จัดเต็มเอาใจชาวร็อก นักร้องนักแสดงหนุ่ม “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล” แถลงข่าวเปิดตัวบริษัท ชูก้า ไฮ เอ็นเตอร์ไพร์ส บริษัทเกี่ยวกับด้านเอนเตอร์เทนเมนต์เต็มรูปแบบ เตรียมผลิตทั้งซีรีส์ ละคร คอนเสิร์ตและอื่นๆอีกมากมาย สั่งสมประสบ การณ์ในวงการบันเทิงมามากกว่า 30 ปี พร้อมเต็มที่และมีพาร์ตเนอร์ระดับฮอลลีวูด ประเดิมงานแรกกับการจัดคอนเสิร์ตร็อกสุดยิ่งใหญ่แห่งปี กับ คอนเสิร์ต “PETER FLY Y NOT 7 แล้วไง...ใจยังร็อค” รวมตัวศิลปินร็อกชั้นนำระดับคุณภาพในยุค 90’s ต้นฉบับออริจินอล ตำนานร็อกขวัญใจคนไทย ทั้งนักร้องหนุ่มเสียงทุ้ม รอยยิ้มกระชากใจ “ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรลดัล” และวงร็อกฮิตอมตะเจ้าของท่าเต้นและบทเพลงเป็นตำนานอย่างวง “FLY” ร่วมด้วย วงร็อกนักร้องหนุ่มผมยาวเสียงเป็นเอกลักษณ์อย่างวง “Y not 7 ทั้ง 3 ศิลปินได้กลับมารวมตัวกัน ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว จัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 ณ BITEC LIVE “ปีเตอร์” เผยถึงคอนเสิร์ตและอัปเดตหัวใจ เริ่มจาก “คอนเสิร์ตครั้งนี้ถือเป็นการเซอร์ไพรส์และตั้งใจทำเพื่อแฟนคลับโดยเฉพาะ เพราะว่าศิลปินแต่ละวงไม่ได้ร้องเพลงเต็มวงแบบออริจินอลดั้งเดิม หรือร่วมวงโชว์แบบต้นฉบับร่วมกันมานานกว่า 20 ปี ซึ่งคอนเสิร์ตนี้เป็นการกลับมารวมตัวกันครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ที่จะไม่ได้หาดูได้ง่ายๆ ของปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, อี๊ด และสมาชิกวง Fly ออริจินอลครบทั้งวง รวมถึงเหน่ง และวง Y not 7 ที่มาครบเต็มวงเช่นกัน ส่วนในเรื่องการทําโชว์ ผู้ชมจะได้รับชมรูปแบบการทำ showbiz ที่มีเรื่องราว โปร ดักชันที่จัดเต็ม การระดมทีมมืออาชีพในทุกด้านมาร่วมงาน รวมถึงศิลปินรับเชิญสุดเซอร์ไพรส์ที่เตรียมไว้เป็นโชว์พิเศษที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน งานนี้แฟนๆเตรียมโยกหัวไปกับจังหวะร็อกแท้ๆกันได้เลย รับรองว่าเดือด ถึงใจชาวร็อกกว่าคอนเสิร์ตไหนๆที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซื้อบัตรที่ ThaiticketMajor ทุกสาขาครับ”กับบริษัทใหม่แฟนเข้ามาช่วยเรื่องงานมั้ย?“(หัวเราะ) ไม่ครับ เรื่องงานเราแยกชัดเจน จริงๆต้องบอกว่าสำหรับคู่รักการที่จะมาทำงานด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ เพราะเรื่องงานต้องมีอยู่แล้วที่บางทีเราเห็นไม่ตรงกัน ก็อาจจะมีเรื่องโต้เถียงกัน บางทีก็อาจจะถึงขั้นทะเลาะกัน หรือแค่ไม่พอใจหรือ งอนกันเสร็จก็จะมีปัญหาในชีวิตส่วนตัวต่อ เพราะงานมันจะไม่ถูกทิ้งไว้ที่ออฟฟิศอย่างเดียว พอกลับไปบ้านก็ยังเป็นเรื่องงานอยู่ หรืออารมณ์ค้างอะไรก็ว่ากันไป ก็อาจจะมีทะเลาะกันได้ แต่ซัพพอร์ตทางใจอันนั้นแน่นอนครับ (หัวเราะ)”เราก็มีตามไปซัพพอร์ตเค้าตามงาน?