หนุ่มกัลบกเมืองเพชรแค้นฝังหุ่นรัวยิงอริบ้านเดียวกันดับสยอง หลังมีปัญหาเบิ้ลรถ จยย.ใส่กัน กลายเป็นความขัดแย้งมาตลอด ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขี่ผ่านหน้าร้านตัดผม ขากลับถูกเจ้าของร้านปืนโหดกระหน่ำยิงด้วย 9 มม. 3 นัด ก่อนควบมอเตอร์ไซค์ไปเปลี่ยนรถกระบะซิ่งเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจระดมกำลังไล่ล่าตามจับได้ทันควันขณะเลี้ยวหนีเข้าไปจนมุมในซอยตันเมืองแม่กลอง สารภาพอ้างถูกผู้ตายให้ของลับก่อนเหตุการณ์เจ้าของร้านตัดผมปืนดุยิงอริคนบ้านเดียวกันดับสยอง หลังไม่พอใจเบิ้ลรถ จยย.ใส่ เปิดเผยเวลา 09.30 น. วันที่ 17 เม.ย. พ.ต.ท.ณรงค์รัชช์ ภัทรวิกรัยกุล สารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิตริมถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ หมู่ 8 ต.ท่าเสน ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี พ.ต.อ.ประสม หงษ์โต ผกก.สภ.บ้านลาด แพทย์เวร รพ.บ้านลาด และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานที่เกิดเหตุอยู่ฝั่งตรงข้ามจุดตรวจสามแยกท่าศาลา พบศพนายนที หรือนัท เขตน้อย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 9 ต.ท่าเสน นอนจมกองเลือดตรงข้ามร้านตัดผม “NOT BARBER” มีแผลถูกยิงด้วยปืน 9 มม. เข้าที่หน้าอก หน้าท้องและสีข้างด้านขวา 3 นัด ใกล้กันพบปลอกกระสุน 5 ปลอก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบจากพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ว่าชื่อนายอนุสรณ์ หรือน็อต กองเงิน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 ต.ท่าเสน และเป็นเจ้าของร้านตัดผมดังกล่าว หลังก่อเหตุขี่รถ จยย.หลบหนีไปน.ส.จันทร์เพ็ญ สิงห์สง่า อายุ 31 ปี แฟนสาวผู้ตาย ให้การอ้างว่า นายนทีกับนายอนุสรณ์เคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อน สาเหตุมาจากมีการเบิ้ลเครื่องรถ จยย.ใส่กัน ก่อนเกิดเหตุตนขี่รถ จยย.ไปส่งแฟนหนุ่มเพื่อไปเอารถ จยย.อีกคันที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่งใน อ.บ้านลาด ระหว่างผ่านหน้าร้านตัดผมของนายอนุสรณ์ ถูกคู่กรณีเบิ้ลรถ จยย.ใส่ลักษณะเหมือนท้าทาย แต่ผู้ตายไม่ได้สนใจ ขากลับนายนที ขี่รถ จยย.คันที่เอาไปล้างนำหน้า ส่วนตนขี่รถอีกคันตามหลัง จังหวะตนจอดติดสัญญาณไฟแดงได้ยินเสียงปืนดัง 3 นัด รีบขี่ไปดูพบแฟนหนุ่มถูกนายอนุสรณ์ยิงเสียชีวิต ก่อนขี่รถ จยย.หลบหนีไปยังถนนเพชรเกษมหลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี สั่งการให้ชุดสืบสวน ภ.จ.เพชรบุรี และตำรวจท้องที่ประสานชุดสืบสวนภาค 7 และตำรวจทางหลวงสกัดจับคนร้าย พบว่าหลังก่อเหตุนายอนุสรณ์ขี่รถ จยย.ไปเปลี่ยนเป็นรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ สี่ประตู สีขาว ทะเบียน กท 28 เพชรบุรี ขับหลบหนีไปทางถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าถนนพระราม 2 แล้ววกกลับรถที่ จ.สมุทรสาคร ตำรวจไล่ติดตามไปอย่าง กระชั้นชิด กระทั่งคนร้ายเลี้ยวหนีเข้าไปในซอยอู่มะดัน ซึ่งเป็นซอยตันในพื้นที่หมู่ 4 ต.บางนางลี่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ก่อนถูกรวบตัวไว้ได้ต่อมาตำรวจคุมตัวนายอนุสรณ์ไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ หลังผู้ต้องหาอ้างว่านำไปโยนทิ้งในหนองน้ำป่ายาง ริมถนนเพชรเกษม บ้านเขาพรมชะแง้ ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 กม. แต่ระหว่างรอนักประดาน้ำจากมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานมางมหาปืน ปรากฏว่านายอนุสรณ์กลับคำให้การอ้างว่าไม่ได้โยนปืนทิ้งน้ำ แต่เอาไปซ่อนไว้ที่บ้านแฟนสาวที่บ้านไสค้าน ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ก่อนพาเจ้าหน้าที่ไปเอาอาวุธของกลางพบปืนขนาด 9 มม.ยี่ห้อนอริงโก้ ไม่มีทะเบียน 1 กระบอก คุมตัวกลับมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพักนายอนุสรณ์รับสารภาพว่ามีปัญหากับนายนทีมานานแล้ว ช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุผู้ตายและแฟนสาวขี่รถ จยย. ผ่านหน้าร้านตัดผมตะโกนให้ของลับ ไม่นานนายนทีขี่รถกลับมาคนเดียวแล้วจอดรถไว้ที่ร้านค้าติดกัน ก่อนเดินมาหาเรื่องตน ตัดสินใจใช้ปืนจ่อยิงแล้วเอาปืนไปซ่อนที่บ้านแฟน เปลี่ยนใช้รถกระบะขับหลบหนีมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แต่เกิดหลงทางจนถูกตำรวจตามจับกุมได้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัตินายอนุสรณ์พบว่าเคยต้องโทษคดีพยายามฆ่าและลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.เมืองเพชรบุรี ติดคุก 6 ปี ส่วนนายนทีคู่กรณีก็มีประวัติเคยติดคุกเช่นเดียวกันในคดีทำร้ายร่างกายและเสพยาเสพติดในพื้นที่ สภ.บ้านลาด และคดีวิ่งราวทรัพย์ท้องที่ สภ.ท่ายาง