นับถอยหลังสู่สิ้นปีมะเส็ง ซึ่งเมืองไทยเผชิญสารพัดวิกฤติมาตลอด จนอ่วมน่วมจากผลกระทบกันแทบทุกวงการ รวมทั้ง วงการพระเครื่อง ของพวกเราด้วย ก็เงียบๆลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะเป็นชาวพุทธ บูชาพระ จึงยังมีการซื้อขายกันอยู่ แต่ไม่ตูมตามนัก เพราะคนไม่มีตังค์ คนที่มีก็ใช้จ่ายระวังขึ้นในมุมหนึ่งก็อาจจะบอกว่า เป็นผลดีกับคนที่อยากมีพระเครื่องดีๆไว้ใช้บูชา เพราะตอนนี้ตลาดเป็นของคนซื้อ พระจึงตั้งราคาที่เอื้อมถึงง่ายขึ้นเยอะ เพราะ หั่งเช้ง เปลี่ยนไป ส่งผลให้ราคาพระลดลงราวๆ 20% พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม วัดระฆังฯ.อย่างองค์แรกวันนี้ พระสมเด็จ พิมพ์ฐานแซม สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ ซึ่งเพิ่งเข้ามาในสนาม เป็น “พระหน้าใหม่” ไฉไลสมบูรณ์ เดิมๆ เด่นที่ฟอร์มทรง มาตรฐาน พิมพ์พระติดชัดเต็ม เสมอกัน เส้นซุ้มครอบแก้วใหญ่หนาแบบ “ผ่าหวาย” ตามอัตลักษณ์ เนื้อมวลสารหนึกแน่นครบสูตร พิเศษสุด ที่ เนื้อรัก ที่ล่อนหลุด บอกอายุถึงยุคอย่างเป็นธรรมชาติ แบบที่เรียก “พระบ้านๆ” สำหรับ รัก ก็ได้จาก ยาง ของต้นรัก นำมากรองและเคี่ยวจนได้ยางที่ข้นเหนียว (เรียกว่า รักเช็ด หรือรักน้ำเกลี้ยง) ใช้ทาเป็นตัวยึด ในการติดทองคำเปลวลงบนวัตถุ เช่น พระพุทธรูป หรือลวดลายไทย เพื่อความสวยงามและทนทาน พระไม่มีริ้วรอยลอกเก็บแกะเกลาแต่งเติมเลย สวยบริสุทธิ์แบบนี้ไม่เห็นนานมาก จึงเป็นบุญวาสนา เสี่ยสมชาย ซึ่งทำธุรกิจอะไหล่รถยนต์ ที่เพิ่งมีชื่อในสนามนี้เป็นครั้งแรก และเมื่อเริ่มด้วยพระระดับสมเด็จ ก็ต้องไม่หยุดแน่ พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่เอ (หัวขีด) รุ่นแรก พ.ศ.๒๔๙๗ พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) วัดช้างให้ ของ "คุณกบ ฐิการ".ตามมาด้วย พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๙๗ พิมพ์ใหญ่นิยมเอ (หัวขีด) พระครูวิสัยโสภณ (ทิม) วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี องค์สวยแชมป์ เดิมๆ อีกองค์ของ เสี่ยฐิการ ศุภวิรัชบัญชา หรือ กบ Kerry ที่มี พระหลวงปู่ทวด ให้ดูต่อเนื่อง แต่ละองค์บอกรสนิยมในการสะสม แบบรู้ลึกรู้จริง...และรวยจริง พระปิดตา พิมพ์ซ่อนหา เนื้อผงเคลือบรัก หลวงพ่อพิมพ์ วัดหนองแหน ของเพชร อิทธิ.ตามมาด้วย พระปิดตา เนื้อผงจุ่มรัก (แดง) พิมพ์ซ่อนหา หลวงพ่อพิมพ์ วัดหนองแหน จ.