“ก็มีคนได้เห็นเค้าบ้างแล้วครับ จริงๆก็ไม่ได้ปิดบังอะไรนะครับ เดินห้างก็เดินจูงมือกันเหมือนคู่รักทั่วไป แต่ก็แค่ไม่ได้เปิดเผย เพราะอยากจะรักษาความเป็นส่วนตัวเค้าและครอบครัวเค้าด้วย เราก็รู้กันดีกว่าการที่มีคนชมก็ต้องมีคนว่า ซึ่งคนที่อยู่นอกวงการบันเทิงอาจจะรับมือไม่ไหว จริงๆเค้าเองก็รู้อยู่แล้วว่ามันอาจจะมีทั้งแง่ลบและแง่บวก คนชมบ้างก็ต้องมีว่าบ้าง แต่เราสองคนก็มีความรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปเปิดประตูตรงนี้” กลัวเค้าจะรับไม่ไหวมั้ยเรื่องคอมเมนต์ต่างๆ?“เอาจริงๆ ผมอยู่วงการบันเทิงมาถ้านับตั้งแต่ถ่ายแบบตอนนี้ก็ 31 ปี จะเข้า 32 ปีแล้ว ผมก็เจออะไรมาเยอะ ซึ่งก็ทำให้เราชินในบางส่วน หนังเราต้องหนาหน่อย บางทีมันก็มาดี หรือไม่ทุกอย่างมันก็จะมาแย่ ซึ่งถ้าเรารู้สึกกับมันเยอะจนเกินไปชีวิตเราคงจะไม่มีความสุข ซึ่งเราดูแบบอย่างจากน้องๆ บางคนได้ พอเข้ามาวงการใหม่ๆ อยู่ๆดังขึ้นมา แต่วันนึงอยู่ๆกระแสพลิกมีแต่คนเข้าไปว่า เค้าก็รับมือไม่ค่อยไหว น่าสงสารมาก ถ้าเป็นเมืองนอกที่วงการบันเทิงใหญ่ยิ่งกว่านี้อีก มันถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้าหรือแย่กว่านั้นก็มี เพราะฉะนั้นเอาจริงๆวงการบันเทิงมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะอยู่ยาก เราก็ค่อยๆโตน่าจะดี เราจะได้ชินกับการเป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงในวันข้างหน้า ซึ่งอย่างแฟนผมเค้าไม่ได้เป็นคนในวงการบันเทิง ผมก็เลยอยากจะให้เค้ามีเซฟโซนของเค้า” เวลาคนอยากรู้ว่าเค้าเป็นใคร เค้ารู้สึกยังไง?“เค้าเฉยๆเพราะเค้าไม่ได้อยากจะดัง คือเค้าไม่ใช่คนประเภทหิวแสง ต้องการให้รู้ว่าฉันเป็นคนนั้นคนนี้ เค้า บอกว่าเค้าอยู่เงียบๆดีแล้ว (หัวเราะ)” เวลามีคนชมว่าแฟนสวยรู้สึกยังไง?“เป็นใครก็ต้องรู้สึกดีครับ มีคนชมว่าแฟนสวย แฟนน่ารักก็ต้องรู้สึกดีอยู่แล้ว แต่เค้ารู้สึกยังไงเดี๋ยวผมไปถามให้ (หัวเราะ) วันนี้ผมก็ชวนมานะ แต่เค้าบอกว่า วันนี้มันเป็นงานของผม ก็อยากให้ข่าวมันเป็นเรื่องของงานที่กำลังจัด เพราะเป็นการเปิดตัวบริษัท ซึ่งถ้าเค้ามา เค้าก็กลัวว่าจะเป็นเรื่องข่าวระหว่างผมกับเค้า ซึ่งจะแย่งความสนใจไปจากงาน” จะมีวันที่พาออกงานด้วยกันมั้ยเพราะสวมแหวนไปแล้ว?“ก็อาจจะสักวันนึงครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ความคลั่งรักเพิ่มขึ้นวันละนิดวันละหน่อยนะ ก็เป็นเรื่องที่คุยกันเองด้วยนะ เป็นเรื่องตลกมาก คือปกติจะมีช่วงโปรใช่มั้ย แล้วเดี๋ยวมันก็จะหมดโปร แต่เราก็แซวกันเองว่าของเรามันเหมือนโปรวัตสันนะ มีโปรทั้งปีเลย (หัวเราะ)” เราสองคนเป็นคนชอบสัมผัสตัวกันมั้ย?“มันเป็นเรื่องปกตินะสำหรับผม แต่ผมว่ามันจะมีความน่ารักที่ผมก็ไม่เคยเจอมาก่อน เหมือนต่างคนต่างอ้อนกัน เอง มันจะมุ้งมิ้ง น่ารักๆ ปกติเวลาผมไปข้างนอกก็จะเหมือน เป็นสิงโต แต่พอเจอกับเค้าก็ต่างคนกลายเป็นลูกแมวน่ารักๆ (หัวเราะ)” เรื่องแต่งงานล่ะ?“คือเราต่างดำเนินชีวิตด้วยเหตุและผล ซึ่งมันยังไม่ใช่จังหวะตอนนี้ เพราะเหตุผลคือเรากำลังลุยงานกันอยู่ เค้าก็มีงานของเค้า ตอนนี้บริษัทใหม่ก็เพิ่งเปิดตัว อยากให้ทุกอย่างมันลงตัวก่อน เดี๋ยวถ้าจังหวะมันใช่ ทุกอย่างมันลงร่องของมันได้ประมาณนึง ก็อาจจะเป็นจังหวะค่อยว่ากันอีกที”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่