ล็อกแล้วสิบเอกแฮกเกอร์ขู่เปิดข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ หลังตำรวจไซเบอร์ขอหมายศาลจับในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เบื้องต้นอ้างทำไปด้วยความคึกคะนอง นอกจากนี้ยังหิ้วพยาบาลสาวเมียสิบเอกมาเค้นสอบเป็นพยานมัดด้วย แฉงานนี้เจอตอ เพราะ รมว.ดีอีเอสที่เคยขึงขังให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้า แต่หลังมีข่าวจับกุมปฏิเสธให้รายละเอียด เช่นเดียวกับตำรวจไซเบอร์อุบเงียบอ้างให้ ผบช.สอท.เป็นผู้ให้ข่าวเท่านั้นกรณีผู้ใช้งานบัญชีที่ใช้ชื่อว่า “9 near” โพสต์ขายข้อมูลส่วนตัวของคนไทยกว่า 55 ล้านรายการ บนเว็บไซต์ Bleach Forums อ้างว่าได้มาจากหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งของประเทศไทย และได้โพสต์ตัวอย่างไฟล์ ระบุชื่อ สกุล ที่อยู่ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์และเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทั้งระบุ ข้อความข่มขู่ผู้เสียหายให้ติดต่อกลับ สร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ ประสานข้อมูลกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส เร่งตรวจสอบ พร้อมระบุคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมากและเร็วๆนี้จะมีการแจ้งให้ประชาชนรับทราบพร้อมกับยืนยันว่าขณะนี้ตำรวจรู้ตัวแล้วและขอเวลาทำงานอีกสักนิดความคืบหน้าเรื่องนี้มีรายงานเมื่อวันที่ 6 เม.ย.ว่า พนักงานสอบสวนกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ขอศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดนี้แล้ว เป็นทหารชั้นประทวนยศสิบเอก ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 “มาตรา 27 ห้ามมิให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”ทั้งนี้ มีรายงานว่า ต้นสังกัดของทหารนายดังกล่าวนำมามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นมีรายงานว่าสิบเอกคนดังกล่าวกระทำไปด้วยความคึกคะนอง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้คุมตัวภรรยาของสิบเอกรายนี้ ซึ่งเป็นพยาบาล รพ.แห่งหนึ่ง เพื่อสอบปากคำมัดตัวสิบเอกรายนี้ว่าเป็นการจงใจหรือเป็นความคึกคะนองตามที่อ้างหรือไม่ขณะเดียวกัน หลังการมอบตัวความไม่ชอบมา พากลในการจับกุมแฮกเกอร์สีเขียวเริ่มปรากฏ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปฏิเสธการให้ข้อมูลการจับกุม ไม่ว่าจะเป็นนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่เคยออกมาเปิดเผยขึงขังถึงกรณีแฮกเกอร์กลุ่มดังกล่าวเรียกค่าไถ่ข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนไทย 55 ล้านรายการ รวมทั้งส่งเอสเอ็มเอสไปยัง 200 ผู้เสียหายพร้อมระบุ รู้ตัวคนร้ายแล้วและเตรียมล็อกเป้าเพื่อเข้าจับกุม แต่นายชัยวุฒิปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ เช่นเดียวกับตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ต่างไม่ยอมให้รายละเอียด อ้างว่าต้องให้ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เป็นผู้ให้รายละเอียดเพียงคนเดียว เมื่อผู้สื่อข่าวโทร.ติดต่อไปเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ แต่ พล.ต.ท.วรวัฒน์ไม่รับสายเช่นเดียวกับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวพยายามสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะทีมโฆษก ตร. แต่ได้รับการปฏิเสธ อ้างว่ากำลังอยู่ระหว่างขอรายละเอียดเรื่องนี้จากผู้เกี่ยวข้องก่อน อย่างไรก็ตาม คาดว่าความชัดเจนในการจับกุมแฮกเกอร์รายนี้น่าจะปรากฏในวันที่ 7 เม.ย.นี้