ พูดจาท้าทายให้ยิงกัน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นมาทันทีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ก.พ. นายเนียม จันญาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นำคณะทหารกัมพูชา นำโดย พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย ร.42 บุคคลต้นเหตุ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา เดินทางขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อเจรจาพูดคุยกระชับความสัมพันธ์อันดีของทั้งสอง ประเทศ กับ พ.ท.จักรกฤษ ปิยะศุภฤกษ์ ผบ.กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 ตัวแทนฝ่ายไทย และคณะเจ้าหน้าที่ทหาร ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันราว 20 นาที ก่อนได้จับมือและบันทึกภาพร่วมกัน ส่งผลให้ สถานการณ์ลดความตึงเครียดลงมาได้ในระดับหนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ข้อความที่นายเนียม จันญาดา ผวจ.อุดรมีชัย กล่าวเป็นภาษากัมพูชากับทหารไทย แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “มีอะไรเราก็ต้องมาคุยกัน ไม่มีใครมาแย่ง หรือเบียดเบียนกัน อยู่ด้วยกัน รักกัน ทุกอย่างปล่อยให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการเกี่ยวกับพรมแดนระหว่างประเทศ เจรจาพูดคุยร่วมกัน ส่วนสถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม ยังคงปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแต่ความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างประเทศ” สำหรับสถานการณ์ระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ในขณะนี้ต่างคงตรึงกำลังในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังรักษาอธิปไตยอย่างเข้มงวด ส่วนปราสาทตาเมือนธมยังคงเปิดให้นักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศเข้าไปเที่ยวชมได้ตามปกติผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในสื่อโซเชียลของชาวกัมพูชา ยังพบคลิปที่แชร์และคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก เป็นภาพเด็กนักเรียน พร้อมพระสงฆ์ และทหารกัมพูชา นำโดย พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย ร.42 ได้พาเด็กๆเข้ามาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม และรวมกลุ่มร้องเพลงปลุกใจ ทำให้ชาวกัมพูชาบางส่วนโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็นในทำนองยกย่องเชิดชูวีรกรรมอันกล้าหาญของ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย ร.42 เป็นฮีโร่ที่กล้าพูดตอบโต้ทหารไทยอย่างดุเดือด ขณะที่ชาวไทยบางคนเข้าไปคอมเมนต์ตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนเช่นกันสำหรับคลิปดังกล่าว เป็นคลิปเมื่อวันที่ 5 ต.ค.67 กองทัพภาคที่ 2 ส่งหนังสือประท้วงไปยังผู้บัญชาการภูมิภาคทหาร ที่ 4 ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 18 ต.ค.67 เป็นการประท้วงครั้งแรก ก่อนจะเกิดเหตุ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ นำคณะแม่บ้านชาวกัมพูชา 25 คน ขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจบนปราสาทตาเมือนธม อีกครั้งเมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 และกองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งหนังสือประท้วงเป็นรอบที่ 2 ไปแล้วเช่นกัน ส่วนการเดินทางมาของนายเนียม จันญาดา ผวจ.อุดรมีชัย และ พล.ต.เนี๊ยะ วงษ์ ผบ.พลน้อย ร.42 พร้อมคณะในครั้งนี้ คาดว่าถูกผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งการลงมาให้เข้ามาพูดคุยเจรจากับฝ่ายไทย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีชาวกัมพูชาขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจบริเวณปราสาทตา เมือนธม ว่า เรื่องนี้กัมพูชาแสดงความเสียใจ เมื่อวันที่ 18 ก.พ. รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรศัพท์ติดต่อมาหาตน ขณะอยู่กับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ตนติดภารกิจลงพื้นที่ต่อเนื่องหลังการประชุม ครม.นอกสถานที่ จ.สงขลา ระหว่างเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ ไม่สามารถติดต่อได้ในบางขณะ เมื่อเวลาราวเที่ยงวัน ได้พูดคุยกัน รมว.กัมพูชาและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แสดงความเสียใจ และกล่าวว่าเรื่องนี้ทางกัมพูชาไม่มีเจตนาให้เกิดขึ้น และพยายามหาทางแก้ไข ส่วนอารมณ์ของทหารหรือบุคคลในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งสองฝ่ายไม่ได้นำมาขยายให้บานปลายออกไปจนกลายเป็นความแตกแยกระหว่างประเทศอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่