“ศูนย์เซนทริโก พุ่งเป้าให้เกษตรกรเป็นศูนย์กลางทางเกษตรกรรม ขณะเดียวกันก็นำเสนอโซลูชันแบบ end-to-end รวบรวมพันธมิตรชั้นนำจากอุตสาหกรรมต่างๆของไทย มาช่วยให้ความรู้กับเกษตรกรตั้งแต่การเพาะปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยว เพื่อให้เกษตรกรสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคต่างๆในการเพิ่มผลผลิตและทำกำไรได้สูงขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคท้องถิ่น และการส่งออกของประเทศได้ โดยเครือข่ายความรู้และบริการของเซนทริโกจะช่วยให้เกษตรกรไทยเข้าถึงโซลูชันทางการเกษตร เทคโนโลยี และวิธีทำการเกษตรแบบยั่งยืน สามารถเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้นำด้านการเกษตรสมัยใหม่ในประเทศ ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะจัดหาปัจจัยการผลิต การป้องกันศัตรูพืช การใช้โดรน และเทคโนโลยีทางการเกษตรที่หลากหลายมาให้ความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์และผ่านทางศูนย์โดยตรง” นายอเล็กซานเดอร์ เบอร์คอฟสกี ผู้อำนวยการบริหารภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซินเจนทา กรุ๊ป เล่าถึงที่มาของศูนย์เซนทริโก (CENTRIGO) ที่พร้อมเปิดให้บริการแก่เกษตรกรไทยแห่งแรก ณ ต.หัวเรือ อ.เมือง จ.อุบลราชธานีเลือกอุบลฯเป็นที่ตั้งศูนย์ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญในการปลูกพืชเศรษฐกิจของภาคอีสาน โดยเฉพาะพริกหัวเรือ ที่นิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ มีการส่งออกทุกวันประมาณวันละ 10 ตัน มีเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกพริกในตำบลหัวเรือกว่า 3,000 ไร่ สามารถสร้างรายได้ให้กับกลุ่มเกษตรกร ชาวบ้านในชุมชน เพราะปลูกครั้งเดียวแต่เก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่การปลูกพริกให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ เราต้องมีความรู้ความเข้าใจในการปลูก รวมถึงการดูแลพริกให้มีขนาดใหญ่ สีสด มีความเผ็ด หอม เพื่อให้พริกได้ราคาดีเป็นที่ต้องการของตลาดที่บางครั้งเกษตรกรยังเข้าถึงองค์ความรู้แบบครบวงจรได้ค่อนข้างยาก เซนทริโกจึงเข้ามาช่วยเหลือด้วยการนำเสนอโซลูชันทางการเกษตรแบบองค์รวม มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่มุ่งมั่นในการให้คำแนะนำแก่กลุ่มเกษตรกรตลอดกระบวนการเพาะปลูก เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรให้มากขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และวิธีการเกษตรแบบยั่งยืน หวังยกระดับรายได้ของเกษตรกร นอกจากนี้ยังได้ขยายขอบเขตการเข้าถึงภาคเกษตรกรรมต่างๆ โดยการสนับสนุนเกษตรกรในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้โดรนเพื่อการเกษตร ที่จะมีทีมงานมืออาชีพมีประสบการณ์ให้การสนับสนุนความรู้ด้านพืชไร่ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั้งนี้ ในเอเชียซินเจนทาได้เปิดดำเนินการศูนย์เซนทริโกแล้วในบังกลาเทศ อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถาน โดยปัจจุบันนี้ เกษตรกรไทยสามารถใช้บริการที่ศูนย์ได้โดยตรง หรือเข้าถึงคำแนะนำในการเกษตรผ่านแอปพลิเคชันครอปไวซ์ โกรเวอร์ (Cropwise Grower) ของซินเจนทา จะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการช่วยเหลือต่างๆเช่นกัน.กรวัฒน์ วีนิลคลิกอ่าน “ข่าวเกษตร” เพิ่มเติม
