เตือนภัยวัยเกษียณ ทั้งข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ หลังศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ตร. หรือ Anti Cyber Scam Center (ACSC)พบความผิดปกติช่วงเดือนธันวาคม ผู้สูงอายุระหว่าง 60-74 ปีจำนวนมาก พาเหรดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ สูญเงินตั้งแต่หลักหมื่นไปถึงหลักล้านบาท แฉ 5 แนวทางหลอกลวงของแก๊งสแกมเมอร์ ออกมาเตือนผู้สูงวัยก่อนตกเป็นเหยื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เตือนภัยสแกมเมอร์ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร.เผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.กำชับปราบปรามสแกมเมอร์การหลอกลวงออนไลน์ทุกรูปแบบเชิงรุก ตัดวงจรทุกมิติ ทั้งเส้นทางการเงิน ที่ตั้ง ผู้ร่วมขบวนการ และเน้นย้ำการสร้างวัคซีนป้องกันภัยออนไลน์ให้ประชาชน จากการรวบรวมข้อมูลโดยศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ Anti Cyber Scam Center (ACSC) พบสถานการณ์น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับอาชญากรรมทางออนไลน์ที่มุ่งเป้าไปยังกลุ่มข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ โดยพบว่าในเดือน ธ.ค.นี้ มีผู้ตกเป็นเหยื่อและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมากพล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวว่า คนร้ายมักใช้แผนประทุษกรรม เริ่มต้นจากการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อ เชื่อว่ามีการรั่วไหลของข้อมูลข้าราชการบำนาญ ทำให้คนร้ายทราบทั้งชื่อ นามสกุล และหน่วยงานต้นสังกัดเดิมของเหยื่อ สร้างความน่าเชื่อถือในการติดต่อครั้งแรก พฤติกรรมการหลอกลวงที่พบบ่อยที่สุดคือ การโทรศัพท์ไปหาเหยื่อโดยตรง แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการหลังเกษียณ เช่น กรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) สหกรณ์ออมทรัพย์ครู หรือฝ่ายฌาปนกิจสงเคราะห์ ใช้ข้ออ้างต่างๆนานาเพื่อหลอกลวง ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตข้อมูลเพื่อรับสิทธิประโยชน์ การขอรับเงินบำนาญ เงินบำเหน็จ หรือเงินฌาปนกิจ“หลังจากใช้อุบายให้เหยื่อตายใจแล้ว คนร้ายจะชักจูงให้เหยื่อเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) เพื่อพูดคุยต่อ จากนั้นจะส่งลิงก์สำหรับดาวน์โหลดแอปพลิเคชันปลอมที่อ้างว่าเป็นของหน่วยงานราชการนั้นๆ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมโทรศัพท์ของเหยื่อจากระยะไกล เทคนิคสำคัญที่คนร้ายใช้คือ การหลอกให้เหยื่อ “เปลี่ยนภาษา” ของแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือให้เป็นภาษาอังกฤษ ก่อนทำการโอนเงิน ทำให้เหยื่อส่วนใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุไม่คุ้นชินกับเมนูและข้อความแจ้งเตือนต่างๆ และง่ายต่อการถูกหลอกให้ทำธุรกรรมโดยไม่รู้ตัว” โฆษก ตร.กล่าวพล.ต.ท.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า จากข้อมูลล่าสุดในเดือน ธ.ค.เพียงเดือนเดียว มีกลุ่มผู้สูงวัยอายุระหว่าง 60-74 ปี เข้าแจ้งความว่าถูกหลอกโอนเงิน มียอดความเสียหายตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงเกือบล้านบาทต่อราย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่ากลุ่มข้าราชการบำนาญเป็นเป้าหมายหลักที่คนร้ายให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีเงินออมและอาจไม่เท่าทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการบำนาญและผู้สูงอายุ จึงขอประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันตนเองจากภัยออนไลน์ดังนี้1.อย่าเชื่อใจสายที่ไม่คุ้นเคย หากมีโทรศัพท์อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ให้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเสมอ และไม่ควรให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ 2.ห้ามกดลิงก์แปลกปลอม ไม่ควรกดลิงก์ที่ได้รับผ่านทางเอสเอ็มเอส (SMS) หรือแอปพลิเคชันสนทนาต่างๆเด็ดขาด 3.ไม่ติดตั้งแอปพลิเคชันนอกแหล่งที่น่าเชื่อถือ ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชันจาก Google Play Store หรือ Apple App Store เท่านั้น 4.ห้ามเปลี่ยนภาษาแอปฯธนาคารตามคำบอก ธนาคารไม่มีนโยบายให้ลูกค้าเปลี่ยนภาษาของแอปพลิเคชันเพื่อทำธุรกรรมใดๆทั้งสิ้น หากมีผู้แนะนำให้ทำเช่นนั้นขอให้สันนิษฐานว่า เป็นมิจฉาชีพทันที และ 5.ตรวจสอบกับหน่วยงานโดยตรง หากไม่แน่ใจควรวางสายและโทรศัพท์กลับไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงด้วยตนเองผ่านเบอร์โทรศัพท์ที่เป็นทางการ“หากท่านสงสัยว่าจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ หรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1441 หรือแจ้งเหตุด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง” โฆษก ตร.กล่าวอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่