รูปแบบของชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรเพโลพอนนีส ซึ่งเป็นภูมิภาคในกรีซ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความโดดเด่นมาก เนื่องจากตามแนวโค้งที่ขยายออกไปของอ่าวคิปปาริสเซีย มีลักษณะเป็นกลุ่มเนินเขาหินแข็ง 2 ลูกถูกล้อมรอบด้วยตะกอนน้ำที่พัดพามาจากพื้นที่อื่นๆ ทั้งจากทะเลสาบและชายฝั่ง เป็นพื้นที่เข้าถึงได้ง่ายและปลอดภัย ดังนั้น การตั้งถิ่นฐานจึงเกิดขึ้นที่นี่ในยุคไมซีเนียนและรุ่งเรืองต่อเนื่องมาหลายร้อยปีในปี 2561 ทีมวิจัยนำโดยผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยไมนซ์ ในเยอรมนี ร่วมมือกับสถาบันโบราณคดีแห่งออสเตรียสาขาเอเธนส์ และหน่วยงานคุ้มครองอนุสรณ์สถานท้องถิ่นในกรีซ สำรวจเพื่อศึกษาว่าแหล่งโบราณคดี Kleidi ที่ตั้งอยู่ระหว่างหาดทรายของทะเลไอโอเนียนบนอ่าวคิปปาริสเซียเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป ผลการตรวจสอบมีหลักฐานบ่งชี้ว่าภูมิภาคนี้เคยประสบกับเหตุการณ์สึนามิซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งในยุคก่อนประวัติศาสตร์และยุคประวัติศาสตร์ ล่าสุดก็คือในคริสต์ศตวรรษที่ 6 และ 14 จนกระทั่งเมื่อปี 2564 นักธรณีฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยคีล ในเยอรมนี ก็พบร่องรอยของโครงสร้างในบริเวณเชิงเขาด้านตะวันออกของกลุ่มเนินเขาหินดังกล่าว โดยในปี 2565 โครงสร้างเหล่านี้ ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นรากฐานของวิหารโบราณ ซึ่งอาจเป็นวิหารของเทพโพไซดอนที่ค้นหากันมานานอย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ทางโบราณคดี ธรณีโบราณคดี และธรณีฟิสิกส์ จะจัดทำอย่างละเอียดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทีมวิจัยหวังจะสามารถ พิสูจน์ได้ว่าโครงสร้างปริศนานี้มีความสัมพันธ์เฉพาะกับแนวชายฝั่งที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายหรือไม่ในช่วง 11,600 ปีที่ผ่านมา.Credit : Dr. Birgitta Eder / Athens Branch of the Austrian Archaeological Institute