ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่แล้วต่อยอดมาจนถึงวันจันทร์ ผมหลบลมร้อนและ PM 2.5 จาก กทม.ไปนอนค้างคืนที่พัทยามาครับอาศัยบริการของ “รัฐบาลชุดนี้” (เขียนเป็นรวมๆ จะได้เอาเครดิตไปแบ่งกัน แต่ลุงตู่ได้มากหน่อยในฐานะหัวหน้ารัฐบาลตามสูตรของการแบ่งผลงานวิจัย ใครที่เป็นหัวหน้าโครงการจะได้รับเยอะหน่อย) ที่เรียกว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันนั่นแหละครับได้ทั้งค่าห้องพัก ได้ทั้งค่าอาหาร ทำให้ผมประหยัดไปได้เกือบครึ่งก็เลยตัดสินใจเลือกไปพัทยาและเลือก โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช ซึ่งปกติจะต้องจ่ายค่าห้องค่าอาหารสูงกว่านี้มากโดยส่วนตัวผมสนิทสนมกับ คุณพงา วรรธนะกุล ประธานของรอยัล คลิฟ กรุ๊ป อยู่พอสมควรเพราะสมัยก่อนผมอยู่สภาพัฒน์ได้เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศมาจัดสัมมนาบ่อยๆ และผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศก็มักจะเลือกรอยัล คลิฟนี่แหละเป็นสถานที่จัดสัมมนาพวกเราที่เป็นฝ่ายเลขานุการจัดงานขาดเหลืออะไรจะต้องประสานกับทางโรงแรม ซึ่งยุคโน้นคุณพงา ยังลงมาดูแลเต็มที่ แอร์ไม่เย็น เครื่องขยายเสียงไม่ดังก็ต้องวิ่งไปหาท่านให้สั่งการแก้ปัญหา ฯลฯจึงรู้จักคุ้นเคยกันเรื่อยมากว่า 40 ปีเห็นจะได้ และเมื่อผมออกจากระบบราชการมาแล้ว คุณพงาก็ยังคิดถึงให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์โทรศัพท์เชิญชวนผมและครอบครัวไปร่วมงานฉลองรางวัลต่างๆของรอยัล คลิฟอยู่เสมอๆจนกระทั่งในยุคโควิด-19 อาละวาดจนเศรษฐกิจทรุด ธุรกิจท่องเที่ยวทรุดและรัฐบาลก็มีโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจประเภทเราเที่ยวด้วยกันบ้าง คนละครึ่งบ้าง ออกมาช่วยโรงแรมและร้านอาหาร ฯลฯตัวผมเองลงทะเบียนกับเขาไม่เป็นก็วานลูกๆหลานๆทำให้ แล้วก็แอบมาที่รอยัล คลิฟ โดยไม่บอกให้เจ้าของโรงแรมรู้...ถือโอกาสอุดหนุนตอบแทนท่านบ้าง โดยการใช้สิทธิจากรัฐบาลน่าจะทำมา 2-3 ครั้งแล้วครับในช่วงโควิดไปคราวนี้ปรากฏว่าทางโรงแรมปรับปรุงสระใหม่เพิ่งเสร็จไม่นาน กลายเป็นสระ 2 ชั้น...ชั้นบนค่อนข้างยาวมาก ว่ายกันเหนื่อยจากหัวสระถึงท้ายสระ แถมช่วงท้ายสระจะเป็นพื้นกระจกทั้งพื้น และด้านข้างก็เป็นกระจกอีก ถ่ายรูปสวยอย่าบอกใครผมจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในสระน้ำแล้วก็รับประทานอาหารในโรงแรมตลอด 3 วันที่นอนอยู่พัทยานานๆก็จะลงไปดูบรรยากาศชายหาดบ้างเพื่อหาข้อมูลหาความรู้ว่าพัทยาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง และฟื้นหรือยังหลังเจอศึกโควิด-19 อยู่หลายปีผมสรุปได้ว่าฟื้นแล้วครับ ฟื้นมากด้วย...จากเหตุผลข้อแรกก็คือรถติดมาก เพราะมีรถจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆเข้าไปเที่ยวกันมาก บวกด้วยรถทัวร์ของนักท่องเที่ยวที่ออกวิ่งขวักไขว่ไปหมดโรงแรมรอยัล คลิฟ เต็มเอี้ยด 100 เปอร์เซ็นต์ในช่วงวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ที่แล้ว และลดลงเหลือเกือบๆ 80 เปอร์เซ็นต์ในวันธรรมดา ซึ่งผมเดาว่าโรงแรมอื่นๆก็น่าจะอยู่ในสถานภาพเดียวกันที่ชายหาดจอมเทียนยาวเป็นกิโลเมตรมีผู้คนลงไปนั่งเล่นบ้างไปเล่นวอลเลย์บอลชายหาดบ้างเต็มพรืด อย่างเหลือเชื่อผมดูแล้วกว่าครึ่งเป็นพวกเราชาวไทยนี่แหละ...และน่าจะเป็นครอบครัวทั่วๆไป เพราะมากับรถปิกอัพเป็นส่วนใหญ่ร้านอาหารดังๆก็เต็มหมด แถมยังมีคนนั่งรอคิวอีกยาวเหยียด เห็นแล้วชื่นใจแทนร้านอาหารต่างๆ ของเมืองพัทยา เมื่อวันหยุดที่ผ่านมากลับมาถึงบ้านก็ทราบว่าใน กทม. เราก็คึกคักไม่เบา ทั้งบรรยากาศการท่องเที่ยว และบรรยากาศการเลือกตั้ง ที่เริ่มเปิดรับสมัคร ส.ส.แล้ว ทั้งประเภทแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีถึง 53 พรรค รวมทั้งการส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ซึ่งยังไม่ครบ แต่ข่าวว่า 20 รายชื่อเข้าไปแล้วคึกคักในทุกภาคส่วนอย่างนี้ เศรษฐกิจไทยเราไปฉิวแน่นอนครับ โดยเฉพาะไตรมาสนี้ ซึ่งยังมีเทศกาลสงกรานต์รออยู่ และเทศกาลเลือกตั้งที่ยังจะมีการใช้จ่ายต่างๆ เพื่อการหาเสียงไปอีกตลอดทั้งเดือนแต่ก็น่าเสียดายและน่าเห็นใจสำหรับพี่น้องภาคเหนือ ตั้งแต่เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน ฯลฯ อะไรเหล่านี้ที่ยังเจอฝุ่นพิษ PM 2.5 คลุ้งไปหมด ไม่แน่ใจว่าจะมีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากน้อยเพียงใด?ก็ขอฝากพี่น้องจังหวัดอื่นๆให้ไปช่วยดับทุกข์ของพี่น้องชาวเหนือด้วย...สงกรานต์นี้ไปเที่ยวกันเยอะๆนะครับ เอานํ้าไปฉีดไปดับ PM 2.5 ให้พี่น้องชาวเหนือชื่นใจ...จะได้ลืมความทุกข์ความโศกไปได้บ้าง ฝากภาคเหนือไว้ด้วยนะครับ สงกรานต์นี้.“ซูม”