ตำรวจเร่งล่ากิ๊กหนุ่ม หลังรู้แล้วศพสาวสายมู สัก “สายเถื่อน พ่อแก่ ฤาษีตาไฟ” เป็นใคร พี่สาวเหยื่อให้ข้อมูล บอกน้องสาวขับเก๋งซีวิคหายออกจากบ้านใน จ.สุพรรณฯ ไปกับเพื่อนชายคนสนิท คาดอาจถูกบีบคอฆ่าแล้วนำศพมาทิ้งในไร่มัน จ.ชลบุรี ส่วนคดีหนุ่มน่านผูกคอตาย พนักงานสอบสวนยันไม่เชื่อมโยงกัน เชื่อฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจเมียกลายเป็นคดีพิศวาสฆาตกรรม กรณีพบศพหญิงสาวนิรนาม อายุราว 25-30 ปี ผิวขาว ผมยาว ต้นคอมีรอยสัก “สายเถื่อน” และแผ่นหลังสัก “เศียรพ่อแก่และฤาษีตาไฟ” นิ้วกลางมือขวาสวมแหวนเงิน ในตัวมีผ้ายันต์ไอ้ไข่ วัดสิชล จ.นครศรีธรรมราช ศพถูกห่อด้วยผ้าห่ม นำมาทิ้งในร่องทางน้ำข้างไร่มันสำปะหลัง ห่างถนนสาย 331 (สัตหีบ-นครราชสีมา) กม.ที่ 17-18 หมู่ 10 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประมาณ 30 เมตร คนร้ายยังใช้เศษไม้อัด กิ่งไม้ แผ่นไวนิล คลุมทับร่างอำพรางไว้ ต่อมาพบศพนายจีรพันธ์ หรืออาร์ม จันทรส อายุ 33 ปี ชาว จ.น่าน โชเฟอร์รถบรรทุก ผูกคอตายใต้ต้นไม้ห่างจุดพบศพสาวนิรนามราว 1 กม. เร่งสืบสวนสอบสวนทั้ง 2 คดีมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ความคืบหน้าของคดี วันที่ 6 ธ.ค. พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้ประชุมประเด็นการสอบสวน วิเคราะห์ข้อมูล และสรุปแนวทางการสืบสวนสอบสวนออกเป็น 2 เรื่อง คดีแรกการพบศพหญิงสาวในไร่มันสำปะหลัง และการพบศพนายจีระพันธ์ จันทรส ผูกคอตาย จากแนวทางการสอบสวนพบว่าทั้ง 2 คดี ไม่มีความเชื่อมโยงกัน เหตุการณ์แรกน่าจะเป็นเรื่องถูกฆาตกรรม ส่วนเหตุการณ์ที่สอง เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายเองเย็นวันเดียวกัน น.ส.อุ้ม (นามสมมติ) อายุ 27 ปี และนายพลวัชร์ ภูมิศิริ อายุ 26 ปี เข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.นิติภูมิ บุตรวงศ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ห้วยใหญ่ ยืนยันศพสาวที่พบในไร่มันสำปะหลังคือ น.ส.จันทร์จิรา หรือส้ม คำแก้ว อายุ 27 ปี ชาว อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ภรรยานายพลวัชร์ ที่หายออกจากบ้านตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. ต่อมาทราบข่าวจากสื่อโทรทัศน์ มั่นใจว่าเป็น น.ส.ส้มแน่นอน รีบเดินทางจาก จ.สุพรรณบุรี เข้าให้ปากคำตำรวจเจ้าของคดีน.ส.อุ้มให้การอ้างว่า น.ส.ส้มเป็นลูกพี่ลูกน้องกับตน ทำงานเป็นแอดมินเพจหวยออนไลน์ แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนายพลวัชร์ ต่อมา น.ส.ส้มได้รู้จักกับนายปรัชญาธรรม หรือทิวานนท์ หรือนนท์ สมุททองแดง อายุ 34 ปี ทำงานแอดมินเพจหวยออนไลน์เช่นกัน ทั้งคู่แอบคบหากันลับๆ วันที่ 30 พ.