“ดีเอสไอ” หน้าแตก ยกกำลังเต็มอัตราเข้าตรวจค้นห้องเย็นใหญ่ย่านมหาชัย อ้างมีเบาะแสเป็นแหล่งซุกหมูเถื่อนหลายหมื่นตัน มูลค่านับหมื่นล้านบาท สุดท้ายวืดไม่พบของกลางแม้แต่กิโลฯเดียว เผยถูกชิปปิ้งแสบแอบอ้างชื่อและสร้างเอกสารปลอม นำมาสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ประมงทำให้เข้าใจผิด ขณะที่เจ้าของห้องเย็นเตรียมแจ้งความกลับ ยันดำเนินคดีฐานทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงบริษัท ด้าน “วราวุธ” ปัดไม่รู้อดีต รมช. “ป.ปลา” เป็นนายทุนใหญ่หมูเถื่อน จะเอี่ยวกับ “ประภัทร” หรือไม่ รอให้เจ้าตัวออกมาชี้แจงเองเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มขยับ หลังถูกนายกรัฐมนตรีจี้ให้จับกุมขบวนการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน และต้องสาวไปให้ถึงไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังขบวนการ นำตัวมาดำเนินคดีให้ได้ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 21 พ.ย. พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบริษัทรักชัยห้องเย็น จำกัด ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าจับกุมเจ้าของบริษัทผู้ค้าเนื้อสัตว์แช่แข็งรายใหญ่ แล้วผู้ต้องหาให้การอ้างว่า ได้นำสินค้าประเภทเนื้อสัตว์ที่สั่งนำเข้าจำนวนหลายหมื่นตันมาฝากแช่ไว้ที่สถานประกอบการแห่งนี้ มีนายลือศักดิ์ ลือสุขประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทรักชัยห้องเย็น จำกัด เป็นผู้นำตรวจสอบในทุกจุดจากการตรวจสอบอย่างละเอียด ยืนยันได้ว่าห้องเย็นรักชัยไม่ได้รับฝากสินค้าแช่แข็งตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง อีกทั้งยังตรวจพบด้วยว่า เอกสารที่ผู้ต้องหาใช้สำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมประมง เป็นการปลอมเอกสารขึ้นมา และเป็นการนำเอกสารเท็จมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ไม่ตรงกับเอกสารที่ทางห้องเย็นมีไว้เพื่อแสดงหลักฐานอันเป็นข้อเท็จจริงต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ หลังการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ห้องเย็นรักชัยไม่ได้รับฝากสินค้าที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายทุกประเภท การเข้า-ออกของสินค้าที่รับฝากทุกประเภทมีเอกสารที่แสดงอย่างถูกต้องชัดเจนพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบห้องเย็นรักชัยครั้งนี้ สืบเนื่องจากการเข้าจับกุมบริษัทเฮลตี้และกู๊ดช๊อป ไปก่อนหน้านี้ แล้วมีเอกสารที่ผู้ต้องหานำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีการฝากสินค้าที่ระบุว่าเป็นหัวปลาแซลมอนไว้ที่ห้องเย็นรักชัย ดีเอสไอได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ ผลที่ออกมาทำให้พบว่า นอกจากห้องเย็นแห่งนี้จะไม่ได้รับฝากสินค้าผิดกฎหมายแล้ว เอกสารที่บริษัทชิปปิ้งของผู้ต้องหาได้แสดงต่อกรมประมงว่านำสินค้าจำนวน 282 ตู้ มาฝากไว้ที่ห้องเย็นรักชัยนั้น เป็นเอกสารเท็จและมีการแอบอ้างชื่อบริษัทแห่งนี้ เพื่อนำเอกสารเท็จไปสำแดงต่อกรมประมง จากการตรวจค้นในวันนี้ทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่าบริษัทกันตาและมายเฮ้าท์ที่ถูกจับกุมไปแล้ว มีแผนประทุษกรรมในการนำเข้าและหลีกเลี่ยงภาษีอย่างไรพ.ต.อ.