สายสืบ สน.มีนบุรี บุกรวบยกแก๊งนิ้วตำรวจ อ้างเป็นตำรวจ ตม. รวม 6 คน แห่ไปตรวจค้นร้านขายหินนำโชค ย่านร่มเกล้า อ้างมีแรงงานผิดกฎหมาย แต่ต้องผิดหวังเพราะทุกคนมีใบอนุญาตถูกต้อง แสดงพฤติกรรมโจรยัดข้อหายาเสพติด พาเมียเจ้าของร้านไปกดเอทีเอ็มมาให้ 1 หมื่นบาทแล้วหลบหนีไป หลังเข้าแจ้งความตำรวจพบข้อมูลหัวหน้าแก๊งเป็นนิ้วตำรวจย่านคลองตัน ตามรวบถึงบ้านเช่าในซอยปรีดีพนมยงค์ 26 ยกแก๊งตำรวจจริงจับตำรวจเก๊รายนี้ เปิดเผยขึ้นที่ สน.มีนบุรี เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. พ.ต.อ.สมโภช ทองมูล ผกก.สน.มีนบุรี และ พ.ต.ท.อรรณพ สังข์เสน รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี แถลงผลงานชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ธัษษภณณ์ มหธรธนนนณ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.ประจักษ์ กุลนาพันธ์ สว.สส.สน.มีนบุรี พร้อมชุดสืบสวน จับกุมแก๊งตำรวจปลอมตัวรวม 6 คน ประกอบด้วย นายสำเริง หรือจอร์จ ชมเชย อายุ 51 ปี หัวหน้าแก๊ง ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ 1823 ลงวันที่ 18 ธ.ค.68 ข้อหาร่วมกันอั้งยี่และซ่องโจร ข้อหากรรโชกทรัพย์ ข้อหาลักทรัพย์ และข้อหาแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน นายทวีศักดิ์ หรือขวัญ ชาญชัย อายุ 40 ปี นายวิวัฒน์ หรือเอ แซ่เอี้ย อายุ 45 ปี นายฉัตรชัย หรือโบ้ นามิสา อายุ 30 ปี นายมูฮัมเหม็ด ลุค มัน หรือโอเล่ อายุ 25 ปี ชาวเมียนมา และ น.ส.เกษร หรือษร สำแดงวงศ์ อายุ 40 ปี พร้อมของกลางชุดที่สวมใส่วันก่อเหตุ และรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า สีเทาดำ ทะเบียน 3ฬ 1259 กรุงเทพมหานคร จับกุมทั้งหมดที่บ้านเช่า 3 หลังในซอยปรีดีพนมยงค์ 26 เมื่อค่ำวันที่ 18 ธ.ค.คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.เวลาประมาณ 21.23 น. น.ส.ณัฐสิรี จินาจันทร์ อายุ 31 ปี อยู่เลขที่ 75/9 ซอยร่มเกล้า 1 ถนนร่มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. พร้อมสามีชาวปากีสถาน เปิดร้านขายหินนำโชคก้อนละหลักสิบจนถึงหลักแสนบาทที่บ้าน น.ส.เกษร ผู้ต้องหา เข้าไปเคาะประตูบ้าน อ้างว่าเป็นเมียตำรวจมาขอดูสินค้า แต่เมื่อ น.ส.ณัฐสิรี เปิดประตูให้ น.ส.เกษร กลุ่มผู้ต้องหาอีก 5 คน กรูกันเข้าไปภายในบ้าน แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สั่งให้คนในบ้านมานั่งรวมกันบริเวณชั้น 1 ยึดโทรศัพท์มือถือไว้ทั้งหมด ก่อนแยกย้ายกันตรวจค้นบ้านทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ขอตรวจเอกสารพนักงานของร้านที่อยู่ภายในบ้านว่ามีหนังสือเดินทางถูกต้องหรือไม่ พนักงานของร้านมีเอกสารถูกต้องครบทุกอย่างกลุ่มคนร้ายยังไม่ละความพยายามหาเรื่อง อ้างว่าพบสิ่งของผิดกฎหมาย ชูกระบอกไฟฉาย 2 แท่งให้ดูแล้วอ้างกับผู้เสียหายว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า และมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ เรียกรับเงินจากผู้เสียหาย 30,000 บาท ผู้เสียหายพยายามต่อรองจนเหลือ 10,000 บาท ก่อนที่ น.ส.เกษรจะพาผู้เสียหายออกไปกดเงินสดที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณตลาดทองร่มเกล้า นอกจากเงิน 1 หมื่นบาทแล้วกลุ่มคนร้ายยังแสดงพฤติกรรมโจร หยิบฉวยเอาเครื่องประดับเป็นจี้สร้อยคอหิน 2 ชิ้น มูลค่าประมาณ 1,400 บาทไปด้วย ก่อนพากันไปขึ้นรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับหลบหนีไป หลังจากนั้นผู้เสียหายตรวจสอบทรัพย์สินภายในบ้านพบว่า โทรศัพท์มือถือของแม่บ้านหายไปอีก 1 เครื่อง ตัดสินใจเข้าแจ้งความร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี จึงทราบว่ากลุ่มคนร้ายเป็นตำรวจเก๊หลังจับกุมกลุ่มผู้ต้องหานำตัวมาสอบสวนเรียงตัวทราบว่ามูลเหตุจูงใจมาจากนายมูฮัมเหม็ด ลุค มัน หรือโอเล่ อายุ 25 ปี ชาวเมียนมา รู้จักกับอดีตลูกจ้างชาวพม่าที่เคยทำงานร้านเกิดเหตุถูกไล่ออกเนื่องจากมีพฤติกรรมขโมยของ บอกนายโอเล่ว่ามีคนงานต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตที่ร้านดังกล่าวแน่นอน นายโอเล่ไปบอกข่าวนายสำเริง หรือจอร์จ หัวหน้าแก๊ง จัดชุดอ้างเป็นตำรวจ ตม.และ สน.มีนบุรี เข้าไปตรวจค้น แต่ปรากฏว่าไม่พบแรงงานผิดกฎหมาย ตัดสินใจยัดข้อหายาเสพติดรีดทรัพย์ไป 1 หมื่นบาท ตรวจสอบประวัตินายสำเริงพบว่า เคยเป็นสายให้ตำรวจหลายหน่วยงานจนรู้พฤติกรรมและวิธีการทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี มีคดียาเสพติดติดตัวหลายครั้งทั้งปี 55 57 และ 66 เพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 2 ปีก็มาก่อเหตุอีก ส่วนผู้ต้องหาอีก 5 คน ก็มีประวัติพัวพันยาเสพติดเช่นกันเบื้องต้นส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ไปสอบสวนและฝากขังไปแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานขออำนาจศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับนายโกแวนและภรรยาชาวเมียนมาเพื่อตามล่าตัวมาดำเนินคดีต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่