ชั่วโมงนี้ในแวดวงของโลกเทคโนโลยีคงไม่มีใครโดดเด่นเท่ากับ Nvidia (อินวิเดีย) เพราะกระแสของโลก AI (ปัญญาประดิษฐ์) ได้เห็นการพัฒนาในช่วงข้ามวัน ทำให้การใช้งาน AI โดยเฉพาะการใช้ ChatBot AI เติบโตรวดเร็วแบบทวีคูณมากกว่าการขยายตัวในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอื่นๆส่งผลให้ความต้องการใช้ชิป AI เติบโตขึ้น นับเป็นเป็นหัวใจสำคัญในการเป็นพลังขับเคลื่อนการประมวลผลข้อมูลมหาศาลเหมือนการจำลองการเรียนรู้การประมวลผลโครงประสาทสมองของมนุษย์ ยิ่งโลกแห่กันใช้ AI มากขึ้นเท่าไร ยิ่งทำให้ยอดขายชิปสูงขึ้น จากข้อมูลอัปเดตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หุ้น Nvidia มีมูลค่าราคาตลาด (Market Cap) ในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ สูงกว่า 2.28 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ในลำดับที่สาม ต่อจากแอปเปิล ที่อยู่ลำดับสองมูลค่า 2.64 ล้านล้านบาท และอันดับหนึ่งไมโครซอฟท์ มูลค่า 3.19 ล้านล้านดอลลาร์เจนเซน หวง ซีอีโอ Nvidia เคยแสดงความเห็นไว้ว่า เด็กยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องเรียนการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์อีกต่อไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AI ในอนาคตจะมีความสามารถเขียนโค้ดได้เก่งกว่ามนุษย์ ซึ่งเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้าง โดยเขามองว่าการเขียนโค้ดในปัจจุบันเปรียบเหมือนการใช้ภาษา เหมือนกับภาษาอังกฤษที่มนุษย์ใช้สื่อสารกัน AI จะเข้ามาช่วยให้การเขียนโค้ดง่ายขึ้น เร็วขึ้นคล้ายๆ กับการใช้เครื่องมือแปลภาษาอัตโนมัติในปัจจุบัน โดยเขามีความเห็นว่า เด็กๆยุคใหม่ควรหันไปเน้นการเรียนรู้ทักษะอื่นๆ เช่นการศึกษา ชีวิตวิทยา การผลิต หรือการเกษตร เป็นต้น อาจเป็นหนทางสำคัญในการก้าวไปข้างหน้า โดยช่วยให้มีความรู้เพื่อใช้โปรแกรม AI อย่างไรและเมื่อใด โดย Gen AI จะต้องใช้ทักษะใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์จึงจะประสบความสำเร็จ เพียงแต่เป็นวิศวกรที่ออกคำสั่ง (Prompt) ซึ่งทุกคนสามารถทำได้ ซึ่งทักษะนี้อาจจะมีความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ในเมื่อเวลามาถึงทั้งนี้ การเขียนโค้ดและการเขียนคอมพิวเตอร์ในยุคดิจิทัลมีความสำคัญ เพราะเป็นทักษะพื้นฐานที่ช่วยให้สร้างและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆได้ ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ผสมผสานระหว่างศาสตร์ของศิลปะ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และวิศวกรรมเข้าด้วยกัน ซึ่งทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นในการทำงานและการแก้ปัญหาในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี ในงาน Nvidia GTC 2024 เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการประชุมนักพัฒนา AI และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทาง เจนเซน หวง ได้มีคำถามถึงความเห็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยเขาได้ชี้แจงความเห็นถึงการสิ้นสุดของการเขียนโค้ดว่า อย่าละท่องการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ และยังย้ำว่าปล่อยการเขียนโปรแกรมให้เป็นหน้าที่ของ AIเนื่องจากแพลตฟอร์ม AI ทำงานหนักมากสำหรับการเขียนโค้ด บรรดาคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องพิจารณาการเรียนรู้ทางด้านนี้ว่าเป็นงานทักษะที่สำคัญอีกต่อไป ซึ่งดูเหมือนว่าเขายังยืนยันตามความเห็นเดิมเขาระบุว่า ผู้คนควรเรียนรู้ทักษะในทุกประเภท โดยเปรียบเทียบการเรียนรู้การเขียนโค้ดกับทักษะต่างๆ เช่น การเล่นกล การเล่นเปียโน หรือการเรียนแคลคูลัสเป็นต้น และเขากล่าวเสริมด้วยว่า “การเขียนโปรแกรมไม่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องการจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ...แต่ถ้าใครต้องการเรียนรู้ (โปรแกรม) ทำซะ เพราะเรากำลังจะจ้างโปรแกรมเมอร์” สำหรับไฮไลต์งานดังกล่าวยังมีหัวข้อที่สนใจหลายๆเรื่อง รวมไปถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ GPU Blackwell เป็นซุปเปอร์ชิป ที่ทรงพลังที่สุดมีทรานซิสเตอร์ภายในถึง 208,000 ล้านทรานซิสเตอร์ เป็นชิป ขนาด 4 นาโนเมตร รองรับชุดคำสั่งชนิดใหม่ FP6 และ FP4 ที่ออกแบบมาเพื่องานด้าน AI โดยเฉพาะ เมื่อนำชิปใหม่นี้ 2 ตัวมารวมกัน จะมีพลังประมวลผลคำสั่งโมเดลภาษา Large Language Model (LLM) ได้รวดเร็วขึ้นถึง 30 เท่า ประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่า 25 เท่าเมื่อเทียบกับชิป H100 โดยคาดหมายว่าจะวางตลาดในปีหน้านอกจากนี้ยังมีโครงการ Generalist Robot 00 Technology (GR00T) โมเดลพื้นฐานสำหรับสร้างหุ่นยนต์มนุษย์ ทำการฝึกให้หุ่นยนต์เลียนแบบท่าทางมนุษย์ด้วยระบบ AI ผ่านแพลตฟอร์ม NVIDIA Isaac Sim และซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ DGX A100 ซึ่งหุ่นยนต์มีความสามารถในการเรียนรู้จากการฝึกเพียงไม่กี่ครั้ง จากข้อความ คำพูดคลิป รูปภาพ และสามารถเลียนแบบท่าทางมนุษย์ได้ และฝึกให้เรียนรู้จนทำงานได้ฉลาดจนนำไปใช้งานช่วยมนุษย์ได้จริงในอนาคต.คลิกอ่านคอลัมน์ "บทความไซเบอร์เน็ต" เพิ่มเติม