จับแก๊งหลอกลงทุนขายสินค้า แบรนด์เนมอ้างให้ดอกเบี้ยสูง นักธุรกิจตกเป็นเหยื่อระนาว มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท ชุดจับกุมเข้าตรวจค้นบริษัทกลางกรุงพบเปิดเอาไว้บังหน้าเท่านั้น ทั้งบริษัทมีพนักงานแค่คนเดียว แผนประทุษกรรมแปดเหลี่ยมสิบสองคมวางอุบายจ่ายเงินปันผลให้ช่วงแรกๆ พอเหยื่อติดกับระดมเงินลงทุน เพิ่มก็หอบเงินหนี ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธอ้างเกิดปัญหาทางธุรกิจจ่ายค่าตอบแทนไม่ได้รวบแก๊งหลอกลงทุนขายของแบรนด์เนมมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 200 ล้านบาท เปิดเผยขึ้น วันที่ 24 ม.ค. พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รรท.ผบก.ปอศ. แถลงข่าว พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ. จับกุม น.ส.ดวงกมล ตาทอง อายุ 41 ปี นายภิญโญ บุญชู อายุ 40 ปี น.ส.ขวัญสุด ตาทอง อายุ 42 ปี และนายนิธาน ชัยเนตร อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 352-325/2568 ลงวันที่ 20 ม.ค.68 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม และสมุดเช็ค 8 เล่ม จับกุม น.ส.ดวงกมลได้บริเวณริมถนนมิตรภาพ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจับได้ในพื้นที่กรุงเทพฯและ จ.นนทบุรีสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 มีผู้เสียหายเกือบ 20 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจแจ้งความพนักงานสอบสวนที่ กก.4.บก.ปอศ. ว่า น.ส.ดวงกมลรู้จักกันผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง อ้างตัวเป็นนักธุรกิจชั้นนำและเป็นเอเจนซีบริษัทสินค้าแบรนด์เนมดัง อีกทั้งส่งพนักงานเชียร์สินค้าลงไปที่ร้านค้าตามห้างดัง น.ส.ดวงกมลหลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูงใช้อุบายทำสัญญากู้ยืมเงินจ่ายผลตอบแทนร้อยละ 5-10 ต่อเดือน ช่วงแรกจ่ายเงินค่าตอบแทนจริง ผู้เสียหายหลงเชื่อระดมเงินลงทุนเพิ่มรวมเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท จากนั้นผู้ต้องหาเบี้ยวไม่จ่ายเงินค่าตอบแทนรู้ตัวว่าถูกหลอก ผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้นจากการตรวจสอบแผนประทุษกรรมพบว่า ผู้ต้องหาจ่ายดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนในอัตราที่สูงหลอกล่อพอเหยื่อติดกับ จากนั้นเปิดระดมเงินทุนหลอกเหยื่อรายใหม่ นำเงินที่ได้ก่อนหน้านี้บางส่วนไปจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนรายเก่า ทำให้หลงเชื่อว่าทำธุรกิจได้รับผลตอบแทนจริงสุดท้ายก็เชิดเงินไป ตรวจสอบเส้นทางการเงินกลุ่มผู้ต้องหาพบว่าภายในระยะเวลา 10 ปี มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,100 ล้านบาทชุดจับกุมนำกำลังเข้าตรวจค้นบริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาย่านวังทองหลาง กทม. พบว่าทั้งบริษัทมีพนักงานสาวเพียงแค่คนเดียวทำหน้าที่เฝ้าบริษัท สอบปากคำให้การว่า บริษัทไม่ได้ประกอบธุรกิจใด พนักงานคนอื่นออกไปหมดแล้ว จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริงระยะหลังติดขัดปัญหาทางธุรกิจ ไม่ได้จ่ายผลตอบแทนให้ผู้ลงทุน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่