วันเสาร์สบายๆรอรัฐบาลใหม่วันนี้ ผมชวนท่านผู้อ่านไปฝันถึงโลกใหม่ในอนาคตอันสวยงามของประเทศไทยกันนะครับ “ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว” เรื่องนี้ไม่ใช่ผมฝันคนเดียว แต่เป็นการวาดฝันจากงานสัมมนาทางวิชาการหัวข้อ A portrait of High–income Thailand : Future Labor Market Outlook ที่ผมเก็บมาจากรายงานของ “ไทยรัฐออนไลน์” ตั้งแต่ตุลาคมปี 65 โดยสมมติให้ มีประเทศไทยอีกประเทศหนึ่งอยู่ในโลกคู่ขนาน ซึ่งเป็น “ประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว” มีจีดีพีเพิ่มขึ้น 1.8 เท่าจากจีดีพีไทยก่อนเกิดโควิด เป็นฝันที่น่าสนใจนะครับนิยามของประเทศที่พัฒนาแล้วต้องมี GDP per capita หรือ รายได้ต่อหัวต่อปีของประชากร ตั้งแต่ 12,000–15,000 ดอลลาร์ขึ้นไป ถ้าเอาอัตราแลกเปลี่ยน 34 บาทต่อดอลลาร์ คูณ จะตกราวปีละ 408,000-510,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 34,000-42,500 บาทแต่จากข้อมูลของ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ปี 2565 คนไทยมีรายได้ต่อหัวต่อปี 7,089.7 ดอลลาร์ หรือปีละ 248,635.30 บาท เฉลี่ยเดือนละ 20,719 บาท ล่าสุด 15 พฤษภาคม 2566 สภาพัฒน์แถลงจีดีพีไตรมาส 1 ปี 2566 พบว่า รายได้ต่อหัวต่อปีของคนไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7,886.9 ดอลลาร์ หรือปีละ 262,633.30 บาท เฉลี่ยเดือนละ 21,886 บาท แต่ก็ยังต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำของประเทศที่พัฒนาแล้ว เคยมีคนคำนวณว่า ถ้าจะให้ไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีรายได้ต่อหัวต่อปีที่ 15,000 ดอลลาร์ ในปี 2570 ตามที่รัฐบาลปัจจุบันได้ประกาศไว้ จีดีพีไทยต้องเติบโตสูงถึงปีละ 11%ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกจริงวันนี้มี 66 ประเทศ เพื่อนบ้านไทย สิงคโปร์ อยู่อันดับที่ 11 เพื่อนบ้านไทยที่เพิ่งเข้าทำเนียบประเทศที่พัฒนาแล้วล่าสุดในปีนี้ก็คือ มาเลเซียไปดูประเทศไทยที่พัฒนาแล้วในโลกคู่ขนานกันต่อนะครับ จะมีคนไทยที่มีรายได้สูงทักษะสูงทำงานอยู่ในอุตสาหกรรม New S–Curve กว่า 1.5 ล้านคน เช่น พลังงาน อิเล็กทรอนิกส์ โทรคมนาคม เครื่องมือการแพทย์ อาหารมูลค่าสูง มีแรงงานในบริการสมัยใหม่ Modern Services ที่มีรายได้สูงกว่า 9 แสนคน เช่น ที่ปรึกษาการวิจัยและพัฒนาการเงิน การค้า โลจิสติกส์ การสื่อสารคมนาคม มีผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่มีศักยภาพกว่า 9.3 ล้านคน มีการเติมแรงงานและเติมผู้ประกอบการใหม่ที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อรองรับ “โลกใหม่” ที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วโลกคู่ขนานในฝันของประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว จะมีคนไทยก้าวกระโดดจากรายได้ปานกลางหรือน้อยไปเป็น “ผู้มีรายได้สูง” ประมาณ 20 ล้านคน หรือกว่าครึ่งหนึ่งของแรงงานไทยจำนวน 38.2 ล้านคน เป็นการเติบโตอย่างทั่วถึง กระจายตัวไปยังแรงงานส่วนใหญ่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การศึกษาวิจัยสามารถชี้เป้าหมายการพัฒนาในระดับจุลภาคได้เป็นไงครับ ประเทศไทยที่พัฒนาแล้วในโลกคู่ขนาน อยากให้ ผู้นำรัฐบาลใหม่ ฝันให้ไกลไปให้ถึงจริงๆ เพราะคนไทยติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางมานานกว่า 40 ปีแล้ว ยังก้าวไม่พ้นกับดักนี้เสียที มีข้อมูลจากธนาคารโลกที่สถาบันวิจัย KKP นำมาอ้างอิงระบุว่า ช่วงปี 2014-2021 (พ.ศ.2557–2564) ช่วงรัฐบาล คสช.นั่นแหละ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการเติบโตของรายได้ต่อหัวต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นใน ASEANการเติบโตของรายได้ต่อหัวต่อปีเฉลี่ยของ 9 ประเทศในอาเซียนช่วงปี 2557-2564 มีดังนี้ อันดับ 1 เวียดนาม 4.7% รองมา ลาว 3.5% กัมพูชา 3.4% สิงคโปร์ 2.8% อินโดนีเซีย 2.6% ฟิลิปปินส์ 2.5% มาเลเซีย 1.7% ไทยอยู่อันดับ 8 โต 1.4% อันดับ 9 บรูไน ติดลบ 0.8%ถ้า ประเทศไทยไม่เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด คนไทยอาจต้องย่ำอยู่กับ กับดักรายได้ปานกลาง ไปอีก 10 ปี 20 ปี 30 ปี 50 ปี กลายเป็น “1 ศตวรรษ หรือ 100 ปีที่ต้องหายไป” กับโครงสร้างเศรษฐกิจแบบเดิมที่ “รวยกระจุกจนกระจาย” เหมือน 8 ปีที่ผ่านมา เราแพ้ทั้ง เวียดนาม ลาว กัมพูชา ถึงเวลาที่คนไทยต้องตื่นจากฝันเสียที เพื่อสานฝัน “ประเทศไทยที่พัฒนาแล้ว” ให้เกิดขึ้นจริงโดยเร็วที่สุด.“ลม เปลี่ยนทิศ”