ฉะเชิงเทรา พระเกจิฯร่วมสมัยผู้เป็นพระสหมิกธรรม กับ หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ ท่านสร้าง พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ด้วยแบบพิมพ์ที่งดงาม โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยฝีมือช่างชั้นครู นิยมเรียกเป็นพิมพ์ปาง “ซ่อนหา” ด้านหน้าเป็นองค์พระใหญ่ นั่งปางสมาธิ เหนือพระเศียรเป็นองค์พระปิดตาจิ๋ว ดูกลมกลืนคล้ายพระเกศ มีชื่อเสียงมาก่อน พระปิดตาหลวงปู่จีน แต่หายากมาก เพราะสร้างมอบเฉพาะศิษย์ใกล้ชิด และส่วนมากก็เก็บเป็นมรดกลูกหลาน น้อยองค์จะหลุดออกสู่วงการอย่างองค์นี้ ทำให้ เสี่ยเพชร อิทธิ ที่ซุ่มซื้อได้มาแบบเหมารวม ภาพถ่ายบูชา พระครู ชลโธปมคุณมุนี (พุฒ) พ.ศ.๒๔๕๐ วัดเขาบางทราย ของ ดร.มีชัย เถาเจริญ.ตามมาด้วย ภาพถ่ายบูชา พระครูชลโธปมคุณมุนี (พุฒ ปุณฺณโก) พ.ศ.๒๔๕๐ วัดเขาบางทราย จ.ชลบุรี พระอมตะเถระที่เคารพสูงสุดอีกองค์ของชาวเมืองชลบุรี ที่เรียกท่านว่า “หลวงปู่ พระครูชล” กำเนิดท่านเป็นชาว อ.บางกอกใหญ่ ธนบุรี อุปสมบทครั้งแรกเมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ที่วัดบวรฯ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๖๑ สมัยที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงผนวช และทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้นามฉายา “ปุณฺณโก” อยู่ได้ ๘ พรรษา ลาสึกออกมารับราชการ และไปบวชครั้งที่ ๒ ที่วัดบุปผาราม ซึ่ง เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) ทายาทผู้สร้างวัดเขาบางทราย มีศรัทธาในวัตรปฏิบัติจึงนิมนต์ท่านไปเป็นเจ้าอาวาส อยู่จนได้รับฐานาพระชลโธปมคุณมุนี เจ้าคณะใหญ่เมืองชลบุรี ในสมัย ร.๕ เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์-๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๐ จึงถ่ายภาพนี้พร้อม พัดยศทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ พื้นผ้าเยียรบับ ณ ร้านถ่ายรูปเจีย เป็ง เส็ง ถ.เยาวราช กรุงเทพฯ--เป็นภาพถ่ายพระเถระฯที่ทรงค่า ทรงคุณ ซึ่งชาวเมืองชลฯหากันมาก แต่ยาก เพราะให้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิด คนสำคัญ ภาพนี้ ดร.มีชัย เถาเจริญ เจ้าของ ภาคภูมิใจสุดๆสำหรับ พัดยศทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ เป็น พัดยศชั้นสูง สำหรับพระสงฆ์ชั้นพระราชาคณะขึ้นไป ตัวพัดเหมือนทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ปลายแหลม และมีแฉกรอบ ทำจากพื้นตาดโหมด ตาดเงิน ตาดเหลือง กำมะหยี่สีต่างๆ แล้วแต่ชั้นสมณศักดิ์ ปักลวดลายงดงามด้วยดิ้นเลื่อม ดิ้นทอง ดิ้นเงิน ทองแล่ง ด้ามทำด้วยงา (ปัจจุบันเป็นงาเทียม) ยอดงาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวซ้อน เป็นงานศิลปะที่งดงามสูงค่า พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ พุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ หน้าตัก ๗ นิ้ว ของอิทธิ ชวลิตธำรง.