“เสี่ยอ่าง” โพสต์กระแทก เลขาฯ ป.ป.ส. เพิ่งตื่น ยึดทรัพย์เครื่องบินส่วนตัว “ตู้ห่าว” ซ้ำทำ “วันแมนโชว์” บุกยึดโดยไม่กระซิบตำรวจที่ลงแรงจับกุม ซัดต่อแค่เครื่องบินลำเดียวยังทำงงได้ขนาดนี้ ยังไปไม่ถึงทรัพย์สินหลักมูลค่าหลายพันล้าน เชื่อป่านนี้ทำลายหลักฐานหมด เจ้าตัวโวลอง “ล็อกเป้า” ใครอย่าพลาด ขอชำแหละให้ถึงกระดูก ขณะเดียวกันโลกออนไลน์ว่อนหนังสือสำคัญแปลงสัญชาติไทยตู้ห่าวเมื่อปี 57 มี รมว.มหาดไทยลงนามกรณีตำรวจไทยปฏิบัติการไล่ล่ากลุ่มทุนสีเทาจีนในเมืองไทย เริ่มจากบุกจับคาราโอเกะจินหลิง ในท้องที่ สน.ยานนาวา และขยายผลจากรถหรูที่ยึดได้กว่า 30 คันในวันนั้น ไปยังผู้เกี่ยวข้อง มีการตรวจค้นจับกุมยึดเงินสดและทรัพย์สินได้หลายราย ขณะเดียวกัน นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวดเมืองไทย นำข้อมูลทุนเทาจีน มอบให้ตำรวจเป็นเบาะแส ล่าสุดนายวิชัย ไชยมงคล เลขาฯป.ป.ส.มีคำสั่งให้ยึดเครื่องบินส่วนตัวของนายตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ สมาชิกกลุ่มธุรกิจทุนสีเทาจีน หลังพบรายชื่อผู้ครอบครองมีความเกี่ยวข้องกัน ขณะจอดอยู่ที่โรงเก็บสนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนนายตู้ห่าว ถูกส่งฟ้องศาลอาญาไปก่อนหน้าความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ภายหลัง ป.ป.ส.ยึดเครื่องบินส่วนตัวของนายตู้ห่าว หรือนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 พ.ย. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าพ่ออาบอบนวด ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ในช่วงสามทุ่มวันเดียวกันว่า ยึดแล้ว! เรื่องจริง ยิ่งกว่านิยาย ด่วน! เลขาธิการ ป.ป.ส. แจงคำสั่งล่าสุด ยึดเครื่องบินตู้ห่าวแล้ว ยันรายชื่อผู้ครอบครองเกี่ยวข้อง “ตู้ห่าว” เตรียมเรียกชี้แจงที่มา-ที่ไปเครื่องบิน ส่วนทรัพย์สินอื่นรอตำรวจส่งบัญชีรายการทรัพย์สินพิจารณา ภายใน 7 วัน ก่อนออกคำสั่งยึดเมื่อวันที่ 25 พ.ย.ตอนบ่าย ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม บอก “ป.ป.ส. ไปยึดแล้วเรียบร้อย” แต่พอตกเย็นเลขาธิการ ป.ป.ส. บอก “ไม่จริง ยังไม่ได้ยึด เพราะไปถึงเจอชื่อไม่ใช่ตู้ห่าว เลยยึดไม่ได้”ข้อความในเฟซบุ๊กอดีตเจ้าพ่ออ่างระบุต่อว่า ถามจริงๆว่าท่าน ป.ป.ส. จะติด “โควิด” ไม่สบายหรือเปล่า ใจคอท่านจะไม่ดูหลักฐานว่าใครเป็นเจ้าของก่อนไปยึดเลยเชียวหรือ คงไม่ใช่ท่านไปยืนหน้าเครื่องบินที่หัวหินแล้ว เพิ่งมานึกขึ้นได้ว่าเออ มันไม่ใช่ชื่อตู้ห่าว โถ ท่านเลขาฯ ป.ป.