คอหนังสือจีน ได้ยินเรื่อง “สี่อิ๋วล้างหู” กันบ่อยๆ คอหนังสือไทย โดยเฉพาะชาววัด คงเคยฟังเรื่อง “ลิงล้างหู” กันอยู่บ้าง ในยามอารมณ์คับข้องขุ่นมัว ฟังอีกสักครั้งก็น่าจะยังไหว(กิร ดังได้สดับมา พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช) 108 เรื่องเล่าแฝงคติความคิด เรื่องที่ 65)ลิงฝูงหนึ่งอาศัยอยู่ในป่าทึบ พวกมันมีวาสนาได้อยู่ใกล้ๆฤาษี จึงได้ฟังเรื่องดีๆจากฤาษีเป็นประจำ ลิงฝูงนี้ไม่เพียงรู้เรื่อง ทาน ศีล ภาวนา พวกมันยังสมาทานศีลห้าอย่างเคร่งครัดมันไม่เคยกัดกัน ไม่แก่งแย่งอาหาร มีอะไรก็แบ่งกันกิน ไม่สนุกสนานเกินขอบเขต อยู่กันอย่างสุขสงบแม้อยู่ใกล้เข้าไปในป่าลึก แต่กระนั้นวันดีคืนดี ฤาษีหลายท่านก็ต้องเดินทางเข้าไปเมือง ลิงตัวหนึ่งเก็บความสงสัยไว้เป็นนาน ทำไม พวกพระอาจารย์จึงต้องเข้าไปในเมือง เจ้าลิงอยากรู้ฤาษีไปทำอะไรวันหนึ่ง เจ้าลิงตัวนั้น ก็ตัดสินใจตามฤาษีตนหนึ่งไปถึงเมือง ถึงบ้านมีงานพิธี มันเห็นว่านี่เอง งานของฤาษี ไม่เกี่ยวข้องกับมันสิ่งที่เจ้าลิงอยากรู้มากกว่า ผู้คนในเมืองมีชีวิตอย่างไรทางสัญจรลิงอยู่บนต้นไม้ จากต้นไม้ต้นหนึ่ง เจ้าลิงกระโจนไปจนถึงต้นไม้ใหญ่อีกต้นหนึ่ง มันมองไปที่ลานดินใต้ต้นไม้ เห็นคนหลายคนกำลังฆ่าแพะบูชายัญทันทีที่มีดชำแหละไปที่คอ แพะก็ร้องด้วยความเจ็บปวด เจ้าลิงตกใจ นี่เป็นเรื่องที่ลิงป่าอย่างมันไม่เคยเห็นมาก่อน มันจึงกระโดดหนีจากต้นไม้ต้นนั้น และปีนป่ายต้นต่อๆไปมันหวังว่า ชีวิตในเมือง น่าจะมีเรื่องดีๆ ที่น่ารื่นรมย์ให้ดูบ้างถึงสถานที่แห่งนั้น เป็นอาคารใหญ่ เจ้าลิงเห็นเจ้าหน้าที่กำลังโบยชายคนหนึ่ง มีผู้คนมามุงดูกันแน่น ได้ยินว่าชายคนนี้ขโมยของมาจากตลาด แล้วถูกจับได้มันได้ยินด้วยว่า เสร็จจากโบยแล้ว การลงโทษยังมีต่อไป นักโทษคนนี้จะถูกนำไปขังเจ้าลิงทนดูต่อไม่ไหว มันกระโจนต่อไปสู่ต้นไม้อีกไม่กี่ต้นก็ถึงตลาด เดาว่าคงเป็นที่เกิดเหตุที่มีการขโมยของกัน มันได้ยินเสียงแม่ค้าสองคนด่าทอกันด้วยคำหยาบคายการด่าทอไม่มีผู้ชนะชัดเจน มันก็เห็นสองแม่ค้าลงมือตบตีกันยกใหญ่ ไม่มีใครมาห้าม มันเลี่ยงไปอีกทาง ข้างๆตลาดมีคนนั่งดื่มสุรา หลายคนดื่มไปหัวเราะไป ดูเหมือนคนบ้า คนหนึ่งเมาได้ที่ เอะอะโวยวาย“โอหนอ! น่าอนาถใจนัก” เจ้าลิงรำพึง “มนุษย์ เป็นเช่นนี้ เองหรือ?”ได้เวลาฤาษีเสร็จงานพิธี เจ้าลิงกลับไปตามฤาษีเข้าป่า ทันทีที่เข้าบริเวณอาศรมร่มรื่น...เพื่อนๆลิงทั้งหลาย ก็กรูกันเข้ามาถาม “เป็นอย่างไรเล่าเพื่อน ในเมืองมีอะไรน่าดูแค่ไหน”เจ้าลิงส่ายหน้า “อย่าให้พูดเลยเพื่อนเอ๋ย...”แต่เมื่อถูกเพื่อนรบเร้า “เจ้าลิงจำใจเล่าถึงเรื่องราวที่พบเห็นมากับตา เล่าไม่ทันจบ ลิงเพื่อนๆก็ยกมืออุดหู “พอแล้วๆ ไม่ต้องเล่าแล้ว มนุษย์สกปรกกันขนาดนี้เชียวหรือ ไม่รักษาศีลกันบ้างหรือ?”ว่าแล้วพวกลิงทั้งหลาย...ก็พากันวิ่งไปริมลำธาร วักน้ำมาล้างหูฤาษีเห็นเข้าก็ถาม พอได้ความฤาษีก็รำพึง “เรื่องราวมนุษย์ในเมือง ล้วนไม่เป็นมงคล” ลิงฟังจึงต้องล้างหูเอาอัปมงคลออก แล้วท่านฤาษี ก็นึกถึงพวกมนุษย์ พวกเขาอยู่กับมนุษย์ด้วยกัน สะสมอัปมงคลเข้าหูทุกวันท่านไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนล้างหู ท่านฤาษีสงสัย เอ! พวกเขาอยู่กันได้อย่างไรหนอ!เรื่องลิงล้างหู จบแค่นี้ครับ...ผมไม่กล้ามโนต่อ...นี่ดีหนา! ที่เจ้าลิงตัวนั้น ไม่มีวาสนาไปถึงมหานครใหญ่ ไม่มีวาสนาเข้าไปในสภาที่มียอดแหลมเหมือนเจดีย์...มันคงไม่มีโอกาสกลับไปเล่า กลับไปล้างหูในป่า เหตุเพราะว่า เรื่องราวสกปรกผกผัน หาหลักการ หากฎกติกา หาศีลหาสัตย์ไม่ได้ ของท่านผู้ทรงเกียรติพวกนั้น ทำให้มันหูแตกตายไปเสียก่อน.กิเลน ประลองเชิง