ย. น.ส.ส้มขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน กบ 5098 สุพรรณบุรี ออกจากบ้านใน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี คาดว่าไปกับนายนนท์ เพื่อนชายคนสนิท ตอนแรกไม่เอะใจ เพราะวันที่ 1-2 ธ.ค. ผู้ตายยัง ตอบแชตอยู่ กระทั่งวานนี้ตนเห็นข่าวหญิงสาวมีรอยสักคำว่า “สายเถื่อน” เป็นรอยสักชื่อกลุ่มวัยรุ่นใน อ.บางปลาม้า ถูกฆ่าหมกไร่มันฯใน จ.ชลบุรีและยังมีรอยสักรูปฤาษี ตรงกับน้องสาว ตัดสินใจชวนนายพลวัชร์ สามี น.ส.ส้มเข้าให้ข้อมูลตำรวจ ส่วนแชตที่พูดคุยตอบโต้ เชื่อว่าผู้ตายไม่ได้เป็นคนพิมพ์ แต่เป็นนายนนท์ คนสนิทของผู้ตายเป็นคนพิมพ์ และเชื่อว่านายนนท์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างแน่นอนน.ส.อุ้มให้ข้อมูลอ้างอีกว่า นายนนท์ที่น้องสาวแอบคบหาอยู่ด้วยเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหร้าย เมื่อเดือน ส.ค. ผู้ตายได้โทร.มาหา พอตนรับสายได้ยินเสียงผู้ตายกับนายนนท์ทะเลาะกันรุนแรง ผู้ตายตะโกนผ่านโทรศัพท์บอกว่า “ช่วยด้วย มันบีบคอกู” ส่วนเหตุการณ์ในครั้งนี้ เชื่อว่านายนนท์อาจพลั้งมือทำร้ายผู้ตายจนเสียชีวิต ก่อนจะกลัวความผิด นำร่างผู้ตายใส่รถเก๋งจาก จ.สุพรรณบุรี ขับมาทิ้งใน จ.ชลบุรี ส่วนสาเหตุที่นายนนท์นำร่างผู้ตายมาทิ้งอำพรางศพในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ เนื่องจากชำนาญเส้นทาง เพราะพื้นเพเป็นคนสัตหีบ จ.ชลบุรี แต่ไปทำมาหากินอยู่ จ.สุพรรณบุรีด้านนายพลวัชร์ สามีของผู้ตายเปิดเผยว่าที่ผ่านมาไม่เคยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของภรรยา และนายนนท์มาก่อน แต่พอทราบเรื่องจากทางญาติรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าภรรยาจะนอกใจ เนื่องจากที่ผ่านมาได้แต่งงานอยู่กินกันแล้ว อยากให้ตำรวจช่วยติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนด้วยขณะที่ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ หลังทราบข้อมูลได้เรียกประชุมทีมสืบสวนเพื่อล่าตัวนายนนท์ กิ๊กหนุ่มรายนี้มาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ น.ส.ส้มหรือไม่ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับต่อไป ในส่วนคดีนายจีรพันธ์ จันทรส ที่ผูกคอตาย จากแนวทางการสอบสวนและภาพกล้องวงจรปิดพบว่า วันที่ 26 พ.ย. ผู้ตายออกจากบ้านเวลาบ่าย 2 โมงครึ่ง ขี่รถ จยย. มาตามเส้นทางสาย 36 (กระทิงลาย-ระยอง) กล้องตัวสุดท้ายที่จับภาพได้คือ กล้องวงจรปิดสวนไทย ปากทางเข้าห้วยใหญ่ ห่างจุดพบศพไม่ถึง 1 กม. ตำรวจเชื่อเป็นการฆ่าตัวตาย สาเหตุจากน้อยใจภรรยา แต่ต้องรอผลชันสูตรจากสถาบันนิติเวชยืนยันสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่