เป็นความชัดเจนของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ตอบทุกข้อสงสัยประชุมร่วม นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร ในทุกประเด็นที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ ทั้งคดีรถส่วยรถหนัก ปราบปรามยาเสพติด ช่วยแรงงานคนไทยในเมียนมา และข่าวตำรวจจีนตรวจในเมืองไทยเป็นประเด็นร้อนแต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เข้าประชุมชี้แจงด้วยตัวเอง ตอบคำถามทุกเรื่อง ประเด็นรถหนักเข้าพื้นที่ กทม. มอบ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สอบสวนตาม พ.ร.บ.จราจรฯ “ส่วยสติกเกอร์” มอบ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. ผบ.ตร.สั่งให้สอบละเอียด ลงลึก ตรวจสอบเส้นทางการเงิน พร้อมเอาผิดทั้งคดีอาญาและวินัยผบ.ตร.ใช้โอกาสอธิบายข้อจำกัด ความขาดแคลนทรัพยากรและบุคลากร เข้าใจตำรวจอยู่ภายใต้ความคาดหวังของสังคม ทำให้นายรังสิมันต์และกรรมาธิการที่เข้าร่วมประชุม เห็นถึงการทำงานของตำรวจทุกหน่วยที่เข้ามารับผิดชอบในแต่ละเรื่องที่สังคมให้ความเคลือบแคลงสงสัย และพร้อมปรับปรุงทำให้ดีขึ้นในทุกเรื่องความชัดเจนของข้อมูลของ ผบ.ตร. นำมาชี้แจงอย่างหมดเปลือกเกี่ยวกับข้อสงสัยงานตำรวจ ทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้เกิดเข้าใจหน้างาน ปัญหา อุปสรรคดีขึ้น ทำให้พร้อมสนับสนุนโครงการและงบประมาณตำรวจเห็นใจตำรวจขึ้นมาก่อนหน้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรียก พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. หารือแนวทางปราบรถหนักเกินให้หมดไป กระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมทางหลวง ตำรวจทางหลวง พร้อมตรวจจับเต็มที่ ตำรวจนครบาลกำชับตำรวจจราจรให้ตรวจรถในกรุงเทพฯร่วมกับ กทม.กรมทางหลวงมีด่านชั่งน้ำหนัก 100 กว่าจุดทั่วประเทศ แต่ที่มีปัญหาคือ มีการหลบหนีไม่ยอมเข้าด่านตรวจน้ำหนัก เป็นงานที่กรมทางหลวงจัดการ หากพบรถบรรทุกไม่เข้าด่าน แจ้งตำรวจทางหลวงสกัดจับสถิติพบว่า ขณะนี้รถบรรทุกน้ำหนักเกินลดลงไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์เหลือ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องไล่จับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เสนอนายกฯพิจารณาปรับแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษหนักขึ้น ให้เกรงกลัวการทำผิดและเสนอให้รางวัลสินบน ชุดจับกุมเป็นแรงจูงใจลดปัญหาการ “รับส่วย” แบบถาวรย้ำว่า “ส่วนตัวเชื่อว่าจะได้ผลดีขึ้นเรื่อยๆ อาจไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เหมือนแมวไล่จับหนูหากแก้ไขกฎหมาย ยืนยันจะทำต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องเงียบแล้วหยุด จะทำตลอดไปให้จบที่รุ่นเรา”วันนี้ทุกฝ่ายจับมือใช้ทุกทางทั้งข่าวสมาคมรถบรรทุก ประชาชนแจ้งเบาะแส ตำรวจทางหลวง พัฒนาระบบเทคโนโลยีมาช่วยปราบปราม จากที่ติดตามจีพีเอส ใช้เอไอ มาตรวจสอบภาพถ่ายรถน้ำหนักเกินหรือไม่ตัดช่องทางให้รถน้ำหนักเกินวิ่งบนถนนหลวง.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ "เลขที่1 วิภาวดีฯ" เพิ่มเติม