นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร (กสก.) เผยว่า องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ภายในปี 2050 จะมีประชากรโลกเพิ่มขึ้นถึง 9.9 พันล้านคน ทำให้ความต้องการผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาโลกร้อน ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ ทำให้แมลงผสมเกสรและผลผลิตการเกษตรลดน้อยลงทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ “หากไม่มีแมลงช่วยผสมเกสร ผลผลิตพืชจะน้อย รวมทั้งหากพืชมีการผสมเกสรไม่เต็มที่ ผลผลิตที่ได้ก็จะบิดเบี้ยว ไม่สมบูรณ์ ไม่มีคุณภาพ ดังนั้น การใช้แมลงช่วยผสมเกสรเพื่อเพิ่มผลผลิต จึงมีความจำเป็นและเป็นที่ยอมรับของประเทศต่างๆทั่วโลกว่าได้ผลดี และรายงานของ FAO ยังระบุปริมาณผลผลิตของพืชอาหาร ร้อยละ 35 ขึ้นอยู่กับการผสมเกสรของแมลงตระกูลผึ้งอีกด้วย”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวอีกว่า ชันโรง หรือผึ้งจิ๋ว เป็นแมลงช่วยผสมเกสรในสวนผลไม้และพืชผักเกือบทุกชนิด ไม่มีพฤติกรรมทิ้งรัง ไม่เลือกตอมดอก ทำให้ผสมเกสรพืชได้ดีกว่าผึ้ง “การเลี้ยงชันโรงสามารถเลี้ยงได้ทั้งรูปแบบอยู่กับที่หรือเคลื่อนย้ายไปตามแหล่งอาหาร โดยนิยมเลี้ยงในกระบอกไผ่ ในกล่องหรือลังไม้ เพราะนอกจากจะช่วยควบคุมอุณหภูมิได้ดีแล้ว ยังเป็นวัสดุที่หาง่าย ราคาไม่แพง คงทน สำหรับการวางรังชันโรง ควรวางกระจายครอบคลุมพื้นที่ในช่วงที่พืชอาหารมีดอกบาน โดยจะต้องดูความเหมาะสมของสถานที่ที่มีความปลอดภัยจากสารเคมี สภาพลมฟ้าอากาศที่ไม่ร้อนจัดและหนาวจัด มีหลังคาหรือวัสดุคลุม มีขาตั้งรังเพื่อป้องกันศัตรู เช่น ไก่ นก มด มวน คางคก จิ้งจก จิ้งเหลน เป็นต้น รวมทั้งเป็นบริเวณที่มีแหล่งอาหาร เช่น ยางไม้ เกสรน้ำหวานดอกไม้ และแหล่งน้ำตลอดปี”นายพีรพันธ์ แนะนำผู้ที่จะเลี้ยงชันโรงจำเป็นต้องแยกขยายรัง ซึ่งจะต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้เลี้ยงเป็นสำคัญ โดยต้องอยู่ในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมที่ชันโรงรังนั้นมีความต้องการที่จะขยายรังอยู่แล้ว ต้องทำในช่วงฤดูดอกไม้บาน มีการสะสมอาหารไว้ภายในรังเป็นจำนวนมาก และภายในรังได้มีการสร้างชันโรงตัวผู้จำนวนมากสำหรับการผสมพันธุ์กับนางพญาชันโรงตัวใหม่ ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตชันโรง ชุดที่ปฏิบัติงานควรเป็นผ้าร่ม หลีกเลี่ยงสีดำ มีหมวกตาข่ายไว้ช่วยป้องกันด้วย โดยจะใช้มีดตัดถ้วยน้ำหวาน วางบนภาชนะที่มีผ้าขาวบาง ใช้ช้อนกดให้น้ำผึ้งไหลลงมาที่ภาชนะ ส่วนกากที่เหลือจากการบีบจะได้เป็นพรอพอลิส น้ำผึ้งที่ได้จากชันโรงมีสีค่อนข้างเข้มดำ มีความเป็นกรดสูง มีรสเปรี้ยว มีคุณประโยชน์สูงทางโภชนาการ โดยมีสารอาหารมากกว่า 22 ชนิด สามารถนำไปผสมกับเครื่องสำอาง อาหารและยา ส่วนชันของชันโรง หรือพรอพอลิส เป็นสารปฏิชีวนะในธรรมชาติ มีสารประกอบโฟลวานอยส์ และสารต้านอนุมูลอิสระจากพืชที่มีคุณสมบัติต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อรา และมีคุณสมบัติยับยั้งการอักเสบได้ดี ทำให้ผลผลิตจากชันโรงมีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีการส่งออกน้ำผึ้งชันโรงไปขายต่างประเทศ แต่เกษตรกรยังผลิตได้ไม่ทันต่อความต้องการ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีราคาสูง โดยน้ำผึ้งชันโรงให้ผลผลิตน้ำผึ้งเฉลี่ย 300-500 กรัม/รัง จำหน่ายได้ในราคาเฉลี่ย กก.ละ 1,500-2,000 บาท สูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลงเศรษฐกิจจังหวัดชุมพรและเชียงใหม่ ศูนย์ส่งและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดจันทบุรี ขอนแก่น และอุตรดิตถ์ หรือติดต่อกลุ่มส่งเสริมแมลงเศรษฐกิจ กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2940-6102.คลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม