ลงเอยด้วยบทลงโทษสถานหนักศาลจังหวัดสมุทรปราการอ่านคำพิพากษา คดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งฐานบัญชาการอยู่ตึกประตูดำ เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.1541/2565 มี น.ส.เจนนิสา กับพวกรวม 13 คนเป็นจำเลย หลอกลวงผู้เสียหาย 300,000 กว่าบาท แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตร.นำกำลังสืบสวนขยายผลออกหมายจับกว่า 58 รายก่อนประสานทางการกัมพูชาบุก ทลายรังใหญ่ นำตัวคนไทยกลับมาดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานโจทก์ แล้วเชื่อว่า จำเลยสมัครใจทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำหน้าที่ สาย 1 แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เฟดเอกซ์ และฝ่ายปลอมเอกสารจริงข้ออ้างที่จำเลยว่า ถูกบังคับไม่พอรับฟัง มีความผิดทุกข้อกล่าวหา พิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 5 ปี 108 เดือนส่วนเจ้าของบัญชีธนาคาร หรือ “บัญชีม้า” ทำหน้าที่รับโอนเงิน เห็นว่าการส่งมอบบัญชีและโทรศัพท์ให้คนอื่นนำไปใช้ “วิญญูชน” ย่อมควรจะรู้ว่า สามารถนำไปใช้กระทำผิดได้สื่อมีการนำเสนอข่าวประชาสัมพันธ์เป็นประจำพิพากษาจำคุก 3 ปี 100 เดือน.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม