ตำรวจ บก.ปปป. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.-ป.ป.ช. และชุดปฏิบัติการ “หนุมานกองปราบ” รวบ 5 ผู้ต้องหา ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ร่วมกันจับกุมแก๊งอิทธิพลมืดข่มขู่ผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างระบบประปา ก่อนเรียกรับเงินสินบน 6 แสนบาท ในพื้นที่ อ.ทัพทัน และ อ.เมืองอุทัยธานี พบ 1 ในกลุ่มผู้ต้องหาเป็นถึงนายกเทศบาลตลุกดู่ ลูกเขยของ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทยรวบลูกเขย “ชาดา” เรียกรับสินบนโครงการก่อสร้างประปา เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ต.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ปปป. พ.ต.อ.แมน แม่นแย้ม รอง ผบก.ปปป. พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.4 บก.ปปป. สนธิกำลัง พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. นำกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ ป.ป.ช. รวมทั้งชุดปฏิบัติการ “หนุมานกองปราบ” ลุยตรวจค้น 8 จุด ใน จ.อุทัยธานี กวาดล้างจับกุมขบวนการเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการทำโครงการก่อสร้างระบบประปาในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน และ ต.หาดทนง อ.เมืองอุทัยธานีจากปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 5 คน แบ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 3 คนประกอบด้วย นายวีระชาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศบาลตลุกดู่ นายธนภัสสร์ ดุลยาธิการ อายุ 23 ปี ตำแหน่งปลัดเทศบาลตลุกดู่ นายกุลธัช สามัคคี อายุ 47 ปี ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ จ.167-169/2566 ตามลำดับ ลงวันที่ 22 ต.ค.66 ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตส่วนผู้กระทำผิดที่ถูกจับอีก 2 คน ประกอบด้วยนายมานพ ปิติมานะ อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ จ 170/2566 ลงวันที่ 22 ต.ค.66 ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นายยิ่งยง คชาชาญ อายุ 30 ปี ตามความผิดซึ่งหน้า ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเบื้องต้นจับกุมนายวีระชาติ ได้ที่บ้านพักไม่มีเลขที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ส่วนนายธนภัสสร์ กับนายกุลธัชจับได้ที่ห้องทำงานในที่ทำการเทศบาลตลุกดู่ ขณะที่นายมานพและนายยิ่งยงถูกจับกุมตัวได้ที่หน้า ธ.ก.ส. สาขาอุทัยธานี พร้อมของกลางเงินสด 6 แสนบาทสืบเนื่องจากชุดจับกุมรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย รายหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการรับเหมาทำบ่อน้ำ ประปาว่า ก่อนหน้านี้จังหวัดอุทัยธานีจัดทำโครงการก่อสร้างระบบท่อน้ำประปาในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ และ ต.หาดทะนง เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการยื่นสิทธิ ประมูลโดยวิธีประกวดราคาผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ผู้เสียหายสนใจยื่นสิทธิเข้าร่วมการประมูลทั้ง 2 แห่ง หลังจากยื่นสิทธิเข้าร่วมประมูลได้ไม่นานมีบุคคล ปริศนาโทรศัพท์มาข่มขู่ให้ถอนตัว อ้างว่า มีผู้ใหญ่อยากได้โครงการนี้ไปทำ พร้อมเสนอเงินหลายหมื่นบาทเป็นค่าชดเชยหรือค่าเสียเวลาให้ ผู้เสียหายไม่สนใจ ตอบปฏิเสธกลับไป พร้อมยื่นประมูลตามเดิมจนชนะการประมูลได้รับงานทั้ง 2 โครงการ ถูกต้องตามขั้นตอน หลังจากนั้นผู้เสียหายไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้ เนื่องจากมีกลุ่มอิทธิพลมืดสั่งร้านขายอุปกรณ์ ก่อสร้าง แคมป์ปูนซีเมนต์ทุกแห่งใน จ.อุทัยธานี ห้ามขายปูน หรืออุปกรณ์ให้กับผู้เสียหาย จนเกิดปัญหาไม่สามารถดำเนินงานได้ต่อมา ประมาณเดือน ก.ย. นายวีระชาติเรียกผู้เสียหายมาเข้าพบ 3 ครั้ง ยื่นข้อเสนอให้ผู้เสียหายยอมจ่ายเงิน 1 ล้านบาท เพื่อสามารถเริ่มงานก่อสร้างโครงการทั้ง 2 แห่งได้ ก่อนเจรจาต่อรองเหลือ 6 แสนบาท นัดส่งมอบเงินกันที่หน้าธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาอุทัยธานี ชุดจับกุมวางแผนกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งเข้าจับกุม ก่อนขยายผลตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือพร้อมเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหามีรายงานว่า สำหรับนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตลุกดู่นั้นเป็นสามีของ น.ส.อัลฑริกา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวคนที่ 4 ของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลชุดนี้ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวระหว่างนำสมาชิกพรรคภูมิใจไทยไปชมภาพยนตร์เรื่อง “สัปเหร่อ” ว่า ได้รับรายงานจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ถึงกรณีที่ตำรวจ บก.ปปป.จับกุมนายวีระชาติ รัศมี นายก เทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ลูกเขยของนายชาดาเรียกรับสินบนจากผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการระบบประปา ได้สั่งการไปว่า ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ไม่มีใครมีเส้นและไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องหากทำผิดกฎหมายต้องรับผิด ทั้งนายชาดา และ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รายงานกับตนโดยตรงว่า ทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย รมช.มหาดไทย แจ้งไปยัง ผวจ.อุทัยธานีแล้ว ถ้ามีหลักฐานต้องสั่งให้นายกเทศมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่และให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน นายชาดาไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำถึงนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล สร้างสังคมให้สงบบ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายที่ บก.ปปป. ค่ำวันเดียวกัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ทล. พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ปปป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมดังกล่าว ระบุว่าสำหรับสำนวนคดีนี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะเร่งรวบรวม พยานหลักฐานให้แล้วเสร็จก่อนส่งต่อให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน เพื่อพิจารณาจะรับสำนวนคดีดังกล่าวมาไต่สวนเองหรือมอบให้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.ดำเนินการต่อ ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า ตำรวจสอบสวนกลางให้ความสำคัญกับคดีนี้ มีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนแน่นหนามากพอที่จะขอศาลออกหมายจับดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ส่วนแนวทางหลังจากนี้จะต้องขยายผลกวาดล้างผู้มีอิทธิพลให้หมดไปจากพื้นที่ สำหรับแผนประทุษกรรม จากแนวทางสืบสวนพบนายวีระชาติจะทำหน้าที่เป็นผู้สั่งการ แล้วให้ลูกน้องแบ่งหน้าที่กันทำ ส่วนจะให้ประกันตัวผู้ต้องหาหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนผู้เสียหาย ป.ป.ช. รับเข้าสู่โครงการคุ้มครองพยานเป็นที่เรียบร้อยแล้วอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่