สุริยากล่าวต่อไปว่า พนักงานสอบสวนของดีเอสไอจะเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไปว่า สินค้าของกลางจำนวน 282 ตู้ ที่นำเข้าหมูเถื่อนโดยสำแดงเป็นหัวปลาแซลมอนถูกนำส่งไปที่ไหน รายละเอียดจะยังไม่ขอเปิดเผยในที่นี้ ขณะที่บริษัทรักชัยที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกแอบอ้างชื่อ ได้จัดเก็บเอกสารและขั้นตอนการปฏิบัติไว้เป็นอย่างดี มีมาตรฐานทำให้เป็นประโยชน์ต่อพนักงานสอบสวน เมื่อห้องเย็นแห่งนี้ไม่ใช่ผู้รับฝากสินค้าแล้วนั้น ต้องสืบสวนต่อไปว่าของกลางทั้งหมดน่าจะไปอยู่ที่ไหน จะได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดที่แท้จริงต่อไปนายลือศักดิ์ ลือสุขประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทรักชัยห้องเย็น จำกัด กล่าวว่า การเข้าตรวจสอบของดีเอสไอในครั้งนี้เป็นการยืนยันถึงความโปร่งใสให้กับบริษัท ในส่วนของกระบวนการรับฝากสินค้าบริษัทมีความเข้มงวดในทุกขั้นตอนของการรับฝากสินค้าเป็นอย่างมาก ถ้าเอกสารไม่มีมาแสดงจะไม่รับของอย่างเด็ดขาด ส่วนที่ถามว่าทำไมผู้ต้องหาถึงแอบอ้างบริษัทรักชัยฯ ถ้าจะให้สันนิษฐานอาจเนื่องจากบริษัทรักชัยห้องเย็นเป็นบริษัทใหญ่และได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ สามารถรองรับสินค้าได้จำนวนมาก“วันที่ผู้ต้องหาจะนำสินค้ามาฝากแล้วบริษัทปฏิเสธไปนั้น เพราะสำแดงเอกสารที่ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อปฏิบัติของทางโรงงาน การที่ผู้ต้องหา แอบอ้างชื่อบริษัทรักชัยห้องเย็น จำกัด แล้วยังทำเอกสารอันเป็นเท็จสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยนั้น สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก บริษัทจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาอย่างแน่นอน เพื่อเรียกความเชื่อม่ันและเสถียรภาพความน่าเชื่อถือของบริษัทให้กลับคืนมาต่อคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นายลือศักดิ์กล่าวเมื่อเวลา 12.15 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าวัดพระศรีมหาธาตุ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ตนได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในเรื่องของการปราบปรามการค้าหมูเถื่อนต้องสาวถึงตัวการใหญ่ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวมีอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ ‘ป.ปลา’ เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนในขบวนการค้าหมูเถื่อน ทำให้หลายฝ่ายเชื่อมโยงว่าอาจจะเป็น นายประภัตร โพธสุธน อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ในสมัยรัฐบาลที่แล้ว ได้สอบถามในเรื่องนี้หรือไม่ว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย ตอนนี้ดูแค่เรื่องขอทานกับเรื่องเล้าก์ก่ายก็หน้ามืดแล้ว ต้องขออภัยด้วยที่ยังไม่ได้ดูในเรื่องหมูเถื่อนเมื่อถามย้ำว่านายประภัตรน่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ถ้ามีคงเป็นข่าวไปแล้ว คอยตามดูสถานการณ์ไปก่อนยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมขึ้นมา เมื่อถามว่า มองว่ากระแสข่าวที่ออกมานี้ เป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สังคมตั้งข้อสงสัย เราคงต้องรอให้บุคคลที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง หากมีข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้กระจ่างต่อสังคมมากขึ้นอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่