ส. เจ้าขา นี่มันเครื่องบินทั้งลำ ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซค์นะครับหรือว่าไปเดินสะดุด “ตอ” เอา ต้องให้ผมไล่งัดเอกสารหลักฐานมาให้ดู ว่าใครเป็นเจ้าของ ใครเป็นนอมินี ดูที่หุ้นบริษัทก็รู้ ชื่อบริษัทก็มีชัดเจน แถมชื่อที่หางก็บอกว่า HAO แปลว่า ห่าว ชื่อนายตู้ห่าว คงไม่อ่านเป็น “หาว” ง่วงนอนนะครับ หลังจากผมโชว์หลักฐาน ท่านเลยเพิ่งตื่น กลับลำว่า “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ของตู้ห่าวจริงๆด้วย แล้วท่านก็ยัง “วันแมนโชว์” ไปยึดเอาเอง ไม่ได้คิดจะกระซิบสะกิดบอกตำรวจเสียหน่อยว่าจะไปยึด ตำรวจเขาอุตส่าห์จับมา พอตอนไปยึดทรัพย์สิน ไม่บอกกันมั่งเลยข้อความในเฟซบุ๊กนายชูวิทย์ระบุต่อว่า อีกทั้งผมได้มอบรายการทรัพย์สินเป็นเอกสารมากกว่า 500 แผ่น ให้มีทั้งท่านเลขาฯ รมว.ยุติธรรม ป.ป.ส. ดีเอสไอ รับไปกับมือ ยืนถ่ายรูปเป็นที่ระลึกออกสื่อให้เห็นจะจะแต่นี่ ป.ป.ส. เล่นป่าวประกาศรอตำรวจมาส่งรายการทรัพย์สินอีก 7 วัน ล้อเล่นกันหรือเปล่า ประกาศเสียแบบนี้ คงทำลายหลักฐานกันป่นปี้วุ่นวาย แค่เครื่องบินลำเดียว ยังทำเอางงได้ขนาดนี้ ยังไปไม่ถึงทรัพย์สินหลักมูลค่าหลายพันล้าน แล้วจะทันได้ไงครับท่านเลขา ป.ป.ส. เพราะขนาดตอนบุกจินหลิง ยังมีตำรวจเอารถหรู 4 คันมูลค่ากว่าร้อยล้านออกได้หายวับไปกับสายลมมันเป็นเรื่องจริงที่ยิ่งกว่านิยายเชื่อว่า “ปาฏิหาริย์ อิทธิฤทธิ์” ยังมีอีกแยะ แต่ลองผม “ล็อกเป้า” ใคร อย่าพลาดแล้วกัน ผมขอชำแหละให้ถึงกระดูก ประชาชนเขาดูอยู่วันเดียวกัน ในสื่อออนไลน์มีการเผยแพร่ หนังสือสำคัญการแปลงสัญชาติเป็นไทยของนายหาวเจ๋อ ตู้ หรือตู้ห่าว อยู่บ้านเลขที่ 79/150 ซอยรามคำแหง 76 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนพิเศษ 245 ง เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.2557 ไว้แล้ว ดังนี้ นายหาวเจ๋อ ตู้ ย่อมได้สัญชาติไทยโดยสมบูรณ์ ตามความในมาตรา 10 แห่ง พ.ร.บ. สัญชาติ พ.ศ. 2508 ขอรับรองยืนยันมาเพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ผู้ที่จะได้พบเห็นหรือตรวจสอบ ลงวันที่ 26 ม.ค.2558 ลงนามโดย พ.ต.อ.รัฐพล แม้นจันทรารัตน์ รองผู้บังคับ การปฏิบัติราชการแทน ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจสันติบาลทั้งนี้ นายหาวเจ๋อ ตู้ อยู่ในลำดับรายชื่อที่ 35 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากรายชื่อทั้งหมด 37 คน ได้ยื่นเรื่องขอแปลงสัญชาติเป็นไทยตาม พ.ร.บ.สัญชาติ 2508 ได้เห็นหลักฐานเป็นที่พอใจแล้วว่า ผู้ยื่นเรื่องได้ปฏิบัติถูกต้องตามบทบัญญัติ พ.ร.บ.ดังกล่าว และผู้ยื่นเรื่องได้กระทำพิธีปฏิญาณตนตามระเบียบแล้ว ขอประกาศให้ทราบทั่วกัน ผู้ที่กล่าวชื่อมาแล้วนั้นได้รับการอนุญาตให้แปลงเป็นสัญชาติไทย ประกาศ ณ วันที่ 6 พ.ย.57 ลงนามโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย