“สืบนครบาล” บุกรวบกรรมการ บริษัท ร่วมแก๊งลวงเหยื่อลงทุนให้เช่า พื้นที่เก็บข้อมูลใน “คลาวด์ สตอเรจ” อ้างผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยแบงก์ เหยื่อหลงเชื่อ กว่า 3,500 ราย ความเสียหายกว่า 1.3 พันล้านบาท “ดีเอสไอ” รับคดีจับกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทไปแล้ว แต่แม่ผู้ต้องหายังหายตัว หลังผ่านมาเป็นปีเหยื่อแห่ร้องสืบนครบาลคดีไม่คืบ จัดชุดสืบสวนพบว่าหนีไปบวชที่สถานปฏิบัติธรรมในโคราช แถมมีหมายจับข้อหาเดียวกันของ สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง บุกล็อกตัวคาผ้าขาว ให้การปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น ลูกชายมาขอเอาชื่อไปเป็นกรรมการบริษัทเท่านั้นตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น.ร่วมกับชุด PCT 5 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนกลุ่มผู้เสียหายถูกบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้เข้าร่วมการลงทุนให้เช่าพื้นที่เก็บข้อมูลส่วนตัวในคลาวด์ สตอเรจ (Cloud Storage) ต่อมาบริษัทไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนตามสัญญา เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 3,531 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท ผู้ต้องหาเป็นกรรมการมีอำนาจลงนามในบริษัทหลบหนีหายเข้ากลีบเมฆ ตั้งแต่หมายจับออกเมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2565หลังเวลาผ่านมาเป็นปียังไม่สามารถออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ครบ กลุ่มผู้เสียหายเริ่มร้อนใจเข้าร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล (IDMB) ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางพัฒนา ด้วงชนะ อายุ 69 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 54 หมู่ 4 ต.อ่างแก้ว อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่โดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มิ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฐานะหัวหน้าชุด PCT 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT 5 ออกสืบหาข้อมูลไล่ล่าผู้ต้องหารายนี้พบพฤติการณ์ผู้ต้องหาคือเปิดบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด ร่วมกันหลอกลวงชักชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนให้บริหารเช่าพื้นที่บนคลาวด์ สตอเรจ เสนอผลตอบแทนให้ผู้ร่วมลงทุนในอัตราสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงิน คล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่ เป็นเหตุให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินเข้าร่วมลงทุนกับบริษัทเป็นจำนวนมาก ต่อมาบริษัทไม่สามารถจ่ายผลตอบแทน เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษไว้ 3,531 ราย เข้าให้การต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 2,878 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,303,127,202.99 ล้านบาท แต่ยังไม่มาให้การอีก 653 รายในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษจับกุมตัว ผู้ก่อเหตุแล้ว 1 คน คือนายศุภสรร ด้วงชนะ กรรมการบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีร่ีส์ จำกัด และประสาน ปปง.ติดตามทรัพย์สินของผู้ต้องหาเพื่อนำมาเยียวยาให้ผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง แต่ยังมีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องหลบหนียังไม่สามารถติดตามตัวได้ ตรวจสอบพบนางพัฒนามีหมายจับของ สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง ติดตัวในความผิดเดียวกัน ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างพิจารณาเสนอศาลขออนุมัติออกหมายจับ นางพัฒนา ด้วงชนะ มารดาของนายศุภสรร ด้วงชนะ กรรมการที่มีอำนาจลงนามในบริษัท คอนเซ็ปต์ ซีรี่ส์ จำกัด แต่นางพัฒนาหลบหนีหายเข้ากลีบเมฆตั้งแต่ลูกชายถูกหมายจับ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.65 กลุ่มผู้เสียหายเข้าร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นางพัฒนา ด้วงชนะ ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีโดยเร็ว เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด PCT 5 รีบดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี เนื่องจากถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนเป็นคดีที่มีผู้เสียหาย รวมทั้งความเสียหายจำนวนมากต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ชุดสืบสวนนครบาล และชุด PCT 5 ร่วมกันจับกุมนางพัฒนา ด้วงชนะ อายุ 69 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปางที่ 79/2565 ลงวันที่ 3 พ.ค.2565 กระทำความผิดข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และข้อหาร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ภายในสถานปฏิบัติธรรมนาโสกวิปัสสนา ฐิตธัมโม ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นคร ราชสีมา ขณะบวชชีอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวในชั้นจับกุมนางพัฒนาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ให้ข้อมูลว่าเดิมทีตนเป็นอาจารย์สอนระดับมัธยมศึกษาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง หลังเกษียณบุตรชายขอนำชื่อไปเป็นกรรมการในบริษัท ไม่ทราบการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าว ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมพบตัวขณะผู้ต้องหาบวชชีและปฏิบัติธรรมอยู่ในสถานปฏิบัติธรรม มีอดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมเดียวกันด้วย ทำให้ชุดสืบสวนเชื่อว่า อาจเป็นอีกหนึ่งวิธีการในการให้รอดพ้นจากการสืบสวนจับกุมตัวตามหมายจับในคดี หลังสอบสวนเบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง ดำเนินคดีพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ฐานะหัวหน้าชุด PCT 5 กล่าวว่า ขอแจ้งเตือนภัยไปยังผู้กระทำผิดอย่าทำศาสนาต้องมัวหมอง ใช้การหลบหนีคดีมาบวชหรือปฏิบัติธรรม หากสำนึกผิดจริงๆต้องรับโทษทางกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน จะไม่ทำให้ศาสนาเสียหาย หากประชาชนพบการกระทำผิด หรือต้องการขอความช่วยเหลือ โปรดแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้เป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อนเราทำทันที ตามนโยบาย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.