เรื่องเล่าเรื่องเสือผาด โลดโผนพิสดาร จากปากของ “ป้าจง” ป้าแท้ๆ ของนิพัทธ์พร เพ็งแก้ว (นักเล่านิทานและเรื่องอื่นๆ สวนเงินมีมาพิมพ์ พ.ศ.2562) ที่ผมลอกไปเขียนหนึ่งตอน...เหมือนจะจบ แต่ยังไม่จบเสือผาด ตาแก่แขนขวาขาด ที่ตามมาถึงร้าน (กาแฟ) เจอยายทองอยู่ ลูกสาวคนโตตอนนั้นอายุ 16-17 ปี ขอร้องให้เรียกแม่ (ทวดนาก) ลงจากชั้นบนบ้านมาให้เห็นหน้า...แต่ทวดนากที่ยังแค้นฝังใจ ทั้งด่าทั้งไล่แต่ลูกสาวคือยายทองอยู่นั้น ยังไงๆเสือผาดก็คือพ่อ จึงได้ฟังเรื่อง การปล้นครั้งสุดท้าย พลาดท่าถูกคนทางการรุมฟันรุมแทง...แต่ไม่เข้า สุดท้ายถูกจับได้พวกข้าราชการหมั่นไส้ความหนังเหนียว ช่วยกันเอาไม้ทุบแขน จนกระดูกแตกละเอียดต้องตัดแขนทิ้งคดีถึงขั้นศาลตัดสิน ทีแรกจะประหารเอาหลาวเสียบทวาร แต่รัชกาลที่ 5 ท่านเห็นว่าคนอาคมแรงแบบนี้หาดูตัวไม่ได้แล้ว ทรงไว้ชีวิตด้วยเหตุผล “ให้เก็บเอาไว้ดูสักคน”เจอหน้าลูกสาว บอกข่าวสุดใจน้องชายทำไร่อยู่สุพรรณฯ ป้าจงเล่า พี่สาวน้องชายยังติดต่อไปมาหาสู่กันอีกนาน จนคุณยายแต่งงานกับก๋ง มีลูกหลายคน สงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องหลบระเบิดย้ายบ้าน ยายขาดการติดต่อกับน้องชาย เสร็จสงครามก็กระจัดกระจายพลัดพราย ตามกันไม่เจออีกเรื่องน่าจะจบได้แล้วแค่นี้ แต่นักเล่านิทานอย่างนิพัทธ์พรไม่จบง่ายๆ เพื่อนรักรุ่นพี่ธรรมศาสตร์ ชื่อเลี้ยบ เป็นคนละแวกบางเลน สองพี่น้องอุตส่าห์ไปหาเรื่องเสือผาดมาเติมให้รสการเล่าสะเด็ดน้ำยิ่งขึ้นเรื่องเล่าตอนนี้ เกิดหลังคุยไปดื่มไป บนหลังคาเรือข้ามฟากท่าช้าง–วังหลัง พ่อของเลี้ยบเล่าว่ารู้จักเสือผาดดี เพราะปู่เป็นลูกน้องเสือผาดเต็มตัว“ครั้งหนึ่งพวกลูกน้องไปปล้นองค์กฐิน ยกทะเล่อทะล่าเข้ามา เสือผาดโกรธฉิบหายเลย...บอก ซวยตายห่า ไปเอาเงินทำบุญของชาวบ้าน” แล้วก็ไล่ให้ลูกน้องรีบขนของเอาไปคืน...แถมเงินติดองค์กฐินไปอีกฟ่อนพ่อเลี้ยบบอกเสือผาดเป็นคนกว้างขวาง ดุ เด็ดขาด คุ้มครองหมู่บ้านแถวบางเลนสองพี่น้อง ไม่เคยมีใครเข้าไปเกะกะเกไรได คนรุ่นพ่อ รักกันทั้งนั้นพิจารณาเนื้อหาเรื่องเล่าจากปากป้าจง มาถึงงานเขียนหลานนิพัทธ์พร จบด้วยเรื่องที่เลี้ยบเล่า ยกเรื่องโลดโผนพิสดารออกบ้าง เสือผาดเป็นไอ้เสือที่มีคุณธรรม มีความรักมั่นคง เป็นพระเอกไอ้เสือเต็มตัวผมเองบังเอิญมีเรื่อง “เสือผาด ทับสายทอง” เสือผาดฉบับที่สอง เกิดในพื้นที่นครปฐม ก่อน พ.ศ.2500 ถูกนายอำเภอ สันต์ เอกมหาไชย พิชิตได้ แล้วเอาลูกชายเสือผาด ชื่อ “วิเชียร”มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมตอนคุณสันต์เป็นผู้ว่าฯสมุทรสาคร วิเชียรเกเรหนีโรงเรียนมาเป็นคนเรือโป๊ะปลาทู “เฮียหนู” ลูกผู้พี่ผม บ้านติดกันในคลองบางเรือหัก แม่กลอง “ไจ๊” น้องเฮียหนูเคยเที่ยวด้วยกันเล่าวิเชียรมีเลือดไอ้เสือเต็มตัว ไม่กลัวใครเลยตอนไจ๊เข้าโรงเรียนนายสิบทหาร เจอวิเชียรบอกว่ามีเมียแล้ว กลับตัวเป็นคนดีแล้ว ต่อมาไจ๊ได้ข่าวมีคนเจอวิเชียรในคุก ไม่ได้ซักว่าโทษฐานอะไรผมยังจำหน้าวิเชียร จำเสียงเรียก “ไอ้หน้าปาน” เขามีปานปื้นใหญ่ที่แก้ม เวลาเนิ่นนานผ่านมาวันนี้ รุ่นๆผมก็ใกล้ 80 ปี วิเชียรลูกเสือผาด เป็นตายร้ายดีอยู่ที่ไหน ไม่มีใครได้ข่าวตอนแรกที่อ่านเรื่องเสือผาดฉบับนิพัทธ์พร ผมยังนึกว่าน่าจะเป็นเสือผาดคนเดียวกัน แต่เมื่อดูตามอายุ ตำนานรักอมตะ เสือผาดกับทวดนาก เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนเสือผาดฉบับผู้ว่าฯสันต์ เกิดในสมัยรัชกาลที่ 9บทสรุปเรื่องของผมวันนี้ ไอ้เสือปล้นสมัยโบราณ...เสือผาดปู่ทวดนิพัทธ์พร เอาลูกอ่อนมัดอก เอาเสื้อยันต์คาดทับ ออกปล้นเปิดหน้าเป็นมหาโจรเต็มที่ หรือเสือผาด 2 บอกงานบุญวันไหน คนเรียกคุณพระไปช่วยเต็มเมืองแตกต่างจากขุนโจรยุคใหม่...มาในมาด นักบุญ นักรับเรื่องร้องทุกข์ คนจิตอาสา พอถูกจับได้ก็อ้างว่าเงินที่ปล้นเป็นเงินแจกคืนชาวบ้าน น่าเวทนา! ไอ้เสือหน้าไม่อาย พวกนี้เสียจริงๆ.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม