คุณภาพชีวิตของมนุษย์ในสังคมโลกและสังคมไทย หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญยิ่งก็คือการได้รับโอกาสทาง “การศึกษา”... ระบบการบริหารจัดการด้านการศึกษาทั้งโดยรัฐ องค์กรเอกชน เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จักปฏิเสธมิได้โดยกฎหมายหลักของประเทศก็คือรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดหลักการ ทิศทาง วางระบบการบริหารจัดการทั้งนโยบายปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็กเยาวชนคนในชาติที่จักช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมืองไปในทิศทางที่เหมาะสมทันต่อเหตุการณ์โลกปัจจุบันภาพสะท้อนน่าห่วงใย ข้อมูลจาก สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ พบว่า มีโรงเรียนร้างไร้เด็กกว่า 346 แห่ง สาเหตุมาจากไม่มีนักเรียนเข้าเรียน ขาดอัตรา ผอ. ครู แจ้งปิดแล้ว 75 โรงเรียน ด้วยเพราะสภาพปัญหาหนึ่งก็คือเด็กเกิดลดน้อยลงขณะที่นโยบายกระทรวงฯก็คือการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กในหลักการที่ว่าต้องเป็นไปตามความสมัครใจ ไม่เป็นภาระของผู้ปกครองและชุมชน โดยเป้าหมายก็คือกว่าหมื่นแห่งทั่วไทยข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวนี้ ปัจจุบันมีโรงเรียนขนาดเล็กคงเหลือ 15,234 แห่ง จากโรงเรียนทั้งหมด 29,082 แห่ง มีโรงเรียนขนาดเล็กที่ประกาศปิดสถานศึกษาสะสม 75 แห่ง ในปี พ.ศ.2568 มีโรงเรียนขนาดเล็กรอประกาศเลิกสถานศึกษาในจำนวน 26 แห่งและ...พบว่ามีโรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนหรือมีนักเรียน 0 คน ในจำนวน 346 แห่งใน 93 เขตพื้นที่ฯ โดยเป็นโรงเรียนที่ไม่มีผู้อำนวยการโรงเรียน ไม่มีกรอบอัตรากำลัง 301 แห่ง มี ผอ.โรงเรียนแต่ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น 4 แห่ง มีกรอบอัตรากำลัง อัตราเงินเดือนแต่ไม่มีคนครองตำแหน่ง 41 แห่งไม่มีข้าราชการครู ไม่มีกรอบอัตรา 259 แห่ง และมีข้าราชการครูแต่ไปช่วยราชการโรงเรียนอื่น 82 แห่ง... เฉลิมพล พลมุข ประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ บอกว่า สภาพปัญหาข้างต้นนี้มีมาอย่างต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าสองหรือสามทศวรรษแล้ว คำถามสำคัญมีว่า...ทิศทางของระบบการศึกษาไทยเราในวันนี้เป็นเช่นไร? ฤาว่าจะให้สถานการณ์เช่นนี้เป็นไปอีกสักสองหรือสามทศวรรษข้างหน้า“การที่สังคมไทยเรามีโรงเรียนที่ร้างจำนวนมากมายนั้น ข้อเท็จจริงที่จักปฏิเสธมิได้ก็คือแนวนโยบายของรัฐเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการกระจายสถานศึกษาไปทุกหนแห่งของเมืองไทย โรงเรียนหลายแห่งในปัจจุบันมีอาคารเรียน อาคารต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกต่อระบบการศึกษาในสมัยที่มีนักเรียนมาก”เมื่อมาถึงยุคปัจจุบันจำนวนนักเรียนเข้าเรียนมีจำนวนลดน้อยลง โรงเรียนที่มีอาคารสถานที่จำนวนมากกับสัดส่วนนักเรียนที่ลดน้อยคงดูเสมือนเมืองร้าง ก็คงสภาพปัญหามาถึงยุคปัจจุบัน...ข่าวหรือเรื่องราวหนึ่งในแวดวงการศึกษาก็คือ ครูผู้สอนที่บรรจุเป็นข้าราชการใหม่ เมื่อเข้าไปเจอกับระบบที่มีหน้าที่การงานหลายด้าน ครูบางคนต้องทำหน้าที่ฝ่ายโภชนาการปรุงอาหารให้นักเรียน ทำหน้าที่เป็นภารโรง ทำหน้าที่ซ่อมแซมอุปกรณ์การเรียนโต๊ะเก้าอี้ ทำหน้าที่เป็น รปภ.