ตามมาด้วย พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ หน้าตัก ๗ นิ้ว พุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๑ ซึ่งเป็นรอยต่อพุทธศิลป์เชียงแสน-สุโขทัย พระสภาพงามสมบูรณ์ด้วยฝีมือช่างล้านนาชั้นเยี่ยม ที่บรรจงรังสรรค์ทุกเส้นศิลป์ เป็นองค์พระนั่งสมาธิราบ ปางมารวิชัย เนื้อโลหะ (สำริด) ที่มีความสมส่วนด้วยศิลป์ผสมเชียงแสน-สุโขทัย อยู่เหนือฐาน (บัวหงาย มีเส้นก้านเกสรขีดตั้งเป็นเม็ดกลม) รองรับด้วยฐานเขียงชั้นล่าง พระพักตร์ทรงกลมแบบผลมะตูม พระเนตรเจาะ พระขนงโค้งโก่ง พระนาสิกสันราบ ปลายโด่ง พระโอษฐ์จีบยิ้มแบบปากกระจับ พระองค์อวบสมบูรณ์ พระกร ทอดวางอย่างอิสระดูเบาสบาย พระเกศเปลวเพลิงเม็ดพระศกก้นหอย ปั้นติด สังฆาฏิยาวจดพระนาภี--ศิลป์องค์รวม อย่าง “พระพุทธสิหิงค์” ที่ประดิษฐานอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติองค์นี้ก็ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นองค์หน้าตัก ๗-๘ นิ้ว ที่ได้รับความนิยม บูชาประจำบ้าน เพื่ออานุภาพด้านความสุขสมบูรณ์ เจริญก้าวหน้า มั่งคั่งมั่นคงด้วยทรัพย์สิน--ปัจจุบันหายากมาก โดยเฉพาะสภาพงามสมบูรณ์ เต็มศิลป์ถึงยุคสมัยแบบนี้ ที่เจอปุ๊บ จ่ายปั๊บ ในราคาหลักแสนปลาย เขี้ยวเสือแกะ (หน้าแมว) หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน ของสถิต ราชบุรี.วันนี้มีเครื่องรางของขลังมาดูเป็น เขี้ยวเสือแกะ (หน้าแมว) หลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน จ.สมุทร ปราการ เครื่องรางยอดนิยมอันดับ ๑ ตัวนี้ของ เสี่ยสถิต ราชบุรี สายตรงพระเครื่องของขลังมือฉมัง ซึ่งมีของสวยๆ ดูง่าย มาให้ดูกันตลอด เขี้ยวเสือแกะ (หน้าแมว) ตัวนี้ไซส์ขนาดย่อม สภาพงามสมบูรณ์ เต็มฟอร์มด้วยศิลป์มาตรฐาน เด่นด้วยผิวเนื้อ ที่มีแสงเงาจากในออกนอก ด้วยอายุความเก่าธรรมชาติ ดูมีพลานุภาพเข้มขลังด้วยลายมือจารอักขระเลขยันต์แบบ “ครบเครื่อง” ทุกตัว ทุกตำแหน่งมาถึงเรื่องปิดท้าย ในร้านพระเครื่องย่านพุทธมณฑล ซึ่งนักนิยมพระขาประจำไปชุมนุมกัน ๗-๘ คน เอาพระมาอวด วิจารณ์กันว่าใครเห็นอย่างไร บ้างก็บอกว่า ชอบเล่นพระตามกระแส อีกคนก็ว่าชอบพระที่มีอานุภาพเข้มขลัง แบบแขวนเดี่ยวได้อย่างมั่นใจ กำลังถกกัน เสี่ยชัย ขาใหญ่ ก็เดินเข้ามา พอได้ยินก็แย้งว่า แต่ผมชอบใช้พระตามสถานการณ์ เวลาทำงานใช้พระด้านเมตตา ค้าขาย จีบสาว ต้องใช้พระด้านเมตตามหาเสน่ห์ ถ้ามีภัยใช้พระแคล้วคลาดคงกระพัน พรรคพวกถามว่า แล้วตอนนี้เฮียใช้พระอะไรอ่ะ เสี่ยชัย บอกว่า ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ศึกสงคราม อั๊วก็คัดพระที่มีอานุภาพด้านคุ้มครอง ป้องกันภัย แคล้วคลาด คงกระพัน พูดไปก็แกะกระดุมเสื้อให้เห็นพระพวงโตหนักคอ เพราะนิมนต์มาหมด 30 กว่าองค์ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.สีกาอ่างคลิกอ่านคอลัมน์ "สนามพระ" เพิ่มเติม