รักษาความปลอดภัยให้กับโรงเรียนหรือ...เราท่านเคยเป็น ผอ.โรงเรียนต้องตัดหญ้าในสนามฟุตบอลของนักเรียน ในที่สุดครูบางคนต้องประกาศลาออกจากข้าราชการ ซึ่งปรากฏในโลกของโซเชียลอยู่เนืองๆหรือก่อนหน้านี้ กรณีครูที่ต้องการทำโทษนักเรียนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ ชู้สาว สูบบุหรี่ไฟฟ้า เล่นการพนัน ทำร้ายร่างกาย การทำโทษที่เกินกว่าเหตุ นักเรียนหลายคนก็ถ่ายภาพ อัดคลิปแล้วส่งผ่านของโลกออนไลน์ การที่ครูคนหนึ่งจะใช้ไม้เรียวตีนักเรียนเสมือนครูสมัยก่อนก็ทำไม่ได้ ผิดระเบียบกระทรวงฯ “ความเป็นครูยุคนี้หลายคนถึงกับพูดว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก อะไร สิ่งใดคือสิ่งที่เหมาะสม ควรมิควร ถูกผิดสำหรับครูหรือนักเรียนยุคนี้”อีกสิ่งที่เราท่านได้พบเห็นเชิงประจักษ์ก็คือในโรงเรียน ทั้งระดับปฐมวัย ประถมศึกษา มัธยมศึกษาจะมีนักเรียนที่เป็นคนต่างด้าวในประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศไม่น้อยมาเรียนแถมผลการเรียนอยู่ในระดับดี พฤติกรรมความประพฤติเป็นที่ประทับใจของครูประจำชั้น การเรียนภาษาไทย ภาษาอังกฤษอยู่ในระดับดีเช่นกันหากเปรียบเทียบกับเด็กไทยบางคน...ครูหลายคนถึงกับให้ความเห็นว่าน่าเป็นห่วงคุณภาพของเด็กไทยเรา...นอกจากปัญหาจำนวนเด็กไทยในโรงเรียนจำนวนหนึ่งลดน้อยลงแล้ว เรายังมีเด็กที่พิการ ตาบอด หูหนวก แขนขาพิการ เด็กพิเศษประเภทต่างๆ อาทิ เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กออทิสติกนับรวมไปถึงเด็กเยาวชนที่กระทำความผิดกฎหมายของบ้านเมืองถูกจองจำในทัณฑสถาน เด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา เด็กที่ครอบครัวมีปัญหาการหย่าร้างของพ่อแม่เข้าสู่แรงงานเด็ก เด็กไร้บ้าน ยาเสพติด ขายบริการทางเพศ ถูกทำร้ายร่างกาย เขาเหล่านั้นต่างเป็นคนไทยเกิดในแผ่นดินไทย เชื้อชาติไทย สัญชาติไทยเราท่าน (ผู้ใหญ่) ในบ้านเมือง จะช่วยสร้างอนาคตในเส้นทางชีวิตพวกเขาได้อย่างไร...?เฉลิมพลคลุกคลีอยู่ในแวดวงการศึกษามาครึ่งค่อนชีวิต ได้พบเห็นความจริงเชิงประจักษ์ในหลากหลายบริบท ทั้งนโยบายจากเจ้ากระทรวงฯ ผ่านขั้นตอนการบริหารจัดการมายังคนทำงานทั้งผู้สอนในระดับล่างเพื่อให้ศิษย์เป็นคนดี มีความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม ที่สามารถนำพาชาติบ้านเมืองให้อยู่รอดในวันข้างหน้า“วันนี้ครูผู้สอนมีหนี้สินจำนวนมาก ขวัญกำลังใจขาดหายไปจากภาระงานที่ถูกประเมินด้วยระบบเอกสาร ค่าของคนอยู่ที่คนของใคร หลายคนผ่านวันเวลาไปสู่วันแห่งการเกษียณสุขก็นับว่าเป็นบุญวาสนาของคนคนนั้นที่ไม่เจ็บป่วยตายไประหว่างการทำงาน อะไร...สิ่งใดคือความปรารถนาสูงสุดของระบบการศึกษาไทย”“ระบบการศึกษาไทย” ท่ามกลางวิถีแห่งบริโภคนิยม วัตถุนิยม เงินนิยม อำนาจนิยม เทคโนโลยีนิยม โรงเรียนสถาบันการศึกษามีแนวโน้มปิดตัวหรือร้างมากขึ้น เราท่านทั้งหลายรวมทั้งรัฐคงจะมิได้นิ่งเฉยที่จะให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ต่อไป เฝ้ารอ...“อัศวินม้าขาว” มากู้ชาติบ้านเมืองในเรื่องนี้­.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม